โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ มั่นใจการจัดสรรน้ำฤดูแล้งปี 2565/66 เป็นไปตามแผนที่วางไว้ พร้อมกำหนดแผนบริหารจัดการน้ำฤดูฝนปี 2566 ควบคู่การรับมือปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Nino) ย้ำ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับมือสถานการณ์น้ำ
วันนี้ (18 พ.ค.) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มั่นใจว่า กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการตามแผนจัดสรรน้ำฤดูแล้งปี 2565/66 และการปฏิบัติการดำเนินการในช่วงเวลาที่ผ่านมา เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ ส่งผลให้ในเขตพื้นที่ชลประทานมีน้ำใช้อย่างเพียงพอ และไม่เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำ พร้อมทั้งกำหนดแนวทางรับมือฤดูฝนในปี 2566 เน้นย้ำการปฏิบัติตาม 12 มาตรการอย่างเคร่งครัด ควบคู่ไปกับการรับมือปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Nino) ซึ่งเป็นความผันเเปรของสภาพอากาศในมหาสมุทร ตลอดจนเน้นการเก็บกักน้ำให้ได้มากที่สุด ป้องกันปัญหาขาดแคลนน้ำในอนาคต
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการบริหารจัดการน้ำฤดูแล้งในปี 2564/65 (สิ้นสุดลงแล้วเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2565) จัดสรรน้ำทั้งประเทศไว้รวมทุกกิจกรรม 22,280 ล้านลูกบาศก์เมตร สำรองน้ำต้นฤดูฝน 15,557 ล้านลูกบาศก์เมตร ด้านการเพาะปลูกฤดูแล้งทั้งประเทศ มีการเพาะปลูกรวมกว่า 8.11 ล้านไร่ โดยกรมชลประทาน สามารถบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งตามปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่ได้อย่างเต็มศักยภาพ ด้วยการจัดสรรน้ำอย่างประณีต ภายใต้มาตรการรับมือฤดูฝนในปี 2565 ทั้ง 13 มาตรการ ทำให้ในเขตพื้นที่มีน้ำใช้เพียงพอ โดยในปัจุบันพบว่า การจัดสรรน้ำเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ซึ่งในเขตพื้นที่มีน้ำใช้เพียงพอ และไม่เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำ อีกทั้งยังทำให้มีปริมาณน้ำสำรองไว้ใช้ในช่วงต้นฤดูฝนมากกว่าแผนที่วางไว้อีกด้วย
ช่วงฤดูแล้งในปี 2565/66 กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้วางแผนจัดสรรน้ำฤดูแล้ง (ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 - 30 เมษายน 2566) ไว้ทั้งสิ้น 27,685 ล้านลูกบาศก์เมตร เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยาจัดสรรน้ำไว้ประมาณ 9,100 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อสนับสนุนการใช้น้ำเพื่ออุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ การเกษตร อุตสาหกรรม รวมไปถึงการควบคุมค่าความเค็มและคุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลักต่างๆ ภายใต้มาตรการฤดูแล้งปี 2565/66 ของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) สำหรับด้านการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งปี 2565/66 มีการเพาะปลูกรวม 10.38 ล้านไร่ เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยารวม 6.35 ล้านไร่ ซึ่งเป็นไปตามแผนการเพาะปลูกที่วางไว้เช่นกัน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์สภาพอากาศในช่วงฤดูฝนปี 2566 พบว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤษภาคมนี้ ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งคาดว่า จะมีปริมาณฝนตกน้อยกว่าค่าปกติประมาณร้อยละ 5 และมีโอกาสสูงที่พายุหมุนเขตร้อนจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ในช่วงเดือนสิงหาคมหรือกันยายน 2566 พร้อมเดินหน้าเน้นย้ำโครงการชลประทานทั่วประเทศ ปฏิบัติตาม 12 มาตรการฤดูฝนปี 2566 ของ กอนช. รวมไปถึงเตรียมรับมือกับอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้น ด้วยการวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ น้ำท่า และกำหนดผู้รับผิดชอบพื้นที่เสี่ยงที่ได้รับผลกระทบ ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันติดตาม
สถานการณ์น้ำ และประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนให้รับรู้ เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ตลอดจนจัดสรรทรัพยากร เครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ และอื่นๆ ที่ประจำอยู่ทั่วประเทศรวม 5,382 หน่วย ให้สามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้ตลอดเวลาอีกด้วย
“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญต่อการบริหารจัดการน้ำอย่างครอบคลุม ด้วยการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ และสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อความปลอดภัย ปกป้องวิถีชีวิต และทรัพย์สิน รวมถึงพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน พร้อมสั่งการเน้นย้ำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบถึงสถานการณ์น้ำอย่างทันท่วงที เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และดูแลช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที” นายอนุชา กล่าว