นายกฯ สั่งการทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมรับฤดูฝน แก้ปัญหาน้ำท่วม ในพื้นที่เศรษฐกิจ ทั้ง กทม.และทุกจังหวัด รวมถึงการแก้ปัญหาการจราจร บรรเทาความเดือดร้อนประชาชนในพื้นที่ฝนตกหนักและเสี่ยงน้ำท่วม
วันนี้ (29 เม.ย.) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์สภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง แสดงความห่วงใยประชาชนหลายพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงที่จะเริ่มเปลี่ยนจากฤดูร้อนเข้าสู่ฤดูฝน ทำให้มีพายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางจุด บางพื้นที่ของประเทศไทย และอากาศยังร้อนถึงร้อนจัดในบางพื้นที่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กรมประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร ฯลฯ เตรียมความพร้อมและมาตรการรับมือฤดูฝนทุกด้านครอบคลุมทั้งการวางแผน การประชาสัมพันธ์ การซ่อมแซม/ปรับปรุงอาคารชลศาสตร์ และระบบระบายน้ำให้พร้อมใช้งาน เช่น อาคารบังคับน้ำ ประตูระบายน้ำ แก้ไขสิ่งกีดขวางทางน้ำ และกำจัดผักตบชวา ขุดลอกคูคลอง เตรียมความพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ รวมทั้งเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนเพื่อเก็บกักไว้ใช้ช่วงฤดูแล้ง รวมไปถึงการแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ และระบบท่อระบายน้ำให้พร้อมรองรับสถานการณ์โดยเฉพาะพื้นที่เศรษฐกิจใน กทม. และทุกจังหวัด ตลอดจนเตรียมแผนการแก้ปัญหาจราจร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่เสี่ยงการเกิดอุทกภัยด้วย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกำชับให้ทุกหน่วยงานเฝ้าติดตามสภาพอากาศและติดตามสถานการณ์น้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่-กลาง เพื่อเฝ้าระวังและควบคุมการบริหารจัดการน้ำให้เป็นไปตามเกณฑ์ปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำหรือเกณฑ์ควบคุม จัดทำแผนการบริหารจัดการน้ำแหล่งน้ำขนาดใหญ่-กลาง ในช่วงภาวะวิกฤติ รวมทั้งการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ลุ่มต่ำเพื่อรองรับน้ำหลาก ตลอดจนเตรียมความพร้อมแผนป้องกัน แผนเผชิญเหตุ ความพร้อมด้านบุคลากร เครื่องจักร ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอและทันต่อสถานการณ์ พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชนและชุมชนต่างๆ ไม่ทิ้งขยะลงคูคคลอง และท่อน้ำที่จะทำให้อุดตันและกีดขวางทางน้ำไหลได้สะดวก ทั้งนี้ เพื่อป้องกันและลดปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ที่มีฝนตกหนักโดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่เสี่ยงการเกิดอุทกภัย รวมทั้งเน้นย้ำทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนกลางและพื้นที่ติดตาม ประเมินผล และปรับมาตรการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ภัยตลอดช่วงฤดูฝน รวมถึงสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบข้อมูลที่ถูกต้องอย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมการรับมือนต่อสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที
“รัฐบาลห่วงใยประชาชน ขอให้ดูแลรักษาสุขภาพ และระวังโรคลมแดดเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อน และขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 29 เม.ย.- 1 พ.ค. 66 โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ไม่ควรสวมใส่โลหะ และหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือขณะเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงไว้ด้วย และขอให้ประชาชนในบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย รวมทั้งขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องเพื่อเตรียมความพร้อมได้ทันต่อสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น” นายอนุชา กล่าว