xs
xsm
sm
md
lg

“สมชัย” เร่ง กกต.วินิจฉัยประชานิยม แนะ คลัง-สำนักงบฯ ช่วย เตือนติดคุกแบบรุ่นพี่ ติง “แสวง” ปากไว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สมาชิกเสรีรวมไทย แนะ กกต.เร่งวินิจฉัยปมนโยบายประชานิยม ไม่ชำนาญประสานกระทรวงคลัง-สำนักงบฯ ช่วยวิเคราะห์ เตือนช้าอาจซ้ำรอย ติดคุกตาม กกต.รุ่นพี่ อัด “แสวง” ปากไว บอกไม่เข้าข่ายสัญญาว่าจะให้ ชี้ เป็นอำนาจ กกต.ต้องวินิจฉัย

วันนี้ (11 เม.ย.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย และอดีต กกต.กล่าวถึงนโยบายหาเสียงแจกเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทย ว่า นโยบายของหลายพรรคการเมืองไม่เฉพาะพรรคเพื่อไทย ส่วนใหญ่แล้วใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมากๆ กว่าพรรคเพื่อไทยด้วยซ้ำ อย่างของพรรคพลังประชารัฐ ที่มีนโยบายแจกเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตามช่วงอายุ 60-80 ปี หากจ่ายครบ 4 ปี จะใช้เงินถึง 2 ล้านล้านบาท มากกว่านโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทยถึง 4 เท่าตัว ซึ่งการที่เลขาธิการ กกต. ออกมาระบุว่า การหาเสียงใช้เงินงบประมาณสามารถทำได้ ไม่เข้าข่ายเป็นการสัญญาว่าจะให้ ยิ่งจะทำให้ทุกพรรค เสนอนโยบายโดยเอาตัวเลขมาเกทับกันไปเรื่อยๆ ซึ่งก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มภาระงบประมาณยิ่งขึ้น

นายสมชัย ยังเห็นว่า การตีความนโยบายดังกล่าวว่าเข้าข่ายเป็นการสัญญาว่าจะให้ เลขาธิการ กกต. ไม่มีสิทธิมาพูดก่อนล่วงหน้า ควรเป็นหน้าที่ของ กกต.ที่จะต้องพิจารณา ส่วนพรรคการเมืองที่มีนโยบายใช้จ่ายเงินงบประมาณ และต้องปฏิบัติตาม พ.ร.ป. พรรคการเมือง มาตรา 57 ที่กำหนดให้มีการชี้แจงที่มาของเงิน วงเงินที่จะใช้ และวิเคราะห์ความคุ้มค่าและความเสี่ยงของนโยบายดังกล่าวนั้น มาตรานี้ไม่ได้มีบทลงโทษที่รุนแรงจนทำให้พรรคการเมืองเกิดความเกรงกลัว พรรคการเมืองยังคงจะคิดว่าสามารถที่จะเขียนให้ครบตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น ขณะที่ กกต. เองก็มีข้อจำกัดเรื่องการวิเคราะห์ เพราะไม่มีผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจมหาภาค ดังนั้น เป็นไปได้หรือไม่ที่ กกต. จะประสานกระทรวงการคลัง หรือสำนักงบประมาณ ในการวิเคราะห์ว่านโยบายประชานิยมที่พรรคการเมืองนำเสนอทำได้จริงหรือไม่ รวมทั้งอยากให้ในการนำเสนอนโยบายหาเสียงของทุกพรรคการเมือง คำนึงถึงกฎเกณฑ์การตั้งงบประมาณตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีและวินัยการเงินการคลัง

นายสมชัย ยังกล่าวว่า กกต.ควรเร่งวินิจฉัยกรณีนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ เพราะหากวินิจฉัยล่าช้า กกต.จะถูกประชาชนมองว่า วางตัวไม่เป็นกลาง เอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองใหญ่ ซึ่งเรื่องนี้เคยเกิดขึ้นกับ กกต.ชุดที่ 2 ที่ศาลตัดสินจำคุกกรณีพรรคใหญ่เอื้อพรรคเล็ก เพราะวินิจฉัยให้พรรคใหญ่สนับสนุนพรรคเล็กส่งผู้สมัคร เพื่อแก้ปัญหาจำนวนการใช้สิทธิของประชาชน


กำลังโหลดความคิดเห็น