“ไพศาล” ชี้ปม “สวนชูวิทย์” เทียบเคียงได้กับที่ดินวัดพระพุทธบาท ที่พระเจ้าทรงธรรม พระราชทานให้วัดตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา แม้ไม่ได้ตราเป็น พ.ร.บ. จนมีผู้เข้าไปครอบครองเอาไปออกเป็นโฉนด แต่สุดท้ายศาลก็ให้เพิกถอนกลับไปเป็นของวัด เผย แจ้ง “ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” ถึงหลักกฎหมายแล้ว คาด จดทะเบียนเป็นที่สาธารณะต่อไป ยก “สนธิ” บรรลุวิชาไหมฟ้าเพื่อบ้านเมือง
วันนี้ (31 มี.ค.) นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย อดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ว่า คนตาบอดไม่กลัวเสือ เพราะมองไม่เห็นเสือ เด็กไม่กลัวเสือ เพราะไม่รู้ว่าเสือกินคน พระไม่กลัวเสือ เพราะพระไม่มีเวรกับเสือ!!!!
คุณสนธินั้น เป็นยิ่งกว่าเสือ บรรลุวิชาไหมฟ้าแล้ว เพื่อบ้านเมือง ก็ยอมเจ๊ง ยอมตาย ให้เห็นมาแล้ว
ถ้าคุณสนธิไม่ยอมเจ๊งยอมตายในวันนั้น บ้านเมืองเราจะไปถึงไหนแล้ว สาธุชน ผู้เป็นวิญญูชน ก็ย่อมรู้ทั่วกัน!!!
จากวันนั้นถึงวันนี้คุณสนธิก็เป็นคุณสนธิคนเดิมนั่นแหละ!!!
ตั้งแต่แผ่นดินพระเจ้าทรงธรรมแห่งศรีอยุธยา ได้เสด็จไปกราบนมัสการพระพุทธบาท ทรงมีพระราชศรัทธาแล้วทรงประกาศอุทิศที่ดินรอบพระพุทธบาทกี่โยชน์กี่โยชน์ถวายไว้แก่วัดพระพุทธบาท แม้มิได้ตราเป็นพระราชบัญญัติ แต่ศาลฎีกาได้วางหลักเป็นบรรทัดฐานว่า การอุทิศที่ดินเป็นสาธารณะเช่นนี้ อย่างนี้ที่ดินนั้นก็ตกเป็นของวัดพระพุทธบาทแล้ว
คดีนี้ ตั้งแต่ผมเป็นทนายเด็กๆ ก็จำได้มั่นคงว่า คุณประดิษฐ์ เปรมโยธิน อดีตเจ้าสำนักธรรมนิติ เป็นทนายความว่าต่างให้แก่ชาวบ้าน ผู้ถูกฟ้องขับไล่ออกจากที่ดิน ซึ่งมีผู้เอาไปออกโฉนดแล้ว ทำให้วัดพระพุทธบาทได้ที่ดินกลับคืนมาทั้งหมด ทั้งที่มีคนเอาไปออกเป็นโฉนดมากมายแล้ว
ศาลฎีกาได้ถือบรรทัดฐานนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย เช่น คุณยายท่านหนึ่ง กราบสมภารแล้วประกาศว่า ที่ดินของอิฉันตรงนั้นตรงนี้ขอถวายวัด หรือกำนันคนหนึ่ง บอกนายอำเภอว่า ที่ดินของผมตรงนั้นตรงนี้ขอยกให้เป็นที่สาธารณะ
แม้ไม่ได้ “จดทะเบียนสิทธิ์และนิติกรรม” ที่ดินนั้นก็ตกเป็นของวัดหรือที่สาธารณะตามคำพูดนั้น (ยกเว้นสำหรับกรณีที่วัดมีที่ดินเกินที่กฎหมายกำหนดแล้วที่ดินจะไม่ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของวัด เว้นแต่รัฐมนตรีจะอนุญาต ซึ่งเป็นบทยกเว้นของหลักกฎหมายเรื่องนี้)
หลักกฎหมายนี้ อาจเข้าใจไขว้เขวสับสนได้ง่าย เพราะหลักการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมนั้นบัญญัติชัดเจนว่า ถ้าไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว ก็เป็นโมฆะ
ดังนั้น อย่าได้ติเตียนท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ เลย เพราะเรื่องแบบนี้คนจำนวนมากก็สำคัญผิดได้ เหมือนกัน
และผมได้แจ้งท่าน ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้ทราบหลักกฎหมายและบรรทัดฐานศาลฎีกาดังพรรณนามานี้แล้ว ท่านก็ได้ลงมือดำเนินการแล้ว คงจะมีการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมแก้ไขชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์สวนสาธารณะที่มีผู้ยกให้เป็นที่สาธารณะเป็นสมบัติแผ่นดินต่อไป!!!!
บ้านเมืองต้องการผู้กล้า ปวงประชา ต้องการผู้นำการต่อสู้ ประเทศต้องการเอกราช ประชาชาติต้องการปฏิวัติ
เพราะบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ ต่อไปไม่ได้แล้ว!!!!
ต้องรีบมาร่วมกันช่วยกัน “ก้าวข้ามความขัดแย้ง เริ่มต้นประเทศไทยใหม่” ตามที่ลุงป้อม ชูธงเคลื่อนทัพไปทั่วประเทศในขณะนี้
ว้าว!!! พรรคชาติไทยของคุณท็อป เข้าร่วมพันธมิตร จัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่อีกพรรคแล้ว บ้านเมืองเราย่อมดีกว่านี้แน่!!!!
#นับถอยหลังการเลือกตั้ง