มหาดไทย เวียน 3 ข้อ แจ้ง ผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สนองรัฐบาลลุงตู่ หลังเซอร์ไพรส์ ประกาศ “ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง” มีผลบังคับใช้ปีภาษี พ.ศ. 2566 โดยลดลง 15% จาก 90% เผย กลุ่มที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ที่ได้ประโยชน์ มีทั้งเกษตรกรรม ที่อยู่อาศัย หรือใช้ประโยชน์อื่น รวมทั้ง ที่ดินฯที่ได้รับการลดภาษีหรือไม่ได้ลดภาษี “ในอัตราร้อยละห้าสิบ”
วันนี้ (23 มี.ค.) มีรายงานจากระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) มีหนังสือเวียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประทศ
ให้ดำเนินการปฏิบัติตามแนวทางการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ปี พ.ศ. 2566 ตามพระราชกฤษฎีกาลดภาษีสำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบางประเภท (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566
ภายหลังได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 140 ตอนที่ 20 ก เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2566 ซึ่งจะมีผลใช้บังคับ สำหรับการจัดเก็บภาษีของปีภาษี พ.ศ. 2566
สถ. แจ้งขอให้จังหวัดแจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) รับทราบ ใน 3 ประเด็น ได้แก่
1. ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม หรือใช้ประโยชน์ เป็นที่อยู่อาศัย หรือใช้ประโยชน์อื่นนอกจากใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรมหรือใช้ประโยชน์ เป็นที่อยู่อาศัย
หรือที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่า หรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ และไม่ได้รับการลดภาษีตามพระราชกฤษฎีกาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2563
“ให้ลดจำนวนภาษีในอัตรา ร้อยละสิบห้า ของจำนวนภาษีที่คำนวณได้”
2. ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับการลดภาษี “ในอัตราร้อยละห้าสิบ” ของจำนวนภาษีที่จะต้องเสีย ตามมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2563
ให้ลดจำนวนภาษีอีกในอัตราร้อยละสิบห้า ของจำนวนภาษีที่คำนวณได้หลังจากการลดภาษีนั้น
3. ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับการลดภาษีในอัตราร้อยละเก้าสิบของจำนวนภาษีที่จะต้องเสีย ตามมาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2563 จะไม่ได้รับการลดภาษีเพิ่มอีก
สถ.ยังทำตามตารางเปรียบเทียบการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ในประเภทของทรัพย์สินและภาษี เรียงตาม พ.ศ. 2563-2566