ทุกขลาภ! เกษตรกรโคราช มีที่ดินนับร้อยไร่ แต่หลังตรวจค่าสภาพดิน พบถึงขั้น "เค็มจัดมาก" แถมเข้าทำประโยชน์ไม่ได้ จนต้องปล่อยรกร้าง ด้าน "มท." ยกกฎหมาย ไร้เกณฑ์ยกเว้นจัดเก็บ ยันต้องชำระภาษี ในประเภทใช้ประโยชน์อื่น นอกเหนือประกอบเกษตรกรรม หรือใช้เป็นที่อยู่อาศัย ให้ท้องถิ่นในพื้นที่
วันนี้ (2 มี.ค.2566) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆนี้ กระทรวงมหาดไทย เวียนหนังสือ ให้คำปรึกษาหรือคำแนะนำของคณะกรรมการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำจังหวัดนครราชสีมา ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา
ภายหลังคณะกรรมการภาษีที่ดินฯ นครราชสีมา สอบถามถามเห็น ที่เทศบาลตำบลพันดุง อำเภอขามทะเลสอ ได้หารือกรณี เจ้าของที่ดิน "ที่มีสภาพเป็นเกลือเค็ม" ประมาณกว่า 100 ไร่ ไม่สามารถทำประโยชน์ได้และปล่อยให้รกร้างว่างเปล่า
ผลการทดสอบดินที่ได้รับการตรวจจากกลุ่มวิเคราะห์ดิน สำนักงานพัฒนาที่ดิน เขต 3 ปรากฎว่า 1.ความเป็นกรด-ด่าง เป็น "ด่างจัด" 2.ค่าการนำไฟฟ้า เป็น "เค็มจัดมาก" ซึ่งสภาพดิน "เค็มจัดมาก"
พบเป็น คราบเกลือตามผิวดิน กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปไนพื้นที่ เป็นบริเวณที่นำไปใช้ปลูกพืชไม่ได้ผล จึงลูกปล่อยไว้ว่างเปล่าทำการเกษตรไม้ได้
ที่ดินดังกล่าว จะได้รับยกเว้นการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ตามกฎกระทรวงกำหนดที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่า ได้หรือไม่ อย่างไร
โดยฝ่ายกฎหมาย กระทรวงมหาดไทย เห็นว่า กรณี ที่ดินที่มีสภาพเป็นเกลือเค็ม ไม่สามารถทำประโยชน์ได้ และปล่อยให้รกร้างว่างเปล่า ที่ดินดังกล่าว
"ไม่เข้าข่ายได้รับยกเว้นการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และต้องเสียภาษีในประเภทการใช้ประโยชน์อื่นนอกเหนือจากการประกอบเกษตรกรรมหรือใช้เป็นที่อยู่อาศัย"
เนื่องจากมาตรา 37 วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 ประกอบกับข้อ 1 (1) และข้อ 4 ของกฎกระทรวงกำหนดที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่า หรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ พ.ศ. 2562
"กำหนดให้ที่ดิน ที่โดยสภาพสามารถทำประโยชน์ได้ แต่ไม่มีการทำประโยชน์ในที่ดินนั้นตลอดปี ที่ผ่านมา ถือเป็นที่ดินที่ทิ้งไว้ว่างเปล่า"
ทั้งนี้ ในการพิจารณาให้คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สภาพภูมิประเทศ สภาพดิน ความลาดชันของพื้นดิน และการทำประโยชน์ของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างในบริเวณใกล้เคียงด้วย เ
"เมื่อข้อเท็จจริง ปรากฏว่า ที่ดินของเจ้าของที่ดิน มีสภาพเป็นเกลือเค็มทำให้ไม่สามารถทำประโยชน์ในที่ดินได้ และเจ้าของปล่อยให้รกร้างว่างเปล่า ที่ดินดังกล่าวไม่ถือเป็นที่ดินที่ทิ้งไว้ว่างเปล่า หรือไม่ได้ทำประโยชน์ ตามควรแก่สภาพ"
เมื่อเจ้าของที่ดิน ไม่ได้ใช้ที่ดินเพื่อประกอบเกษตรกรรมหรือใช้เป็นที่อยู่อาศัย จึงถือเป็นที่ดินที่ใช้ประโยชน์อื่นนอกจากการประกอบเกษตรกรรมหรือใช้เป็นที่อยู่อาศัย ตามมาตรา 37 (3) แห่งพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562
สำหรับในส่วนของเอกสารแนบ 5 ของ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) ได้ยกตัวอย่างที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จำแนกตามลักษณะการทำประโยชน์
ข้อ 3. กรณีการใช้ประโยชน์อื่น “การใช้ประโยชน์ที่ไม่ใช่ ประกอบเกษตรกรรมหรืออยู่อาศัย ” ได้แก่
ที่ดินที่ไม่ได้ทำประโยชน์เนื่องจากสภาพภูมิประเทศ สภาพดิน ไม่เอื้อต่อการทำประโยชน์ เช่น ดินที่มีกรด-ด่างของดิน ความเค็ม ความเปรี้ยวของดิน หรือที่ดินที่มีน้ำท่วมขังตลอดทั้งปี ฯลฯ.