ข่าวปนคน คนปนข่าว
** "อุ๊งอิ๊ง" มีศาสตร์ เก่งคณิต จะพิชิตนายกฯแน่ เปลี่ยนโปร ย้ายค่าย "สมศักดิ์" ยกทันควัน
นับถอยหลังศึกเลือกตั้ง เหลือเวลาอีกไม่นานที่จะได้ลุ้นและรู้ว่า พรรคไหนใครจะเข้าวิน จับขั้วแบ่งข้างเป็นรัฐบาลใหม่
หลังจาก"นิด้าโพล" ออกมาเมื่อวันก่อน เผยผลสำรวจพบคนเลือก "อุ๊งอิ๊ง" แพทองธาร ชินวัตร มาอันดับแรก ขณะที่ "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯเจ้าเก่า ที่จะขอไปต่ออีกสองปี โขยกเขยกตามหลังมาห่างๆ
คล้อยหลังวันต่อมา "ซูเปอร์โพล" โพลอีกเจ้าได้สำรวจบ้าง แม้คนนำจะเป็น "อุ๊งอิ๊ง" แต่ลำดับถัดมาน่าสนใจว่า "หมอหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตหนึ่งเดียวของพรรคภูมิใจไทย เบียดมาที่สอง ตามด้วย “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” ประชาธิปัตย์ “ลุงตู่” รวมไทยสร้างชาติ และ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
ต้องบอกว่า เป็นโพลที่อยู่เหนือความคาดหมายของคอการเมือง
ส่วนผลโพลออกมาจะขัดใจ หรือ ถูกใจกองเชียร์ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ "สมศักดิ์ เทพสุทิน" อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จากกลุ่ม "สามมิตร" ที่เพิ่งเปลี่ยนโปร ย้ายค่าย อำลา “ลุงป้อม” โผเข้าอ้อมอก "โทนี่ วู้ดซั่ม" ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่เรียบโร้ย ก็ป้อยอ โดยพลันว่า อุ๊งอิ๊งนี่แหละ "นายกฯหญิง" คนต่อไป
“สมศักดิ์” บอกว่า “แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แม้เป็นทายาททางการเมืองตระกูลชินวัตร คนอาจมองพรรษาทางการเมืองยังน้อย ไม่ใช่ปัญหา เพราะเชื่อว่าคนอายุน้อยทำอะไรได้เยอะ อายุน้อยย่อมดีกว่าคนอายุมากที่การตัดสินใจในการทำงาน ไม่ยอมรับฟังความเห็นของคนอื่น
ตรงนี้ จะหมายถึงใคร? “สมศักดิ์” ไม่ได้เอ่ย หรือจะหมายถึงพวกลุงๆที่เคยร่วมหัวจมท้าย มาหลายปีก็ไม่ได้ระบุเสียด้วยสิ แต่เอาเป็นว่าในสายตาตอนนี้ของ “สมศักดิ์” ภักดีต่อเพื่อไทย ก็ต้องให้ “อุ๊งอิ๊ง” เป็นที่หนึ่ง
ด้วยเหตุผลตามมาว่า แพทองธาร "มีศาสตร์ มีคณิตศาสตร์ที่เก่งอยู่แล้ว ไปได้ แถมการออกมาแสดงก็เข้มแข็งแข็งแกร่ง และน่ารัก โอกาสที่ประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 นั้น ก็มองเห็น และได้เป็นแน่!!
นี่เป็นลีลาของนักการเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น "เซียนการเมือง" คนหนึ่ง ที่ถือเป็น "จอมยุทธอัฒจรรย์" นั่งชมดูเหตุการณ์จนมั่นเหมาะแล้วค่อยกระโจนเข้าร่วมกับพรรคที่มีโอกาสชนะเลือกตั้ง
ครั้งก่อนก็เข้าพลังประชารัฐ ครั้งนี้เล็งแล้วก็มาเพื่อไทย ที่เจ้าตัวฟุ้งกระจายตามกระแสจะแลนด์สไลด์ ได้จัดตั้งรัฐบาลแน่ๆ 99% อีก 1% เผื่อการเมืองขั้วไม่ลงตัวพลิกผันเป็นฝ่ายค้านตามเดิม
ถามว่า ไปเอาความมั่นใจอะไรขนาดนั้นมาจากไหน? ย่อมต้องบอกว่า ได้ตัวเองเข้ามาช่วย ส่วนโอกาสจะเป็นรัฐบาลพรรคเดียว หรือไม่อยู่ที่ประชาชน โดยตัวเองพร้อมช่วยเท่าที่ทำได้ เพื่อเป้าหมายแลนด์สไลด์ 310 ส.ส.
ส่วนเหตุผลย้ายสลับขั้ว “สมศักดิ์” นั่งยันนอนยัน ไม่ได้พูดคุย หรือดีลตรงกับ “ทักษิณ ชินวัตร” แต่คนในพรรคเพื่อไทยขานรับ ที่เข้าไปแล้วไม่ว้าเหว่ และยืนยันว่าจะไม่มีกลุ่มไปต่อรองใดๆ โดยเฉพาะกลุ่มสามมิตร เพราะตอนนี้แยกย้ายไปอยู่หลายพรรค
ถึงตอนนี้ลุงตู่ "ยุบสภา" ไปเรียบร้อย อีกไม่นานการศึกเลือกตั้งจะอุบัติขึ้น ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน พรรคใด ใครจะเป็นนายกฯ ช่วงนี้ เชิญ "มโน" กันไปพลางๆ ก่อนนะจ๊ะ
**หลังยุบสภา “ลุงตู่” อารมณ์ดี ถ่ายภาพอ้อนสื่อ บอกเราไม่ใช่ศัตรูกัน ยังอยู่ด้วยกันต่อไป
ราชกิจจานุเบกษาประกาศพระราชกฤษฎีกายุบสภา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว (20 มี.ค.) หลังจากนี้ก็จะเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มตัว โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเป็นผู้ประกาศวันหย่อนบัตรเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. ส่วนวันเปิดรับสมัคร ส.ส.ระบบเขต วันแรกน่าจะเป็นวันที่ 3 เม.ย. และ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ วันที่ 4 เม.ย.
ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการหาเสียง ก็เริ่มนับหนึ่งแล้วเช่นกัน โดยผู้สมัครส.ส.เขตใช้ได้คนละไม่เกิน 1.9 ล้านบาท ส่วนพรรคการเมืองใช้กับปาร์ตี้ลิสต์ 100 คน ไม่เกิน 44 ล้านบาท
ตัวเลขนี้นักสังเกตการณ์เลือกตั้งบอกว่า ดูจะไม่สอดคล้องกับกระแสที่ว่าการศึกครั้งนี้กระสุนจะสะพัด!!
แม้จะยุบสภาแล้ว แต่ตำแหน่งของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ยังต้องเรียกนายกรัฐมนตรีเหมือนเดิม จะไม่ใช้คำว่า รักษาการนายกฯ รวมถึงตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆ ก็ยังคงเรียกตามตำแหน่งเดิมอยู่ ... รักษาการจะมีอย่างเดียว คือ “คณะรัฐมนตรีรักษาการ” ที่จะอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนกว่าครม.ที่ตั้งขึ้นใหม่ จะเข้ารับหน้าที่
การประชุมครม. ยังมีได้ตามปกติ แต่ต้องไม่ใช่ครม.สัญจร การอนุมัติงบกลาง ต้องขอกกต.ก่อน การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ที่ต้อองเข้าครม. หรือตั้งผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ ต้องขอกกต.ก่อน ส่วนการแต่งตั้งนายพลตำรวจ ทหาร ซึ่งไม่เข้าครม. ไม่ต้องขอ กกต.
การไปปฏิบัติราชการ ที่คาบเกี่ยวกับการหาเสียง ต้องระมัดระวัง อย่าให้โจ่งแจ้ง อย่างเช่น ไปแจกโฉนดชุมชน ซึ่งเป็นการปฏิบัติราชการ แล้วจะแนะนำตัวผู้สมัครไปด้วยนั้นทำไม่ได้ แต่ถ้าเสร็จกิจกรรมการมอบโฉนดชุมชนแล้ว จะไปเดินตลาดหาเสียง อย่างนั้นไม่เป็นไร หรือเวลาไปจะนั่งเครื่องบินหลวง หรือ เฮลิคอปเตอร์หลวง ก็ไม่เป็นไร เพราะถือว่าเป็นการไปในราชการ
เมื่อมีประกาศพระราชกฤษฎีกายุบสภาแล้ว “ลุงตู่” ที่เป็นนายกฯมา 8 ปี ก็ถือโอกาสนี้ ขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาล รัฐมนตรี ส.ส. ขอบคุณสภาที่ร่วมทำงานเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง แม้จะมีบางเรื่องที่ยังทำไม่สำเร็จ เพราะติดขัดเรื่องข้อกฎหมาย การออกกฎหมายต่างๆ และหวังว่าหากได้กลับมาเป็นรัฐบาลคราวหน้า จะทำให้เรียบร้อย
ขอบคุณ “อาจารย์น้อง” นราพร จันทร์โอชา ภริยา ที่คอยเป็นกำลังใจ ห่วงใย ดูแลสุขภาพ มีข้อมูลอะไรก็คอยเตือน คอยบอก แต่ไม่เคยเข้ามายุ่งเรื่องงานการเมือง
และ “ลุงตู่” ก็ไม่ลืมที่จะขอบคุณสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวคราว ความเคลื่อนไหว แผนงาน ผลงานต่างๆ แถมออดอ้อน ออกตัวว่า เราไม่ใช่ศัตรูกันอยู่แล้ว แต่บางครั้งก็มีหงุดหงิดบ้าง เพราะทำงานเยอะ บางครั้งก็เครียดบ้าง อะไรบ้าง แต่ไม่ได้โกรธใคร...
นักข่าวจึงกล่าวกระเซ้าว่า ท่านยังอยู่กับผู้สื่อข่าวอีกนาน ในช่วงเป็นรัฐบาลรักษาการ ก็ขอให้เบาๆลงหน่อย “ลุงตู่” บอกเช่นกันว่า สื่อก็เบาๆ หน่อยสิ
จากนั้นนักข่าวได้เชิญนายกฯ ร่วมถ่ายรูปเป็นที่ระลึก หลังจากที่ทำงานร่วมกันมากว่า 8 ปี “ลุงตู่” หัวเราะอย่างอารมณ์ดี บอกว่า มันต่างกันตรงไหน ฉันก็คนเดิมนี่แหละ...ขอบคุณทุกคนมากๆ อย่างไรก็ยังอยู่ด้วยกันนั่นแหละนะ
ก่อนเดินกลับไปยังห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า “ลุงตู่”ได้หันมาทำสัญลักษณ์มือ ไอเลิฟยู และ มินิฮาร์ท ให้กับกลุ่มนักข่าวและช่างภาพอย่างอารมณ์ดี เมื่อนักข่าว ขอให้เปลี่ยนสลับมือทำสัญลักษณ์ มินิฮาร์ท “ลุงตู่”ก็ตอบว่า “สั่งกันจัง” ก่อนเปลี่ยนมือทำตาม พร้อมพูดกับผู้ติดตามว่า “สื่อฯพวกนี้เขาก็ดีกับฉันนะ”