นายกฯ ขอบคุณพรรคร่วมทำงานผลักดันนโยบายสำเร็จหลายเรื่อง ปฏิเสธไม่ได้เป็นนักการเมืองแล้ว เผย “อ.น้อง” ไม่ขวางให้อิสระการเมือง เชื่อ ไม่มีใครอยากให้สามีเล่นการเมืองเต็มตัว ขอบคุณสื่อไม่ใช่ศัตรูกัน ยังอยู่ด้วยกันต่อไป พร้อมร่วมถ่ายรูปอารมณ์ดี
วันนี้ (20 มี.ค.) เมื่อเวลา 15.07 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังราชกิจจานุเบกษาประกาศพระราชกฤษฎีกายุบสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวกับสื่อมวลชนที่มาดักรอสัมภาษณ์ ว่า มารออะไรกันเยอะแยะ มารอนายกฯหรอ ไม่มีอะไรหรอก ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบข้อกฎหมาย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงพระปรมาภิไธยตามที่รัฐบาลเสนอไป ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯมีอะไรจะพูดหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มีอะไร ก็ขอขอบคุณทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาด้วย อยู่มา 4 ปีด้วยกัน มีทั้งสำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้างก็ต้องขอขอบคุณ ซึ่งทุกคนทำเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองของเรา ตนไม่ได้ไปขัดแย้งอะไรกับใครทั้งสิ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากนี้ไปการลงพื้นที่หาเสียงของนายกฯจะเป็นอย่างไร หรือทางพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เป็นผู้วางแผน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พรรคเป็นคนวางแผน ก็อาจไม่ได้ไปทุกที่อยู่แล้ว มีหาเสียงใหญ่หาเสียงย่อยเยอะแยะไปหมด ตนก็เวียนหัวเหมือนกัน เมื่อถามว่าพอใจกับผลงาน 4 ปีที่ผ่านมาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พอใจไหมถ้าถามตนคงตอบไม่ได้ ต้องถามประชาชนว่าพอใจหรือเปล่า เขาได้รับอะไรไปมากน้อยเพียงใด เขาเห็นรึเปล่า ถ้าเขาไม่สังเกตเห็นก็ไม่รู้เหมือนกัน ต้องฝากไปดูด้วย เราก็ทำอะไรมาเยอะแยะพอสมควรหลายปีที่ผ่านมา เมื่อถามว่า มีอะไรที่ตั้งใจจะทำแล้วยังไม่ได้ทำ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็มีหลายเรื่องอย่าเพิ่งพูดตอนนี้เลย เพราะหลายเรื่องพยายามจะทำแต่ก็ติดขัด เรื่องข้อกฎหมาย การออกกฎหมายต่างๆ ก็ยังมีปัญหาอยู่ ยังค้างคาอยู่หลายเรื่องเหมือนกัน ก็หวังว่ารัฐบาลหน้าควรจะทำให้เรียบร้อย
เมื่อถามว่า สิ่งที่ภูมิใจที่สุดในการทำหน้าที่นายกฯ มา 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่ภูมิใจคือขอบคุณในความร่วมมือของทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคร่วมรัฐบาล หลายอย่างที่ออกมาเป็นนโยบายของแต่ละพรรค คือ รัฐบาลทำไปแล้วหมด แต่ตอนนี้ก็มาแยกยอดกันออกไปในขณะนี้ จริงแล้วทุกเรื่องจะให้โน่นให้นี่ก็มีหมดแล้ว มีสมัยรัฐบาลเรานี่แหละ และเราก็ร่วมมือกันออกมาเป็นมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่อย่างนั้นทำไม่ได้หรอก ฉะนั้นวันหน้าจะทำอะไรก็ตาม ก็ต้องเป็นอย่างนี้ นโยบายต่างๆต้องนำมาหารือใน ครม.อีกครั้ง จะให้ใครอะไรอย่างไรเท่าไหร่ และต้องดูมาตรการทางการเงินการคลังด้วย มีเงินมากน้อยเพียงใดจะหาเงินได้พอหรือไม่ วันนี้รัฐบาลที่ผ่านมาตนดีใจอย่างน้อยได้สร้างสิ่งดีๆ ขึ้นมา สิ่งที่จะเป็นรายได้ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอีอีซี การสร้างอุตสาหกรรมใหม่ และวันนี้ก็มีการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มีความก้าวหน้าหลายประการ การลงทุนจากหลายบริษัทหลายหมื่นล้าน ต้องขอบคุณสื่อมวลชนด้วยแล้วกัน เราไม่ใช่ศัตรูกันอยู่แล้ว แต่บางครั้งนายกฯหงุดหงิดไปบ้าง เพราะทำงานเยอะก็เครียดบ้างอะไรบ้าง แต่ไม่ได้โกรธใคร
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมา นายกฯได้อะไรจากการเมืองบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็คงต้องได้มั้ง เพราะนายกฯก็ทำงานกับการเมือง ยังไงก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังไงก็เป็นนักการเมืองอยู่เหมือนกัน ในการบริหาร นายกฯอยู่ในฐานะผู้บริหาร ดังนั้น สิ่งต่างๆ ที่ออกมาได้นายกฯได้เป็นคนตัดสินใจไม่ว่าอะไรก็ตาม ก็เสนอมาให้นายกฯตัดสินใจเพื่อนำเข้า ครม. เมื่อยืนอยู่ตรงนี้ก็ต้องตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้อง สิ่งที่มันสมควร เพื่อนำเข้า ครม.พิจารณาร่วมกัน ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคไม่เห็นด้วยมันก็ผ่านไม่ได้ มันไม่ได้หรอกถ้า ครม.ต้องเห็นชอบร่วมกันในเรื่องที่มันจะเห็นชอบ ถ้าไม่เห็นชอบก็ไม่นำเข้าพิจารณาใช่ไหม
เมื่อถามว่า ตัดสินใจที่จะลง ส.ส.บัญชีรายชื่อหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถามไปโน่นอีกแล้วยังไม่ตอบหรอก เมื่อถามว่า ยุบสภาแล้วอนาคตทางการเมืองจะอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อนาคตการเมืองก็เป็นคู่แคนดิเดตนายกฯ เมื่อถามว่าหลังจากนี้กับพรรคร่วมรัฐบาลจะเดินหน้าทำงานร่วมกันอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทำงานเหมือนเดิม มันยากตรงไหน เมื่อถามย้ำว่าในทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การเมืองมันไม่มี แต่เป็นเรื่องของรัฐบาลในการทำงานใน ครม. ทำเพื่อประเทศชาติ ประชาชนโดยรวม ไม่ได้ทำเพื่อการเมือง ถ้าทำเพื่อการเมืองก็ทำไม่ได้หรอก เมื่อถามว่าหมายถึงในสนามเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ถ้าไม่ได้ก็อีกเรื่องหนึ่ง ต้องรู้จักแยกแยะสิ
เมื่อถามว่า การเข้ามาสู่เส้นทางการเมืองอย่างเต็มตัว ครอบครัวสนับสนุนให้กำลังใจอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็เป็นเรื่องที่เขาให้ผมเป็นคนตัดสินใจ และผมก็เป็นห่วงเขาอยู่ แน่นอนครอบครัวก็ต้องเป็นห่วง ไม่มีใครเขาอยากให้สามีมาเป็นนักการเมืองเต็มตัวหรอก ไม่มีหรอก” เมื่อถามว่า นางนราพร จันทร์โอชา ภริยานายกฯ ให้คำปรึกษาอย่างไร นายกฯกล่าวว่า ภรรยาตนไม่ยุ่งเรื่องพวกนี้ แต่เขาก็ดูแลสุขภาพเรา ดูแลด้วยความห่วงใย มีอะไรก็เตือนมา มีข้อมูลอะไรก็เตือนมาแค่นั้น ไม่ยุ่งกับเรา ไม่ยุ่งเรื่องการเมือง เมื่อถามว่าสนามการเมืองแข่งขันกันดุเดือด นางนราพร ส่งกำลังใจอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ให้กำลังใจตลอดอยู่แล้วเพราะเป็นสามีภรรยาจะไม่ให้ได้อย่างไรเล่า
เมื่อถามว่า สนามเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของนายกฯหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญเขาเขียนว่าอย่างไรเล่า เมื่อถามว่าพรรครวมไทยสร้างชาติเสนอแคนดิเดตนายกฯกี่คน คนเดียวคือท่านหรือเปล่า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ยังไม่ทราบเหมือนกัน เมื่อถามว่าต้องมีสำรองหรือไม่เพราะนายกฯอยู่ได้ถึงปี 68 เท่านั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เดี๋ยวก็ต้องหารือกันใหม่เป็นเรื่องของพรรคเขา อย่าถามดักหน้าดักหลังนักเลย
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ยืนให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเป็นเวลา 7 นาที ก่อนที่จะเดินขึ้นไปประตูหลังตึกไทยคู่ฟ้าเพื่อเตรียมขึ้นไปยังห้องทำงาน โดยเมื่อสื่อมวลชนกล่าวหยอกว่ายังอยู่กับผู้สื่อข่าวอีกนานในช่วงรักษาการขอให้เบาๆ ลงหน่อย พล.อ.ประยุทธ์ จึงกล่าวว่าสื่อก็เบาๆ หน่อยสิ
จากนั้นสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ได้เชิญนายกฯร่วมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหลังจากที่ทำงานร่วมกันมากว่า 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ หัวเราะ พร้อมกล่าวว่า “มันต่างกันตรงไหน ฉันก็คนเดิมนี่แหละ” ก่อนจะกล่าวว่า “ขอบคุณสื่อทุกคนมากๆอย่างไรก็ยังอยู่ด้วยกันนั่นแหละนะ”
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวระบุว่าจากนี้ไปในสนามการเมืองพล.อ.ประยุทธ์ อาจจะต้องสูญเสียความเป็นส่วนตัวและอีกหลายอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า “ไม่เป็นไรประเทศชาติประชาชนได้ประโยชน์ ฉันไม่เสียใจอยู่แล้ว”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่จะเดินกลับไปยังห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า พล.อ.ประยุทธ์ ได้หันมาทำสัญลักษณ์มือไอเลิฟยู และมินิฮาร์ท ให้กับกลุ่มสื่อมวลชนและช่างภาพอย่างอารมณ์ดี พร้อมกล่าวว่า “สวัสดีครับ” ทั้งนี้ เมื่อสื่อมวลชนขอให้เปลี่ยนสลับมือทำสัญลักษณ์ มินิฮาร์ท พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า “สั่งกันจัง” ก่อนเปลี่ยนมือทำตาม พร้อมปรารภกับคนใกล้ชิดว่า “สื่อพวกนี้เขาก็ดีกับฉันนะ”