xs
xsm
sm
md
lg

ความจริงมีหนึ่งเดียว!! จับโกหก “ชูวิทย์” จากเงินทอน 3 หมื่นล้าน ถึงการแฉด้อยค่ากรรมการ ป.ป.ช.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

** ความจริงมีหนึ่งเดียว!! จับโกหก “ชูวิทย์” จากเงินทอน 3 หมื่นล้าน ถึงการแฉด้อยค่ากรรมการ ป.ป.ช.

ขอเริ่มต้นว่า เพราะความจริงมีหนึ่งเดียว!!

ความที่ออกจากปากของ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” มีความจริงอยู่แค่ไหน พิสูจน์กันไม่ยาก

ยกตัวอย่างเรื่อง “เงินทอน” รถไฟฟ้าสายสีส้ม บอกว่า เขาโอนกัน 30,000 ล้าน ผ่านธนาคาร HSBC สิงคโปร์ รู้กระทั่งเลขบัญชี ชื่อใครบ้าง เมื่อคนเขาถามหา “ใบเสร็จ” ผ่านมาอีกไม่กี่วัน กลับกลอกบอกใหม่ว่า ก็งานประมูลยังไม่เรียบร้อย แล้วจะมีเงินทอนได้ยังไง?

ชูวิทย์ “เมาแสง” คิดว่า คนในสังคมไทยกินแกลบ จะไม่รู้แยกแยะเรื่องจริงกับเรื่องเท็จ จึงมโนผสมดรามาออกลีลา “พลิ้ว” รวมศาสตร์นักการเมือง และ “คนเชียร์แขก” เข้าไว้ในร่างเดียว จะโกหกพกลมอย่างไรก็ได้ เพียงเพื่อเรียกความสนใจ

อย่างเรื่องนี้ก็เหมือนกัน “ชูวิทย์” พูดและโพสต์ข้อความไว้เป็นหลักฐานตั้งใจจะขยี้ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” กรณีซุกหุ้น บอกว่า “เรื่องนี้ต้องไปเป็นคดีอาญาที่ ป.ป.ช. หากมีมูล ซึ่งคาดว่ามากกว่ามูลอีก ต้องเป็นก้อนเลย”

แต่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชื่อ “สุชาติ” อดีตอธิบดีศาล ที่อยู่ในตำแหน่งแค่ 6 เดือน

ทั้งที่คุณสมบัติ ป.ป.ช.ระบุไว้ว่า ต้องเป็นระดับ “อธิบดีผู้พิพากษาศาลชั้นต้นมาอย่างน้อย 5 ปี”

แต่นี่ลัดคิวข้ามหัวมาเป็น ป.ป.ช. ได้ไง? “ชูวิทย์” บอกแล้วก็ใส่ความเห็นว่า ยัง งงไม่หาย อภินิหารเหลือเกิน

เท่านี้ไม่พอ อดีตนักการเมือง อดีตเจ้าของสถานอาบอบนวด ยังพูดว่า “สุชาติ” มีสายสัมพันธ์อันแนบแน่นกับ เนวิน ชิดชอบ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เพราะเป็น "สวนกุหลาบคอนเนกชัน” จบจากสวนกุหลาบมาด้วยกัน !!

“สุชาติ” รับหน้าที่ดูแลคดีของบรรดานักการเมือง แล้วมีที่ปรึกษาเป็นทนายความชื่อ “ธ” คอยรับหน้านักการเมืองที่วิ่งกันขาขวิด
แบบนี้แล้วเดี๋ยว “ศักดิ์สยาม” จะหลุดคดี ป.ป.ช. เอา เพราะชอบกิน “ลอดช่อง” เป็นของโปรดประจำช่วงนี้

องค์กรกลางจัดการเรื่องคอร์รัปชัน ต้องโปร่งใสนะครับ

“ชูวิทย์” พูดอย่างมั่นอกมั่นใจ ในสิ่งที่ตัวเองกล่าวหาคนอื่น

ทว่า ต้องย้ำอีกครั้งว่า “ความจริงมีหนึ่งเดียว” ... ความจริงเรื่องนี้เป็นอย่างไร จะเอามาให้ชูวิทย์ฟัง ...

ข้อแรก “ชูวิทย์” กล่าวหา “สุชาติ ตระกูลเกษมสุข” กรรมการ ป.ป.ช ขาดคุณสมบัติ เพราะเป็นอธิบดีศาลแค่ 6 เดือน แต่กฎหมายกำหนดคุณสมบัติกรรมการ ป.ป.ช ว่า ต้องเป็นระดับอธิบดีไม่น้อยกว่า 5 ปี “สุชาติ” จึงขาดคุณสมบัตินั้นเป็นความเท็จ!!

ความจริง คือ การคัดเลือกและสรรหากรรมการ ป.ป.ช ได้ตรวจสอบคุณสมบัติสุชาติแล้ว “ไม่ขาด” คุณสมบัติในเรื่องการเป็นอธิบดี เพราะ แม้ว่า “สุชาติ” จะเป็นอธิบดีศาลไม่ถึง 5 ปี แต่ก็เป็นหัวหน้าคณะผู้พิพากษามาก่อน ซึ่งตำแหน่งหัวหน้าคณะผู้พิพากษา เทียบเท่าตำแหน่งอธิบดี

ในปมประเด็นนี้ ได้ผ่านการ “ตีความ” มาแล้วว่า ตำแหน่งเทียบเท่า ให้ถือเป็นตำแหน่งอธิบดีตามที่กฎหมายกำหนด!
และที่สำคัญในวงการศาลยุติธรรม กำหนดให้การครองตำแหน่งทุกตำแหน่งอยู่ได้ไม่เกิน 2 ปี ถ้าจะเอากรรมการ ป.ป.ช.ที่มาจากสายศาลยุติธรรม เป็นอธิบดีมาไม่น้อยกว่า 5 ปี จะไม่มีผู้พิพากษามาได้เลย เพราะไม่มีผู้พิพากษาคนใดที่อยู่เป็นอธิบดีถึง 5 ปีได้

ว่าไปเดี๋ยว “ชูวิทย์” จะหาว่าเป็นสื่อจ้องทำลายตัวเองอีก หลักฐานการ “ตีความ” มีบันทึกการพิจารณาอย่างเป็นทางการไว้อยู่แล้ว ไม่มีใครจะมโนเหมือน “ชูวิทย์” แน่

เรื่องแบบนี้มโนกันไม่ได้!

ยิ่งข้อที่สอง นี่สำคัญ “ชูวิทย์” อย่าเพิ่งหัวใจวายในความผิดพลาด ปากพล่อย พูดมั่ว ไม่ตรวจสอบข้อมูลของตัวเองไปเสียก่อนล่ะ ... ระงับสติอารมณ์ฟัง กำหมัดกัดฟันไว้จงดี

การแต่งตั้งกรรมการ ป.ป.ช. มีขั้นตอนต้องผ่านวุฒิสภาให้ความเห็นชอบผู้มีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้ามเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง และที่สำคัญมากๆ เป็นตำแหน่งที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ !!

ทั้งนี้ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประกาศ ณ วันที่ 10 กรกฎาคม พุทธศักราช 2563 เป็นปีที่ 5 ในรัชกาลปัจจุบัน

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา

เท่ากับว่า “สุชาติ” ผ่านกระบวนการขั้นตอนรับตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช.ตามครรลองของกฎหมายทุกประการ

ความระหว่างบรรทัดนี้ “ชูวิทย์” ควรรู้ ไม่ต้องให้พูดช้ำ หรือตีความให้ฟังว่า ทำอะไรลงไป หน้ามืดตามัว มั่วนิ่ม ก็ต้องรับผิดชอบสิ่งที่พูดด้วยล่ะ

ข้อที่สาม ที่ “ชูวิทย์” ว่า “ศักดิ์สยาม” จะลอดช่องหลุดคดี ป.ป.ช. เพราะ “สุชาติ” จบสวนกุหลาบ ด้วย “สวนกุหลาบคอนเนกชน” จะช่วยเอื้อกันและกัน

เอาชัดๆ นะชูวิทย์ ชัดๆ... “สุชาติ” เรียนที่มัธยมสาธิตรามคำแหง และจบกฎหมายจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง

ที่ว่าเขาจบ “สวนกุหลาบ” จึงเป็นเรื่องมโนของ “ชูวิทย์” ในทุ่งลาเวนเดอร์ล้วนๆ

ถามว่า “ชูวิทย์” ที่กล่าวหา “สุชาติ” ขาดคุณสมบัติ มีเจตนาอะไร ตอบว่า นอกจากมุ่งใส่ร้ายป้ายสีองค์กร ป.ป.ช. และด้อยค่า “สุชาติ” ตี “ศักดิ์สยาม” แล้ว ยังมีเรื่องปัญหาการเมืองภายในของ ป.ป.ช.เอง ที่ต้องการยืมปากจอมแฉเพื่อเตะสกัด “สุชาติ”
เป็นที่น่าสังเกตว่า สำนักงาน ป.ป.ช. เงียบกริบ ไม่ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ เพราะ ป.ป.ช.เองอยู่ในช่วงกำลังจะผลัดเปลี่ยนคนคุมอำนาจในองค์กร

ว่ากันว่า ปีหน้ากรรมการหลายคนจะหมดวาระ รวมไปถึงประธาน “พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ” ขณะที่ “สุชาติ” มีข่าวปีนเกลียวกับ “สุภา ปิยะจิตติ” กรรมการ ป.ป.ช. ที่ทำงานรู้ใจ “พล.ต.อ.วัชรพล” อยู่ขั้วเดียวกัน หากแต่ “สุชาติ” ถูกคาดหมายจะขึ้นเป็นประธาน ป.ป.ช. คนต่อไป

เมื่อ “สุชาติ” ถูกจอมแฉอย่าง “ชูวิทย์” เล่นงานจึงปล่อยเกียร์ว่าง ธุระไม่ใช่ ได้เตะตัดขา “สุชาติ” จากปากชูวิทย์อีกต่างหาก
ในเวลาเดียวกัน “สุชาติ” เป็นผู้ทำคดีชี้มูลรถไฟสายสีเขียว ว่า “สัญญาไม่ถูกต้อง” จนไม่สามารถนำเข้า ครม. เพื่อต่ออายุสัมปทานได้ และเจ้าของสัมปทานสายสีเขียว ก็กำลังเปิดศึกกับสายสีส้ม โดยยืมปากจอมแฉอย่าง “ชูวิทย์” ชำระแค้น!

งานนี้ มีเบื้องหน้า เบื้องหลัง “ชูวิทย์” ก็รับเอง ว่า ตัวเอง “รับงาน” แต่ไม่ยี่หระ แถมยังถามสังคมกลับว่ารับงานแล้วยังไง ?
ก็ไม่แล้วยังไงหรอก “ชูวิทย์”... อยากจะรับงานก็รับไป อยากจะมโน อยากจะโชว์ออฟ เมาแสง แสดงละครเป็น “หมาบ้า” แสร้งดรามาก็ทำไป คนที่เชื่อก็เป็นคนพรรค์เดียวกัน จนปัญญาจ๊ะ

เพียงแต่สังคมอุดมปัญญาเขาไม่ต้องการ “คนอัลไร” ทำนองนี้ โกหกแล้วมาหลอกว่าจริง กล้าพูดแต่ไม่รับผิดชอบ หน้าที่สื่อ ที่ “ชูวิทย์” บอกว่าหมดยุคแล้ว ก็ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเอง ในการหาความจริงมาให้สังคมรับรู้ ทนไม่ได้ก็เป็นเรื่องที่ช่วยอะไรไม่ได้

อย่าลืมว่า “ความจริงมีหนึ่งเดียว” ...เอาความจริงมาว่ากันจะดีกว่า..Chuweed.












กำลังโหลดความคิดเห็น