ข่าวปนคน คนปนข่าว
**โป๊ะแตกแล้วแตกอีก ปิดไม่มิด “ชูวิทย์” รับงานใครมา? หนังสือถึง “ลุงตู่” ก๊อบงานเก่าทั้งดุ้น-กัญชา ก็ตั้งใจมาฟาด “อนุทิน”
เรียกความสนใจจากสื่อได้ทุกวัน สำหรับ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” แต่ไม่ใช่เรื่องของ “เนื้อหา” เหมือนตอนกล้าท้าแฉ เรื่อง “ทุนจีนสีเทา” และ บ่อนพนันออนไลน์ แล้ว กลับเป็นลีลา “ดรามา” ระเบิดอารมณ์เกี้ยวกราด ถ่มถุย กวาดทุบทำลายข้าวของ ท้าตีท้าต่อยไปทั่ว “เล่นใหญ่” ชนิดนักแสดงอาชีพเรียกพี่ เสียมากกว่า
มาล่าสุด บุกไปทำเนียบฯจัดอีเวนต์ ตั้งชื่อ “เผารังหนู” ให้ดูเหี้ยมหาญ ตั้งโต๊ะโชว์ค้านนโยบายกัญชา แบบใช้แรงงานเด็กๆ มาเข้าฉาก ดูจะไปกันใหญ่
ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ ชูวิทย์ “รับงาน” มาด้อยค่า “พรรคภูมิใจไทย” โดยเป็นหมากกลช่วงสู้ศึกเลือกตั้งแหง่มๆ
ถามว่า คนเขาดูออกได้อย่างไร ก้อแหม..!!
เรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้ม เป็นประเด็น มา 2 ปีกว่า “ชูวิทย์” ไม่เคยสนใจ แต่เพิ่งมาสนใจเอาตอนนี้
สายสืบรายงานด้วยว่า หนังสือร้องเรียนเรื่องทุจริตที่ฝากเพื่อนร่วมรุ่นคุก “เสธ.หิ” หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ “ก๊อบ” งานเก่าของเอกชนที่เคยร้องไว้มาทั้งดุ้น ไม่มีเรื่อง “เงินทอน” 30,000 ล้าน ที่โหมประโคมแต่อย่างใด
โปรดอย่าถามว่าสายสืบ ไปสืบมาได้อย่างไร เพราะ “ชูวิทย์” ถือมาฉบับเดียว ไส้ในหนังสือมีอะไรก็รู้กันอยู่แค่ไม่กี่คน ระหว่าง “เสธ.หิ-พีระพันธุ์-ลุงตู่ และ ชูวิทย์”
เอาเป็นว่า ความลับไม่มีในโลก ทำอะไรไว้หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง ก็แล้วกัน
ที่ว่า รับงานมาตีภูมิใจไทย ในเรื่องกัญชา นี่ก็ดูออกแหละ เรื่องกัญชาเป็นประเด็นมา 4 ปี “ชูวิทย์” เพิ่งมาโวย มาตรวจสอบ แถมข้อมูลก็ "ผิดเพี้ยน" ตรรกวิบัติ มองพืชสมุนไพรไทยเป็นผู้ร้ายถ่ายเดียว ถ้าไม่ใช่ช่วงเลือกตั้ง จะโวยวายมั้ย? ไม่นับกับชาวโซเชียลฯ ที่จับโป๊ะว่าตัวเอง “ปากว่าตาก็ขยิบ” หากินกับกัญชา เปิดร้านสันทนาการ
คอการเมืองมองปร๊าดเดียวก็รู้ นี่
ตั้งใจดิสเครดิตพรรคภูมิใจไทย เพื่อให้บางพรรคได้ประโยชน์ ใครที่ว่า พรรคที่ว่าก็รู้ๆ กันอยูอีกนั่นละ
เรียกว่า ยิ่งโชว์ออฟ ยิ่งเผยวาระซ่อนเร้น ยิ่งมาคนก็ยิ่งจับได้ไล่ทัน โดยโป๊ะที่แตกแล้วแตกอีกดังว่า
ก้อไม่น่าแปลกใจอะไรที่ “หมอหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย คนที่ถูกปฏิบัติการ “เผารังหนู” ดิสเครดิตจะแค่สะกิดตอบคำถามสื่อว่า รู้สึกอย่างไรกับการเคลื่อนไหวของ “ชูวิทย์” สั้นๆ ว่า “ไร้ราคา” และขอไม่ทะเลาะกับคนพาล
ส่วนที่ไปพาดพิง “เนวิน ชิดชอบ” ลั่นวาจาว่าจะไปบุกถึง บุรีรัมย์ “หมอหนู” ว่า “ขอให้ฟังเสียงหัวเราะก่อน ที่บอกว่าจะไป จ.บุรีรัมย์ กลัวว่าจะไปจอดอยู่แค่ที่ อ.หนองแค จ.สระบุรี ตรงนี้มองว่าเป็นแค่สีสันทางการเมือง”
งานนี้ต้องย้ำอีกที “ชูวิทย์” ในร่าง “รับใช้การเมือง” ออกทะเลไปไกล รีบๆ หาทางกลับเช้าฝั่งมา “รับใช้ประชาชน” แฉเรื่อง “เทาๆ” ที่เป็นเครดิตตัวเองดีกว่าเยอะ ไม่ได้เป็นห่วงแต่ปรารถนาดี กลับสู่ “ร่าง” เดิมเถอะเฮีย!
**“ลุงตู่” ยกความเป็นสุภาพบุรุษ การันตี บอกไม่ได้ส่ง “ชูวิทย์” ออกมาเตะตัดขาภูมิใจไทย !!
เมื่อ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” หักมุมมาเล่นประเด็นการเมือง ตามเสียงปี่กลองเลือกตั้ง ทั้งจับเรื่องประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มที่อยู่ในความดูแลของ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย น้องชาย “เนวิน ชิดชอบ” ว่า งานนี้มีเงินทอนถึง 3 หมื่นล้าน แถมบอกใบ้ว่าเงินดังกล่าว เอาไปเก็บไว้ที่ ธนาคาร HSBC ที่สิงคโปร์
ลุยนโยบายกัญชาเพื่อการแพทย์ นโยบายเรือธงของพรรคภูมิใจไทย ที่ “หมอหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กำกับขับเคลื่อนเอง... ทั้งๆ ยังโยงว่าคนที่อยู่เบื้องหลัง “หมอหนู” ในการดำเนินนโยบายต่างๆ และถูกยกให้เป็นอาจารย์ใหญ่ คือ “เนวิน ชิดชอบ” ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ถ้า “หมอหนู” ได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ใหญ่กว่านายกฯ ก็คือ “เนวิน”...พร้อมประกาศว่าจากวันนี้ไปถึงวันเลือกตั้งจะตามจองล้างจองผลาญพรรคภูมิใจไทยไปทุกที่!!
ชัดว่าบทบาทของ “ชูวิทย์” ในคาบนี้ มี “การเมือง” อยู่เบื้องหลัง เป้าหมายคือ เตะตัดขาภูมิใจไทย ที่กำลังมาแรง สกัดไม่ให้ “อนุทิน” มีโอกาสลุ้นเก้าอี้นายกฯ คนที่ติดตามการเมืองต่างชี้ไปที่พรรครวมไทยสร้างชาติ
ต่อจิ๊กซอว์ให้เห็นแบบไม่ได้มโนว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง ที่ “ชูวิทย์” ไปป้วนเปี้ยนที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ทำทีว่ามีข้อมูลเรื่องสำคัญจะไปร้องนายกฯ ... แล้ว “เสธ.หิ” หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรค รทสช. ก็ออกมารับ “ชูวิทย์” เข้าไปในทำเนียบฯ เพื่อพบกับ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ที่เป็นเลขาธิการนายกฯ และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ
สำหรับ “เสธ.หิ” กับ “ชูวิทย์” นั้น ไม่ใช่คนแปลกหน้า หรือเพิ่งมารู้จักกัน แต่ซี้ย่ำปึ้ก เป็นเพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว มีวีรกรรมร่วมกันในกรณี “รื้อบาร์เบียร์” เมื่อปี 46 โน่น จนทั้งคู่ต้องเข้าไปรับโทษในเรือนจำด้วยกัน และ “เสธ.หิ” ต้องปิดฉากชีวิตราชการทหาร
นอกจากนี้ “ชูวิทย์” ยังสนิทสนมกับ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ. น้องเลิฟของ “ลุงตู่”
และ “บิ๊กแดง” ก็ผูกโยงกับ “เสี่ยตุ๋ย พีระพันธุ์” ด้วยเซนต์คาเบรียลคอนเนกชัน
แล้วทำไม่คนอย่าง “อนุทิน” และพลพรรคภูมิใจไทย รวมทั้งบรรดาสื่อทั้งหลาย จะมองไม่ออกว่า “ชูวิทย์” รับงานใครมา
เช้าวานนี้ (28 ก.พ.) ก่อนการประชุม ครม. “ลุงตู่” ก็เจอคำถามว่า ได้รับข้อมูลร้องเรียนเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้มจาก ”ชูวิทย์” แล้วหรือไม่ “ลุงตู่” ตอบว่า ก็ทราบมาตลอดอยู่แล้ว เป็นการรายงานมาว่า อยู่ในขั้นตอนไหนอย่างไร หลายอย่างเป็นการดำเนินการโดยคณะกรรมการ อะไร อย่างไร กระทรวงเกี่ยวข้องตรงไหน และอะไรที่อยู่ในการพิจารณาของศาล ซึ่งเราไม่ไปก้าวล่วงอยู่แล้ว อำนาจนายกฯไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ คือถ้ามีข้อกล่าวหา ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไปหาหลักฐาน ไปสอบสวนกันตรงโน้น
เมื่อถามว่า ได้คุยกับ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หรือยัง เพราะมีการมอง และอาจเข้าใจผิดว่าพรรค รทสช. อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของ “ชูวิทย์”... “ลุงตู่” ปฏิเสธทันควัน ว่า ไม่เกี่ยว ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผม วันนี้ผมเป็นนายกฯ ก็จำเป็นต้องรักษาความเป็นพรรคร่วมอยู่แล้ว เพราะเป็นรัฐบาลร่วมกันมาเกือบ 4 ปี ในส่วนของพรรคการเมือง ผมก็ได้ให้นโยบายพรรคการเมืองที่ว่าไปแล้ว จะไม่ไปก้าวล่วงใครทั้งสิ้น เราต้องเป็นสุภาพบุรุษ และทุกอย่างเป็นไปตามกฎเกณฑ์ กติกา ผมไม่ไปก้าวล่วงใคร ใครจะว่าอะไรผมก็เฉยๆของผม เพราะถือว่าเป็นเรื่องการหาเสียงก็ว่ากันไป...
เป็นอันว่า “ลุงตู่” เอาความเป็นสุภาพบุรุษ มาการันตีว่า งานนี้ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ “ชูวิทย์” ขอให้เข้าใจตรงกันตามนี้ด้วย!!