“เสี่ยหนู” เย้ย “ชูวิทย์” บุกล้มพื้นที่บุรีรัมย์ กลัวจอดอยู่แค่หนองแค มองแค่สีสันการเมือง ตอกอย่าว่าแต่ 50 ล.แสนเดียวก็ให้ โว กระแส กทม. ดีวันดีคืน กระแสลบยิ่งทำให้พรรคดัง
วันนี้ (28 ก.พ.) เมื่อเวลา 17.35 น. ที่ท่าเรือวัดระฆัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า หลังจากลงพื้นที่ กทม. ประเมินเสียงตอบรับดีขึ้นมาก ตั้งแต่ปี 62 ปีนี้พรรคภูมิใจไทย มีการนำเสนอทีม กทม. อย่างจริงจัง นำโดย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ มาเป็นแม่ทัพดูแลผู้สมัครในเขต กทม. เราทำความคุ้นเคยกับประชาชนมานาน ชัดเจนว่า ชาว กทม. ให้ความเชื่อมั่นกับพรรคภูมิใจไทยมากขึ้น จากผลงานตลอด 4 ปี ประชาชนเห็นความตั้งใจทำงาน ถึงแม้เราไม่มี ส.ส.ใน กทม. แต่ก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี
เมื่อถามถึง กรณีที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ระบุจะมาล้มพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า ตนเชื่อมั่นเกิน 500 ล้านเปอร์เซ็นต์ ว่า พี่น้องชาวกรุงเทพฯที่ติดตามเราด้วยความเป็นธรรม เชื่อมั่นในพรรคภูมิใจไทยและเชื่อมั่นในตน ในตัวของนายพุทธิพงษ์ และตัวของทีมงานพรรคภูมิใจไทย มากกว่าคนที่ออกมาพูดแน่นอน
เมื่อถามย้ำว่า มีการระบุพาดพิงไปถึง นายเนวิน ชิดชอบ และบอกว่า จะไปบุกที่ จ.บุรีรัมย์นั้น นายอนุทิน หัวเราะ พร้อมกล่าวว่า “ขอให้ฟังเสียงหัวเราะก่อน ที่บอกว่าจะไป จ. บุรีรัมย์ กลัวว่า จะไปจอดอยู่แค่ที่ อ.หนองแค จ.สระบุรี ตรงนี้มองว่าเป็นแค่สีสันทางการเมือง”
เมื่อถามย้ำว่า การออกมาของนายชูวิทย์ เป็นการจ้องดิสเครดิตหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า การถูกดิสเครดิต ก็ต้องถามว่าแปลว่าอะไร แสดงว่า เรามีเครดิต เราเอาผลงานและการทำงานพิสูจน์ตัวเอง พิสูจน์พรรคภูมิใจไทย และแบบว่าตรงนี้ ทำให้สื่อสนใจมากขึ้น เพราะเราเป็นข่าวทุกวันเลย แต่ก็สามารถชี้แจงได้ทุกวันเช่นกัน เพราะสิ่งที่เขาพูดนั้นมันเก่าทั้งนั้น ตนเคยพูดในเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจตั้งแต่ปี 65 มาแล้ว ตอนที่พรรคก้าวไกลอภิปรายตนก็ชี้แจงไป โดยขอย้ำว่าพรรคภูมิใจไทย เราใช้กัญชาเพื่อการแพทย์และสุขภาพ และสิ่งที่เราทำมาตลอดก็ถือว่าอยู่ในกรอบ
เมื่อถามย้ำว่า มองว่า นายชูวิทย์ รับจ้างมาเป็นมือปืนในเรื่องนี้ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องการเมืองแน่นอน โดยพื้นฐานไม่ได้มีอะไรขัดแย้งกัน ไม่ใช่เรื่องเงินเรื่องทองแน่นอน ส่วนจะเป็นการดิสเครดิตหรือไม่
“ผมก็กังวลว่ามีข่าวผมให้เงิน 50 ล้านบาท ถ้าผมมี 50 ล้านบาท ผมจะให้คนแบบนี้ถือเงินหรือครับ คิดแบบนี้ก็แล้วกัน มันจะเป็นไปได้อย่างไร อย่าว่าแต่ 50 ล้านเลย แค่ 1 แสนผมก็ไม่ให้” นายอนุทิน กล่าว