จัดหนัก! “จตุพร” แฉ “เศรษฐา” เกี่ยวพันรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” ชี้ ปมขายบ้านหรู บางกอก บูเลอวาร์ด ซอยลาซาล จะลามไปหา บอกใบ้ “ขงเบ้ง” จะปรากฏตัวพิสูจน์ ขาวหรือเทา? “โฆษกสถานทูตจีน” เคลียร์ปัญหาทุนจีนสีเทา หนุนไทยดำเนินคดี
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (2 มี.ค. 66) นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “มันคือกับดัก” โดยพูดถึง นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และประธานที่ปรึกษาครอบครัวเพื่อไทย ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง หลังเตือน นายเศรษฐา ที่เข้าสู่การเมืองแล้ว ประวัติอีกด้านที่คนยังไม่รับรู้ จะพรั่งพรูขจรขจายออกไปให้สังคมไทยได้รับรู้
นายจตุพร เล่าถึงบทบาท นายเศรษฐา ทวีสิน ครั้งรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า นายเศรษฐา ถือว่าเป็นคนหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ โดยมี 2 ตำแหน่ง มาจากสายสัมพันธ์ของนายเศรษฐา 1. ตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือ “นายกฯ น้อย” ซึ่งคนในพรรคเพื่อไทยต่างตกใจ ว่า มาจากไหน แต่ยอมปล่อยไปเพื่อให้รัฐบาลได้เดินหน้า
2. ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สมัย นายวิทยา บูรณศิริ ก็เอาคนที่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับนายเศรษฐา ไปเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ต่อมาวันหนึ่งเอา นายวิทยา ออกแล้วแต่งตั้งคนของนายเศรษฐา ขึ้นเป็น รมต.แทน กระทั่งเกิดปัญหากรณีการแต่งตั้งปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นกระทรวงแรกที่ถูก กปปส. ตีแตก
นายจตุพร กล่าวว่า ความเป็นนักธุรกิจของนายเศรษฐา ถ้าเป็นไปได้ควรอธิบายก่อน ว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของตัวเองนั้น ได้เคยขายบ้านให้นอมินี ที่คนต่างชาติเป็นเจ้าของหรือไม่ เพราะหลังจากนี้ ตนเชื่อว่า เรื่องนี้จะโผล่ขึ้นตามลำดับ
“ในทางธุรกิจ มันจะมีตัวละคร ผมจะบอกใบ้ให้คุณเศรษฐา ไว้ล่วงหน้า ซึ่งผมได้ยินมาจากคนในแวดวง ว่า หลังจากนี้ จะมีคนชื่อ ขงเบ้ง จะเป็นเจ้ากรรมนายเวร เป็นตัวละครสำคัญ ซึ่งคุณเศรษฐา ย่อมรู้ดีกว่าใคร จะนำไปสู่หลากหลายเรื่องราว ทั้งอสังหาริมทรัพย์ และเกี่ยวกับเรื่องเทาๆ ทั้งหลายจะลุกลามไป ผมบอกใบ้ให้คุณเศรษฐาได้ทำการบ้านไว้” นายจตุพร กล่าว และว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุด เราต้องการคนมาทำให้ประเทศ ไม่ใช่คนมาทำเอากับประเทศเป็นเป้าหมายหลัก”
นายจตุพร กล่าวต่อไปว่า...ในทางการเมือง ถ้าอยากให้ใครฉิบหายต้องยุให้ลงการเมือง หลังจากนี้ จะได้รับบทเรียนตามลำดับ แต่เชื่อว่า นายเศรษฐา เป็นคนฉลาด ย่อมรู้ว่าตัวเองทำอะไรได้แค่ไหน ไม่ง่ายแบบนั่งบริหารหมู่บ้าน เพราะหลากเรื่องราวต้องดูถึงความเป็นไปในอดีต
...ที่ไปเอานักธุรกิจมาทำมาตรการเชิงรุก หวังกระชากความนิยมจากคนชั้นกลางนั้น จะเป็นทุกขลาภมากกว่า เตรียมมาตรการเชิงรับไว้ เพราะหลังจากนี้ จะพรั่งพรูทุกเรื่องราว เป็นโดมิโนอย่างคาดไม่ถึง
“เชื่อว่า คงมีการคิดกันมายาวนานพอสมควร ก่อนตัดสินใจรับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาครอบครัวเพื่อไทย ถือเป็นการเดินเข้าสู่กับดักทางการเมือง กรณีซอยลาซาล บางกอก บูเลอวาร์ด หลังจากนี้ จะลามมาที่คุณเศรษฐา และตัวละครชื่อขงเบ้ง ก็จะปรากฏตัว นำไปสู่การพิสูจน์ว่าสะอาดหรือไม่สะอาด ขาวหรือเทา เทาหรือดำ ดังนั้น คุณเศรษฐา ต้องเตรียมตัวไว้ว่า อะไรกำลังจะเกิดขึ้น” นายจตุพร กล่าว (จากไทยโพสต์)
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โพสต์ข้อความว่า
เมื่อเร็วๆ นี้ มีสื่อไทยตั้งคำถามต่อโฆษกสถานทูตจีน เกี่ยวกับเรื่องชาวจีนมีส่วนเกี่ยวข้องธุรกิจสีเทาในไทย ฝ่ายจีนมีความคิดเห็นต่อประเด็นดังกล่าวอย่างไร
A : รัฐบาลจีนเรียกร้องให้ชาวจีนและวิสาหกิจจีนที่อยู่นอกประเทศ เคารพและปฏิบัติตามกฎหมายและขนบธรรมเนียมประเพณีในประเทศหรือเขตอาณาที่อาศัยอยู่มาโดยตลอด และดำเนินธุรกิจที่ชอบด้วยกฎหมาย ตลอดจนตอบแทนสังคมในท้องถิ่น ซึ่งชาวจีนก็ได้ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องดังกล่าว ชาวจีนและวิสาหกิจจีนที่อยู่ในประเทศไทย ได้สร้างคุณูปการอันใหญ่หลวงแก่การพัฒนาเศรษฐกิจของไทย ทั้งยังมีส่วนร่วมในงานการกุศล ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้ประจักษ์ชัดอยู่ทุกเมื่อ
ข้าพเจ้าได้ติดตามข่าวที่เกี่ยวข้องจากสื่อไทยเมื่อเร็วๆ นี้ ฝ่ายจีนจะสนับสนุนทางการไทยให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับการกระทำมิชอบของชาวจีนบางรายในประเทศไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระหว่างจีน-ไทย ได้มีความร่วมมืออันใกล้ชิดในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ อาทิ การพนันออนไลน์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์
สิ่งที่ต้องเน้นย้ำ คือ การกระทำมิชอบนั้นเป็นเพียงการกระทำของคนบางกลุ่มเท่านั้น ไม่ใช่การกระทำของชาวจีนและวิสาหกิจจีนทั้งหมดในประเทศไทย การนำประเด็นเหล่านี้มาคัดค้านความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าถือเป็นสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผล สิ่งที่ต้องระมัดระวัง คือ มีกลุ่มอิทธิพลที่สามพยายามใช้ปัญหานี้เพื่อใส่ร้ายป้ายสีประเทศจีน และทำลายความร่วมมือฉันมิตรระหว่างจีน-ไทย ซึ่งฝ่ายจีนจะคัดค้านอย่างเด็ดขาด และจะร่วมกับประชาชนชาวไทยทั้งหลายเพื่อรักษาแนวโน้มการพัฒนาที่ดีของความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ
แน่นอน, ประเด็นสำคัญ อยู่ที่การออกมา “ตอกย้ำ” แบบจัดหนักจัดเต็ม อีกครั้งของ “จตุพร” ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับ นายเศรษฐา หลังตัดสินใจเข้าสู่การเมือง โดยเฉพาะเชื่อว่า ประวัติอีกด้านจะพรั่งพรูออกมา
ยิ่งกรณีที่เปิดออกมาแต่ละเรื่อง ล้วนน่าติดตาม และเป็นที่สนใจของสังคม ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อมโยงกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ปม บางกอก บูเลอวาร์ด ซอยลาซาล ขายบ้านหรู ให้ “นอมินี” กลุ่มทุนจีนสีเทา ที่ตัวละครอย่าง “ขงเบ้ง” เจ้ากรรมนายเวร จะออกมาพิสูจน์ ขาวหรือเทา หรือดำ? แค่นี้ก็น่าสนใจแล้ว
รวมทั้งคำชี้แจง ที่จะตามมาของ “เศรษฐา” สังคมก็กำลังรอรับฟังอยู่เหมือนกัน!?