xs
xsm
sm
md
lg

ครม.อนมุัติเจรจาทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ CEPA กับ UAE ช่วยไทยขาดดุลการค้าน้อยลง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รองโฆษกรัฐบาล เผย ครม.เห็นชอบให้ไทยเจรจาทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ CEPA กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ช่วยให้ไทยขาดดุลการค้าน้อยลง

วันนี้ (28 ก.พ.) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบให้ไทยเข้าร่วมเจรจาจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (Comprehensive Economic Partnership Agreement: CEPA) กับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) พร้อมทั้งเห็นชอบร่างกรอบการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สำหรับใช้ในการเจรจาจัดทำความตกลง ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ปัจจุบันไทยมีความตกลงการค้าเสรี หรือ FTA กับ 18 ประเทศ รวม 14 ฉบับ ส่วนการจัดทำความตกลงฉบับนี้ ถือเป็น FTA ฉบับแรกที่ไทยทำกับประเทศตะวันออกกลาง ซึ่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นคู่ค้าสำคัญของไทยในตะวันออกกลาง ถือเป็นตลาดศักยภาพใหม่ของไทย โดยมีบทบาทเป็นศูนย์กลางการค้า การธนาคาร และการคมนาคมในตะวันออกกลาง ตลอดจนเป็นแหล่งขนถ่ายและส่งต่อสินค้าไปยังประเทศอื่นๆ ทั้งในและนอกภูมิภาค ในปี 2565 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นคู่ค้าอันดับที่ 6 ของไทยในตลาดโลก และอันดับที่ 1 ในตะวันออกกลาง

สำหรับร่างกรอบเจรจาจัดทำความตกลงฉบับนี้ ใช้หลักการเดียวกันกับการยกร่างรอบการเจรจา FTA ฉบับอื่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุน ส่งเสริมและดึงดูดการลงทุน 2) ให้ความสำคัญกับทุกภาคส่วนของไทยที่อาจได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า โดยให้มีระยะเวลาในการปรับตัวและมาตรการรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น สำหรับสาระสำคัญร่างกรอบเจรจาจะครอบคลุม 20 ประเด็น อาทิ

1. การค้าสินค้า เช่น 1) ลดหรือเลิกมาตรการและอุปสรรคทางการค้าที่มิใช่ภาษีให้มากที่สุด 2) ให้มีระยะเวลาหรือเงื่อนไขในการปรับตัวที่เหมาะสมแก่สินค้าที่มีความอ่อนไหว เช่น อินทผลัม รวมทั้งมาตรการอื่นๆ เพื่อลดผลกระทบจากการลดภาษี

2. การค้าบริการ เช่น 1) มีกฎเกณฑ์การค้าบริการที่มีมาตรฐานสูงในระดับสากล 2) มีตลาดการค้าบริการอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเพิ่มเติมจากข้อผูกพันการเปิดตลาดของประเทศภาคีภายใต้ WTO และ 3) เปิดตลาดการค้าบริการในสาขาที่ไทยมีศักยภาพ และมีความพร้อมและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ

3. พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และการค้าดิจิทัล ส่งเสริมการอำนวยความสะดวกและความร่วมมือทางการค้าผ่านระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และการค้าดิจิทัล

4. ทรัพย์สินทางปัญญา ส่งเสริมการใช้ความยืดหยุ่น ข้อยกเว้น และข้อจำกัดในการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาอย่างสมดุลระหว่างเจ้าของสิทธิ ผู้บริโภค และสาธารณชนโดยรวม ส่วนที่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุขให้ไม่มีข้อจำกัดเพื่อประโยชน์ในการเข้าถึงยาและเทคโนโลยีสุขภาพที่จำเป็น ส่วนทรัพยากรพันธุกรรมและพันธุ์พืชนั้น ต้องไม่กระทบวิถีชีวิตของเกษตรกรรายย่อย

5. วิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย ส่งเสริมให้วิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อยทุกกลุ่มระดับ สามารถประกอบธุรกิจและใช้ประโยชน์จากความตกลง

6. การค้า และการพัฒนาที่ยั่งยืน เช่น 1) ส่งเสริมการคุ้มครองสิทธิแรงงานและการคุ้มครองด้านสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากลและสอดคล้องกับกฎระเบียบภายในประเทศ 2) ประเทศคู่ภาคีจะต้องไม่นาข้อบทนี้มาเป็นเครื่องมือกีดกันทางการค้า 3)ส่งเสริมความร่วมมือด้านสิทธิแรงงานและสิ่งแวดล้อม

7. อุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า เช่น ลดการใช้มาตรการด้านอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้าตามหลักการ ของความตกลงของ WTO 2) ส่งเสริมการใช้มาตรฐานระหว่างประเทศที่มีความเหมาะสมและปฏิบัติได้

นางสาวรัชดา กล่าวด้วยว่า การจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (CEPA) กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในครั้งนี้ จะช่วยให้ไทยขาดดุลการค้าน้อยลง เนื่องจากไทยจะสามารถส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้มากขึ้น โดยจากผลการศึกษาพบว่า จะทำให้ GDP ของไทย ขยายตัว 318-357 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญของไทย อาทิ ผลิตภัณฑ์อาหาร สิ่งทอ เครื่องแต่งกาย ผลิตภัณฑ์หนังสัตว์ ผลิตภัณฑ์ไม้ เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น


กำลังโหลดความคิดเห็น