“จุรินทร์” ทำสถิติไวสุด ใช้เวลาแค่ 21 วันชง ครม.ไฟเขียวทำ FTA ไทย-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) พร้อมส่งไม้ต่อกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศหารือยูเออี ก่อนประกาศนับหนึ่งเปิดการเจรจาต่อไป คาดเกิดประโยชน์แก่ไทยมหาศาล ทั้งด้านการค้า ลงทุน และส่งออก
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.ได้ให้ความเห็นชอบการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และจากนี้จะมอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเร่งประสานงานกับยูเออีเพื่อกำหนดวันประกาศร่วมกันอย่างเป็นทางการในการนับหนึ่งเปิดเจรจา โดยถือว่าเป็น FTA ที่เร็วที่สุดในโลกตั้งแต่ประเทศไทยทำมาฉบับหนึ่ง ซึ่งจะสร้างประโยชน์มหาศาลให้แก่การค้า การลงทุน และการส่งออกของไทย
“การทำ FTA กับยูเออี หรือที่คนไทยรู้จักว่าเมืองสำคัญ คือ ดูไบ เกิดจากการที่ผมนำคณะผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ ภาคเอกชน ไปเจรจากับรัฐบาลยูเออีเมื่อวันที่ 6-7 ก.พ.ที่ผ่านมา และได้มีการหารือในเรื่องนี้ และได้ตั้งใจจะทำให้เร็วที่สุด จึงนำเรื่องเข้า ครม.วันนี้ และที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบแล้ว” นายจุรินทร์กล่าว
สำหรับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นประเทศที่มีมูลค่าการค้ากับไทยเป็นลำดับหนึ่งในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง โดยปี 2565 มีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 1.3 ล้านล้านบาท เฉพาะยูเออีมีมูลค่า 700,000 ล้านบาท จึงมีความสำคัญมาก การส่งสินค้าขายต่อไป ภาษีจะเป็นศูนย์ มีผลให้ยูเออีเป็นประตูการค้าของไทยสู่ตะวันออกกลาง ซึ่งยูเออีเป็นสมาชิกกลุ่มประเทศความร่วมมือแห่งอ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council : GCC) ที่ประกอบด้วย กาตาร์ บาห์เรน ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โอมาน และคูเวต จะได้รับการอำนวยความสะดวกต่างๆ ด้วย
ส่วนสินค้าสำคัญที่ไทยส่งออกไปยูเออี เช่น รถยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องปรับอากาศ อัญมณีและเครื่องประดับ สมาร์ทโฟน ไฟเบอร์บอร์ด ยางนอกรถจักรยานยนต์ ปลาทูน่ากระป๋อง และข้าว เป็นต้น ส่วนไทยนำเข้าจากยูเออี เช่น น้ำมันดิบ ปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ อะลูมิเนียม ทองคำ และเม็ดพลาสติก เป็นต้น