“จุรินทร์”ผลักดันสร้างกลไกเพิ่มมูลค่าการค้าไทย-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้เป็นผลสำเร็จ 2 กลไก นับหนึ่งทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (CEPA) ไทย-ยูเออี เพื่อใช้เป็นเวทีร่วมมือการค้า ลงทุน และความร่วมมือเศรษฐกิจ และเซ็น MOU จัดตั้งสภาธุรกิจร่วมไทย-ยูเออี ตั้งเป้าเพิ่มการค้าให้ได้ 30,000 ล้านบาทภายในปีนี้
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังนำคณะภาครัฐและเอกชนหารือกับ ดร.ธานี บิน อาเหม็ด อัล เซยูดี รัฐมนตรีแห่งรัฐประจํากระทรวงเศรษฐกิจสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รับผิดชอบด้านการค้าต่างประเทศ ที่ Sharjah Chamber of Commerce and Industry ว่า วันนี้ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ตนมีโอกาสพบกับท่านรัฐมนตรีธานี เกิดกลไกสร้างความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ ด้านเศรษฐกิจ 2 กลไก คือ การตกลงนับหนึ่งทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (Comprehensive Economic Partnership Agreement หรือ CEPA) กับยูเออี ตั้งเป้าให้เสร็จภายใน 6 เดือน
พร้อมกันนี้ ได้มีการเซ็น MOU ระหว่างภาคธุรกิจของ 2 ประเทศ จัดตั้งสภาธุรกิจร่วม (Joint Business Council - JBC) ไทย-ยูเออี โดยจะร่วมมือกันในการขับเคลื่อนธุรกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างกัน ตั้งเป้าภายในปีนี้ปีเดียวจะเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ตนได้ชวนนักลงทุนจากยูเออีไปลงทุนในประเทศไทย นอกจากจะได้รับสิทธิประโยชน์จากบีโอไอของไทย จะได้ประโยชน์จาก FTA ที่ไทยมี 14 ฉบับกับ 18 ประเทศด้วย และไทยยังได้เริ่มนับหนึ่ง FTA ไทย-สหภาพยุโรป 27 ประเทศแล้ว ถ้าสำเร็จนักลงทุนจากยูเออีที่ไปลงทุนในไทยจะได้รับสิทธิประโยชน์ด้วย และเชิญชวนให้มาร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติที่ไทยจัดขึ้น เช่น งาน Bangkok Gems & Jewelry Fair งาน THAILOG ที่เกี่ยวกับโลจิสติกส์ งาน THAIFEX เกี่ยวกับอาหาร งาน STYLE Bangkok เกี่ยวกับสิ่งทอ และงาน TAPA เกี่ยวข้องกับชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์
นอกจากนี้ ได้ขอความสนับสนุนให้ภูเก็ตเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo ซึ่งยูเออีเป็นหนึ่งในสมาชิกที่สามารถลงคะแนนได้ จากประเทศทั้งหมด 170 กว่าประเทศ โดยขอให้ช่วยโหวตจังหวัดภูเก็ตและประเทศไทยให้ได้จัดงานด้วย ซึ่งจะมีการพิจารณาในช่วงเดือนมิ.ย.2566 นี้