xs
xsm
sm
md
lg

‘ไทยศรีวิไลย์’ บุก ‘อุดรธานี’ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 2 ราย ลั่น ลุยปราบยาเสพติด ปกป้องลูกหลานให้พ้นภัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้(27 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมงคลกิตติ์  สุขสินธารานนท์  หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์  พลโท อัศวิน รัชฎานนท์และนายวิวัฒน์  เจริญพาณิชย์ศิริ  รองหัวหน้าพรรค นายศยุน ชัยปัญญา เลขาธิการพรรคฯ,นายสรกฤช  จันทรคณา  โฆษกพรรค, นางสาวอริญรดา สาระชัย นายทะเบียนพรรค,นางสาวกนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ รองโฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคฯนางสาวณัฐปภัสร์  วรธันย์ผาสุข รองโฆษกพรรค ,นางสาวกฤษยากร สรชัย ผู้ช่วยเหรัญญิกพรรค,นายอนุรักษ์  อมรเมตตาจิตต์  ผู้ช่วยเลขาธิการพรรค,นายอดิศร สังข์จันทร์ , นายอนวรรช ศรีคำเงิน กรรมการบริหารพรรค พล.ท. ดร.กฤตภาส คงคาพิสุทธิ์ ประธานยุทธศาสตร์ด้านพลังงานพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้ลงพื้นที่ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี โดยนายมงคลกิตติ์และคณะ ได้เข้าร่วมการประชุมตั้งตัวแทนพรรคไทยศรีวิไลย์ ประจำจังหวัดอุดรธานี โดยที่ประชุมได้คัดเลือก นางสาวมนัสภรภ์  ศรีบุตร  เป็นตัวแทนพรรคฯ ประจำจังหวัดอุดรธานี หลังจากนั้น จึงได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. อุดรธานี จำนวน 2 ราย จาก 9 เขตเลือกตั้ง คือ นายสมพงค์ โยธะชัย เขต 7 (อ.กุมภวาปี,อ.โนนสะอาด,อ.หนองแสง) และนายวรกร สาสุนธร เขต 8 (อ.เมืองอุดรธานี,อ.กุดจับ,อ.หนองวัวซอ,อ.บ้านผือ)

               โดยนายมงคลกิตติ์ กล่าวปราศรัยว่า ต้องขอบคุณชาว จ.อุดรธานี ที่ให้โอกาสให้พรรคไทยศรีวิไลย์ได้ลงพื้นที่แนะนำนโยบายและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งตนเชื่อมั่นว่า การที่ประชาชน จ.อุดรธานี มีความรักและศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย จะเป็นสิ่งที่สำคัญที่ทำให้พรรคไทยศรีวิไลย์ ได้รับโอกาสจากประชาชนในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ โดยนโยบายที่สำคัญของพรรคฯ ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร นั่นก็คือ การผลักดันราคาข้าวชนิดอื่นๆ ให้ถึง 15,000 บาท ต่อตัน เพราะถ้าอยากให้ชาวนาไทยร่ำรวยแล้ว จะต้องช่วยผลักดันให้ข้าวชนิดอื่นๆ มีราคาให้ถึง 15,000 ต่อตัน เหมือนกับข้าวหอมมะลิ ที่บางเดือนสามารถทำราคาไปถึง 20,000 บาทต่อตัน รวมทั้ง การผลักดันราคาอ้อยให้ถึง 1,500 บาทต่อตัน จากปัจจุบันนี้ ราคาอ้อยอยู่ที่ตันละ 1,200 บาท ซึ่งขณะนี้ มีโรงงานน้ำตาลรายใหญ่ในประเทศถึง 70 โรงงาน โดยทางพรรคฯ จะกำหนดให้ทุกโรงงานต้องรับซื้ออ้อยจากเกษตรกรภายในประเทศตันละ 1,500 บาท ถ้าโรงงานใดรับซื้อราคาต่ำกว่านี้ จะมีโทษทางกฎหมาย เพราะถือว่า เป็นการเอารัดเอาเปรียบชาวไร่อ้อย รวมทั้ง ในเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจในการอัดฉีดเงิน 1.5 แสนบาท ทุกครัวเรือน ซึ่งตนเชื่อว่า พี่น้องเกษตรกรจะนำเงินตรงนี้ไปใช้ประโยชน์อย่างน้อยๆ 2 ประการ คือ การปลดหนี้สิน โดยเฉพาะหนี้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) และการนำไปซื้อปัจจัยการผลิตเพื่อสร้างอาชีพและผลผลิตในฤดูกาลเพาะปลูกที่จะถึงนี้ ซึ่งจะทำให้มีเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจและเป็นยาแรงที่จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวทันที และนโยบายหลักประกันคนไทยเสียชีวิตทุกโรค 500,000 บาท รัฐบาลรับประกัน จะได้ไม่เดือดร้อนคนข้างหลัง  ซึ่งบริษัทรับประกันอาจจะใช้วิธีการเดียวกันกับธนาคารออมสิน คือรัฐบาลเป็นประกันสำหรับหน่วยงานที่จะดำเนินการในโครงการดังกล่าว โดยนโยบายนี้จะใช้เงินประมาณปีละ 250,000 ล้านบาท  ซึ่งเงินส่วนนี้ไม่ต้องไปกู้เงินสร้างหนี้ให้ประเทศใหม่ แต่จะใช้ออกกฎหมายการพนันเปิดเป็นใบอนุญาต เราจะได้ค่าภาษีจากการพนันที่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของพรรคฯ ที่ต้องการเอาเงินที่รั่วไหลจากธุรกิจผิดกฎหมาย มาแปลงเป็นเงินสวัสดิการเพื่อน้องประชาชนทั้งประเทศ

           นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการปราบปรามยาเสพติดนั้น ตนเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ รวมทั้ง คนในชุมชนเป็นอย่างดี ที่ต้องการไม่ให้ลูกหลานชาวชุมชนต้องตกเป็นทาสของยาเสพติด แต่การปราบปรามที่ผ่านมา มักจะปราบปรามพวกที่เป็นปลายน้ำ ไม่ได้ปราบปรามที่ต้นน้ำคือแหล่งผลิตที่เกี่ยวพันกับทุนสีเทาข้ามชาติ โดยใช้ประเทศเพื่อนบ้านเป็นฐานการผลิต ดังนั้น พรรคไทยศรีวิไลย์ จะปราบปรามตั้งแต่ต้นน้ำ โดยจะมีการขอความร่วมมือทั้งทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน ฝ่ายปกครอง รวมทั้ง ฝ่ายความมั่นคงของประเทศเพื่อนบ้าน ให้เผาแหล่งที่ผลิตยาเสพติด รวมทั้ง หากมีการนำเข้ามา ก็จะต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด เพื่อรักษาชีวิตของคนไทยและปกป้องลูกหลานจากภัยของยาเสพติด รวมทั้ง ยังยืนยันจุดยืนเดิมที่ตนเคยให้แถลงข่าวว่า ต้องการให้กัญชาคงความเป็นยาเสพติดเท่านั้น และห้ามใช้กัญชาเชิงสันทนาการเด็ดขาด เนื่องจากกัญชามีคุณประโยชน์ทางการแพทย์ในโรคบางโรคเท่านั้น รวมทั้ง หากใครที่คิดจะนำร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกัญชามาเสนอในสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่แล้ว ตนและพรรคไทยศรีวิไลย์ จะทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้กฎหมายเรื่องดังกล่าวผ่านสภาฯ ไปให้ได้










กำลังโหลดความคิดเห็น