ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พลโท อัศวิน รัชฎานนท์และนายวิวัฒน์ เจริญพาณิชย์ศิริ รองหัวหน้าพรรค นายศยุน ชัยปัญญา เลขาธิการพรรคฯ,นายสรกฤช จันทรคณา โฆษกพรรค,นางสาวอริญรดา สาระชัย นายทะเบียนพรรค,นางสาวณัฐปภัสร์ วรธันย์ผาสุข รองโฆษกพรรค ,นางสาวกฤษยากร สรชัย ผู้ช่วยเหรัญญิกพรรค,นายอนุรักษ์ อมรเมตตาจิตต์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรค,นายอดิศร สังข์จันทร์ , นายอนวรรช ศรีคำเงิน กรรมการบริหารพรรค ดร.กฤตภาส คงคาพิสุทธิ์ ประธานยุทธศาสตร์ด้านพลังงานพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้ลงพื้นที่ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม โดยนายมงคลกิตติ์และคณะ ได้เข้าร่วมการประชุมตั้งตัวแทนพรรคไทยศรีวิไลย์ ประจำ จ.มหาสารคาม โดยที่ประชุมได้คัดเลือก นางสาววิสุดา แสงบัวท้าว เป็นตัวแทนพรรคฯ ประจำจังหวัดมหาสารคาม ต่อมา พรรคไทยศรีวิไลย์ ได้เปิดปราศรัยใหญ่ ณ วัดบ้านดอยกลอย ต.หัวขวาง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม เพื่อเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. มหาสารคาม ของพรรคฯ คือ นายอดิศักดิ์ พาลเพ็ง เขต 1 (อ.เมือง) และ นายธนพงษ์ วังสพรรณ์ เขต 5 (อ.โกสุมพิสัย , อ.กุดรัง, อ. กันทรวิชัย) โดยมีประชาชนชาว จ.มหาสารคาม มาร่วมรับฟังการปราศรัยกว่า 1,000 คน
นายมงคลกิตติ์ กล่าวปราศรัยว่า ตนขอขอบคุณสมาชิกพรรคและประชาชนในหลายๆ จังหวัดทั่วประเทศ ที่ได้พยายามจัดตั้งตัวแทนพรรคไทยศรีวิไลย์ประจำจังหวัดต่างๆ เพื่อให้สามารถหาสมาชิกพรรคฯ ที่ดีที่สุด เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ ซึ่งที่ผ่านมา พรรคไทยศรีวิไลย์ได้เดินหน้าหาสมาชิกพรรคและขอเสียงสนับสนุนจากประชาชนตามหลักการ ‘ไม่ยุบ ไม่รวม ไม่ดูด ไม่ซื้อ’ โดยได้รับการตอบรับจากประชาชนที่รักประชาธิปไตยเป็นอย่างดี ทั้งนี้ เรื่องหนึ่งที่ตนและพรรคไทยศรีวิไลย์ให้ความสำคัญมาโดยตลอด นั่นก็คือ การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เพราะมีหลายตัวอย่างที่เกิดจากปัญหาในกระบวนการยุติธรรมปัจจุบัน รวมทั้ง การที่รีบร้อนออกพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ทั้งๆที่หน่วยงานที่รับผิดชอบยังไม่มีความพร้อม ขาดงบประมาณในการจัดซื้อเครื่องมือที่สำคัญตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว รวมทั้ง ยังเป็นความเสี่ยงที่จะทำให้ตำรวจหลายๆ คนอาจจะต้องโดนคดีอาญาและโทษทางวินัยอีกด้วย จึงทำให้รัฐบาลลนลานถึงกับต้องรีบออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาแบบซื้อเวลาไปก่อน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลไม่มีความจริงใจกับประชาชนในการอำนวยความยุติธรรมและยังสร้างความหวาดกลัวให้ประชาชนทั่วไปอีกด้วย ดังนั้น นโยบายปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมของพรรคไทยศรีวิไลย์ จะทำให้ประชาชนทั่วไปมีความสบายใจมากยิ่งขึ้น คนที่บริสุทธิ์จะได้รับความคุ้มครองเป็นอย่างดี คนร้ายจะต้องหวาดกลัวไม่คิดที่จะกระทำผิด รวมทั้ง วลีที่เป็นอมตะว่า ‘คุกมีไว้ขังคนจน’ นั้น จะหมดไป เพราะจะทำให้คุกเป็นที่ขังสำหรับคนที่ทำผิดกฎหมายไม่ว่าจะรวยหรือมีเส้นสายขนาดไหนก็ตาม โดยแนวทางการปฏิรูปกระบวนยุติธรรมของพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้มีการดำเนินการมาแล้ว เช่น ร่าง พ.ร.บ.สอบสวนคดีอาญา พ.ศ. ....
โดยจะเปิดโอกาสให้การสืบสวนสอบสวน ระหว่างอัยการกับตำรวจนั้น ได้เริ่มกระบวนการสอบสวนตั้งแต่จุดเริ่มต้นร่วมกัน ในคดีที่มีความสลับซับซ้อน และมีอัตราโทษสูงตั้งแต่โทษจำคุกเกิน 10 ปี ขึ้นไป ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมพิจารณาความอาญา (ฉบับที่...) พ.ศ. ... เพื่อป้องกันการฮั้วคดีความ โดยอนุญาตให้ สามีหรือภริยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส พี่น้องร่วมบิดามารดา หรือพี่น้องร่วมบิดาหรือมารดาสามารถเป็นผู้เสียหายได้ และจัดตั้งสำนักงานทนายแห่งรัฐ โดยมีหน้าที่รับว่าความทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนทั่วไปที่มีฐานะยากจนหรือไม่สามารถจัดหาทนายในการต่อสู้คดีได้ รวมทั้ง พรรคไทยศรีวิไลย์จะได้มีการตั้งกระทู้ถามถึงความคืบหน้าในการจัดสรรงบประมาณในการซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือสำหรับการป้องกันไม่ให้มีเหตุการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายฯ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ เพราะเป็นเรื่องที่กระทบกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่รับรองโดยรัฐธรรมนูญฯ และถือเป็นเรื่องสามัญสำนึกที่ตัวแทนของปวงชนชาวไทยจะต้องปกป้องผู้ที่มีอำนาจอธิปไตยอย่างแท้จริง
“ผมเชื่อว่า พรรคการเมืองที่ดีจะต้องฟังเสียงประชาชน ผมก็เลยอยากจะถามว่า ในเวลานี้ ประชาชนต้องการให้พรรคไทยศรีวิไลย์ทำอะไรมากที่สุด บางคนก็บอกว่า ต้องกำจัดคนชั่วออกไปก่อน บางคนก็บอกว่า จะต้องดูแลประชาชนก่อน ผมอยากจะบอกว่า 2 เรื่องแรกนั้น พรรคไทยศรีวิไลย์ทำแน่นอน เพราะนโยบายของพรรคฯ เน้นกำจัดคนพาล อภิบาลคนดี ประชาชนทุกคนมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นการเอาผลประโยชน์จากธุรกิจผิดกฎหมายมาแปรสภาพเป็นเงินที่มาดูแลพี่น้องประชาชนกลุ่มเปราะบาง โดยถือเป็นการบีบบังคับพวกธุรกิจผิดกฎหมายให้อยู่อย่างลำบากมากที่สุด เพื่อหวังว่า ปัญหาเหล่านี้จะลดน้อยลง การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนมีสิทธิเท่าเทียมกันทางกระบวนการยุติธรรมอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การตั้งสำนักงานทนายแห่งรัฐขึ้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนทั่วไปที่มีความรู้ทางกฎหมายน้อย และไม่มีเงินจ้างทนายมาต่อสู้คดีได้ ซึ่งจะทำให้วลี ‘คุกมีไว้ขังคนจน’ หายออกไปจากสังคมไทย พร้อมทั้ง ผมยังได้เสนอนโยบายหลักประกันคนไทยเสียชีวิตทุกโรค 500,000 บาท รัฐบาลรับประกัน จะได้ไม่เดือดร้อนคนข้างหลัง โดยที่ผ่านมาจะสังเกตว่าช่วงโควิด คนถือบัตรสวัสดิการหรือบัตรคนจน 20 ล้านคน เวลาตายไม่มีเงินค่าโลงศพ ไม่มีเงินค่าปลงศพ หรือแม้กระทั่งไม่มีเงินค่าน้ำมันในการเผาศพ ซึ่งถือว่าน่าอนาถใจมาก และนโยบายนี้จะใช้เงินประมาณปีละ 250,000 ล้านบาท โดยเงินส่วนนี้ไม่ต้องไปกู้เงินสร้างหนี้ให้ประเทศใหม่ แต่จะใช้ออกกฎหมายการพนันเปิดเป็นใบอนุญาต เราจะได้ค่าภาษีจากการพนันที่ชอบด้วยกฎหมาย และรวมรายได้จากการท่อง
เที่ยวก็พอดีกับเงินค่าประกันกับชีวิตทุกชีวิตของพี่น้องประชาชน และประชาชนจะมีความสุขกับการที่พรรคไทยศรีวิไลย์ได้ลงทำนโยบายต่างๆ ตามที่ปรากฏในโบร์ชัวร์ที่ผมแจกไว้ให้ประชาชนแต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ประชาชนที่นี้อยากให้พรรคไทยศรีวิไลย์ทำมากที่สุดก็คือ การเอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกไปจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ซึ่งผมบอกว่า ถ้าอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ ออกไป ก็ต้องเลือกพรรคไทยศรีวิไลย์ เพราะยังไงผมก็พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีของคนมหาสารคาม และคนไทยทั้งประเทศด้วย ท้ายนี้ตนอยากฝากบอกทุกพรรคการเมืองว่า นโยบายที่ออกจากตนห้ามลอกเลียนแบบเด็ดขาด ใครลอกตนจะไปด่าถึงหน้าสำนักงานพรรคเลย และจากนี้หากประชาชนเห็นด้วยถึงนโยบายและต้องการให้ตนและพรรคเข้าไปดูแล สามารถเลือกพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้ทั้งระบบ สส.เขต ซึ่งตนพยายามจะส่งให้ครบทุกเขตทั่วไทย ในส่วนของบัญชีรายชื่อ พี่น้องเลือกได้ทุกเขตพื้นที่ ถ้าประเทศไทยมี 22 ล้านครัวเรือน ขอโอกาสครัวเรือนละ 1 คะแนนเลือกเรา ก็สามารถขึ้นเป็นพรรคเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ และเมื่อนั้นนโยบายประกันชีวิตคนไทยได้ 5 แสนบาทต่อหนึ่งชีวิต นโยบายผู้สูงอายุได้ 5,000 บาทต่อเดือน ลดราคาน้ำมันลิตรละ 10 บาท หรือเพิ่มเงินให้ อสม.และอพปร. เดือนละ 3,000 ก็จะเป็นจริงได้แน่นอน ” นายมงคลกิตติ์ กล่าว