xs
xsm
sm
md
lg

“โรม” แฉต่อสู้ “อุปกิต” แสดงทรัพย์สินเท็จขาย รร.จ่อชง ป.ป.ช.ฟัน จี้ ตร.กล้าอายัดตึก รทสช.หรือไม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โฆษกก้าวไกลเปิดหลักฐานเพิ่มสู้กลับ “ส.ว.อุปกิต” แสดงบัญชีทรัพย์สินเท็จ ปมขายโรงแรมอัลลัวร์รีสอร์ต จ่อยื่น ป.ป.ช. วินิจฉัยฟันพ้น ส.ว. - เพิกถอนรับสมัครเลือกตั้งตลอดชีวิต พร้อมตั้ง 3 คำถาม บี้ตำรวจดำเนินการ กล้าอายัดตึก รทสช.หรือไม่

วันนี้ (20 ก.พ.) นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล แถลงข่าวพร้อมเปิดหลักฐานเพิ่มเติมหลังจากได้อภิปรายเปิดโปงกรณี ไทยเทา-จีนเทา ซึ่งพาดพิง นายอุปกิต ปาจรียางกูร ส.ว. จนถูกฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท เรียกร้องค่าเสียหาย 100 ล้านบาท พร้อมกล่าวว่า นายอุปกิต เคยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และกรรมการของบริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป จำกัด ถูกเชื่อมโยงว่า เป็นบริษัทเพื่อฟอกเงินผิดกฎหมายของ ทุน มิน ลัต นักธุรกิจชาวเมียนมา เมื่อมีการจับกุมทุน มิน ลัต นายอุปกิต ก็รีบออกมาชี้แจงว่า ได้ขายหุ้นและลาออกจากตำแหน่งแล้ว ซึ่งเอกสารที่ นายอุปกิต ยื่นประกอบบัญชีทรัพย์สินต่อ คณะกรรมการการป้องกันการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คือ เอกสารสัญญาซื้อขายอาคารและกิจการโรงแรม ลงวันที่ 9 พ.ค. 2562 สัญญาระบุว่า นายอุปกิต เป็นผู้ขาย ทำสัญญากับ นายชาคริส กาจกำจรเดช ผู้ซื้อ ตกลงซื้อขายอาคารตึกคอนกรีตเสริมเหล็ก 3 ชั้น จำนวน 1 หลัง ห้องพักจำนวน 78 ห้อง และกิจการโรงแรม Allure Resort และสิทธิการใช้ประโยชน์บนที่ดินอันเป็นที่ตั้งของอาคารดังกล่าว ในราคา 8,150,000 ดอลลาร์สหรัฐ ชำระเงินในเดือนสิงหาคม 2562 และตกลงกันว่าจะส่งมอบและรับมอบการครอบครองอาคารดังกล่าวในวันเดียวกันกับวันที่ทำสัญญา

นายรังสิมันต์กล่าวว่าสารสัญญาฉบับนี้ คือสิทธิและหน้าที่เกี่ยวกับโรงแรมตามสัญญา BOT ต้องเป็นของบริษัท Allure Group หรือ Myanmar Allure ถ้าจะมีการขายโรงแรมให้ผู้อื่นก็ควรเป็นการที่ นายอุปกิต ขายหุ้นของตัวเอง แต่สัญญาฉบับนี้กลับมีชื่อบุคคลธรรมดา 2 คน ไม่ใช่นิติบุคคล และไม่ได้เป็นสัญญาเพื่อซื้อขายหุ้นของบริษัท แต่เป็นการซื้อตึกและกิจการโรงแรม และสิทธิใช้ประโยชน์บนที่ดินโรงแรม หมายความว่า ตามสัญญานี้สิทธิในโรงแรม Allure Resort จะต้องตกเป็นของบุคคลธรรมดาที่ชื่อ นายชาคริส เป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ นี่คือ ความไม่ชอบมาพากลของการขายโรงแรมอ้างต่อ ป.ป.ช.

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ข้อมูลนี้หมายความว่า หนังสือสัญญาซื้อขายระหว่าง นายอุปกิต กับ นายชาคริส เป็นเอกสารเท็จ สัญญาซื้อขายไม่ได้เกิดขึ้นจริง ใช่หรือไม่ รายได้ที่เข้าบัญชีกัมพูชาของอุปกิต กว่า 8 ล้านดอลลาร์ มาจากไหน เป็นเงินจากใคร และได้มาจากเรื่องอะไรกันแน่ การกระทำเช่นนี้เป็นการจงใจยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบหรือไม่ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้หรือไม่ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาที่แท้จริงของทรัพย์สิน คือ เงิน 8 ล้านดอลลาร์ ว่ามาจากที่ไหน ซึ่งจะเป็นความผิดตาม พ.ร.ป. ว่าด้วยการปราบปรามทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 และในมาตรา 114 ประกอบมาตรา 81 ยังกำหนดให้ ป.ป.ช. เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อวินิจฉัยด้วย หากวินิจฉัยว่าผิดจริง นายอุปกิต จะต้องพ้นจากตำแหน่ง ส.ว. ถูกเพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งตลอดไป และอาจถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งสูงสุด 10 ปี โดยภายในสัปดาห์นี้ โดยตนจะยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ต่อไป

ทั้งนี้ นายรังสิมันต์ ได้ตั้งคำถามไปถึงหน่วยงานตำรวจ 3 ข้อ คือ ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ จะเป็นวันปิดสมัยประชุมสภา ทำให้เอกสิทธิ์และความคุ้มกันของ ส.ส. และ ส.ว. หมดไป จึงขอถาม ผบ.ตร. ในฐานะพนักงานสอบสวนระดับสูงสุด ว่าหลังจากตนเปิดหลักฐานไปหมดแล้ว ตำรวจจะดำเนินการอย่างไรต่อนายอุปกิต

2. หากข้อเท็จจริงชี้ว่าทรัพย์สินต่างๆ ของนายอุปกิต ได้มาจากการฟอกเงิน หรือยังไม่มีความชัดเจนว่าอาจได้มาโดยผิดกฎหมาย จะต้องมีการยึดอายัดทรัพย์สินเหล่านั้นตามหลักปฏิบัติหรือไม่ ตำรวจจะกล้ายึดอาคารและที่ดินที่วันนี้เป็นที่ตั้งของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) หรือไม่ และ 3. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พยายามปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนายอุปกิต แต่ตอนนี้ในฐานะประธาน ก.ตร. เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของตำรวจ ถามว่า ทำไมตำรวจที่รับผิดชอบคดีจับกุม ทุน มิน ลัต จึงถูกย้าย เป็นเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ รู้ใช่หรือไม่ ว่า ตัวเองอาจหนีความรับผิดชอบไม่ได้” นายรังสิมันต์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น