“บิ๊กตู่” ต้อนรับทีม USAR Thailand กลับไทย พร้อมมอบเหรียญที่ระลึก ชื่นชมเสียสละ สร้างชื่อเสียงสมศักดิ์ศรีประเทศ ลูบหัวขอบคุณ ซาฮาร่า-เซียร่า ทำประโยชน์ให้ประเทศ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 ก.พ. ที่อาคารผู้โดยสารขาเข้า ชั้น 2 ประตู 10 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีต้อนรับชุดค้นหาและกู้ภัยในเมืองแห่งชาติ (ทีม USAR Thailand) กลับสู่ประเทศไทย โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และคณะร่วมพิธีต้อนรับด้วย
โดยเมื่อมาถึง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทักทายสื่อมวลชน จากนั้นได้เข้าห้องรับรอง ก่อนต้อนรับทีม USAR Thailand พร้อมรับฟังรายงานผลการปฏิบัติงาน จากนั้น นายกฯ กล่าวว่า ในนามของประชาชนคนไทยและรัฐบาล ขอต้อนรับทีม USAR Thailand ทั้ง 42 นาย กลับสู่ประเทศไทยจากการเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจ ตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. ทั้งการสนธิกำลังของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมการแพทย์ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในบรมราชูปถัมภ์ มูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม และหน่วยงานต่างๆ ตนขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมกันผลึกกำลังกายกำลังใจสนับสนุนในการเดินทางไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ณ ประเทศตุรกี ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของทีมค้นหากู้ภัยประเทศไทยที่ได้มีโอกาสปฏิบัติภารกิจครั้งสำคัญร่วมกับนานาอารยะประเทศ และได้สร้างชื่อเสียงเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรีของประเทศ ในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล ในด้านการให้ความช่วยเหลือมนุษยธรรม ซึ่งเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศระหว่างไทยและตุรกีให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนขอพูดในนามนายกรัฐมนตรีและคนไทย ขอชื่นชมทุกคน ตั้งแต่ผู้บังคับบัญชาลงไปจนถึงทุกคนในทีม ทั้งที่ไปและไม่ได้ไป ด้วย เพราะการตัดสินใจครั้งนี้เป็นการตัดสินใจโดยเร่งด่วนฉับพลัน พอทราบสถานการณ์ของตุรกีแล้วก็มีความห่วงใยว่าจะสามารถทำอะไรให้เขาได้บ้าง เราก็นึกถึงตรงนี้ขึ้นมา ก็ปรึกษากับ รมว.มหาดไทย ซึ่งก็พร้อม พรุ่งนี้ไปได้เลย ตนใจชื้น ชื่นใจ แสดงว่าเรามีความพร้อมอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอะไรก็ตามเป็นสิ่งที่เราต้องทำเพื่อประชาชนของเราและเพื่อโลกด้วย เราจะต้องมีความพร้อมในทุกมิติเพราะว่าโลกของเรามีความเชื่อมโยงมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขจะต้องดูแลซึ่งกันและกัน
นายกฯ กล่าวว่า ในการเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ ถือว่าเป็นการรวมพลังของคนทั้งโลก เข้ามาให้ความสำคัญในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะการบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งถือเป็นบทเรียนที่สาหัสพอสมควร ขอขอบคุณเอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทยที่ให้คำชื่นชมและขอบคุณมาถึงตนและทีมทั้งหมดมามากมาย ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างสมศักดิ์ศรีทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ ตนพยายามเพิ่มพูนความสัมพันธ์ให้เพิ่มมากขึ้นในหลายมิติ เราและตุรกีและประเทศอื่นๆ อีกด้วย นั่นเป็นสิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ วันนี้ทุกคนกลับมาคงต้องใช้เวลาพักผ่อน หาครอบครัว ขอให้ทีมแพทย์ดูแลด้วย
นายกฯ ยังกล่าวหยอกด้วยว่า แฟนคงรออยู่บ้านอย่าเพิ่งไปเที่ยวไหนก็แล้วกัน และกล่าวชื่นชมสุนัขทั้ง 2 ตัว ว่า น่ารัก สงบเงียบเรียบร้อย ทั้งหมดเทียบได้ว่านี่คือวีรบุรุษเหมือนกัน ขอให้ทุกคนปรบมือให้กับเขาอีกครั้ง ตนขอชื่นชมยกย่องในความเสียสละของทุกท่าน ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ท่านเคารพนับถือดลบันดาลให้สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง พัฒนาตนเองและหน่วยงานให้มีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สร้างความปลอดภัยให้พี่น้องประชาชนและประเทศชาติต่อไป
จากนั้นนายกฯถ่ายภาพร่วมกับคณะ และมอบเหรียญที่ระลึกจากนายกฯ ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์สำนักนายกรัฐมนตรีให้กับทีม USAR Thailand และยังระบุว่า this for you ให้มอบกับสุนัขซาฮาร่าและเซียร่าด้วย พร้อมกล่าวกับสุนัขและลูบหัวอย่างเอ็นดูว่า ขอบใจนะลูกนะ โชคดีนะ อายุยืนยาว ช่วยทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับชุดค้นหาและกู้ภัยในเมืองแห่งชาติ (ทีม USAR Thailand) จำนวน 42 คน พร้อมสุนัขชุดค้นหาคือซาฮาร่าและเซียร่า ได้ปฎิบัติภารกิจ 9 วันที่ตุรกี และเดินทางกลับไทยด้วยเที่ยวบิน TK64 สายการบิน Turkish Airlines