xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” เผย มีวันยุบสภาในใจแล้ว ยันไม่ถ่วงเวลา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“บิ๊กตู่” เผย มีวันยุบสภาในใจแล้ว ยันไม่ได้ถ่วงเวลา รทสช.พร้อมแล้ว แค่ยังไม่พูด หวังเลือกตั้งบริสุทธิ์ นักการเมืองสร้างสรรค์ ลั่นพร้อมรับทุกสถานการณ์ บอกไม่สนใจดีเบต


วันที่ 16 ก.พ. 2566 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ประเมินการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 วันสุดท้าย ว่า ขอบคุณสื่อมวลชนที่เป็นกำลังใจให้ ทุกคนคงทราบดี นายกฯพยายามทำทุกอย่างให้ประเทศชาติเดินหน้าไปต่อ ทั้งนี้ ก็แล้วแต่อนาคต สิ่งสำคัญที่สุดอยากบอกพวกเราว่าทุกคนและทีมงานข้าราชการทั้งหมดพยายามทำอย่างเต็มที่ แต่ปัญหาหลายปัญหามีความซับซ้อนหลายเรื่องด้วยกัน ซึ่งต้องใช้เวลาในการแก้ไขพอสมควรจนกว่าจะไปถึงเป้าหมาย 100%

นายกฯ กล่าวว่า สิ่งที่พูดมา 2 วัน หลายอย่างมีประโยชน์หลายอย่างพร้อมกัน หลายอย่างก็ฟังไปที่เป็นประโยชน์ก็จะนำไปปรับปรุงแก้ไขในหลายเรื่องเรารับฟังเหตุผลทุกคน ฟังแล้วก็หาเหตุผลข้อเท็จจริงต่างๆ นายกฯตั้งใจอยู่แล้วทำเพื่อทุกคนเพื่อประเทศชาติและประชาชนทุกคนและนี่เป็นสภา ตนก็ให้เกียรติสภา

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะกำชับ ส.ส.ให้มีการประชุมร่วมรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ อย่างไรหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องการปฏิรูปการศึกษา พลเอก ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้กำชับมาเสมอ และย้ำว่า กฎหมายสำคัญจะต้องทำให้เสร็จในสมัยเรา และตนได้พูดในหน้าที่ฝ่ายบริหาร ส่วนต่อไปนี้เป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติที่จะต้องช่วยกัน เพราะกฎหมายบางตัวสำคัญถ้าไม่ออกในเวลานี้ ก็ทำให้หลายอย่างล่าช้าเกิดผลกระทบหลายอย่างด้วยกัน ซึ่งทุกคนทราบดีคงไม่ต้องเอ่ยชื่อว่ากฎหมายอะไรบ้าง ทั้งเรื่องประมง, การศึกษา และกฎหมายกัญชา เพื่อให้ทุกอย่างปลอดภัย ถ้ากฎหมายไม่เรียบร้อยก็ทำอะไรไม่ได้และทำให้การแก้ปัญหาเป็นไปได้ยาก ซึ่งจะมีผลกระทบต่อประชาชนโดยรวม

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯให้คะแนนฝ่ายค้านในการอภิปรายครั้งนี้อย่างไร เท่าไหร่ พลเอก ประยุทธ์ กล่าวว่า คงไม่สามารถที่จะกำหนดให้ได้ เพราะไม่ได้ตั้งเกณฑ์ตรงนี้ไว้ แม้ตัวเองก็ไม่ได้ให้คะแนนตัวเอง ก็สุดแล้วแต่

ประชาชนที่ฟังอยู่ทางบ้าน แม้กระทั่งสื่อต่างๆ ก็ต้องดูแล้วกันให้ความเป็นธรรมทุกคนนั่นแหละ และเข้าใจทุกคนอาจมีความปรารถนาดี แต่อาจมีความเข้าใจที่ไม่ตรงกันหลายเรื่อง ซึ่งก็ต้องทำความเข้าใจระหว่างกันให้ได้ เพื่อให้เดินหน้าประเทศได้ในวันข้างหน้าเราเริ่มกันมาเยอะใช้เวลามานานพอสมควรในการเริ่มต้นมาหลายอย่างสำเร็จหลายอย่างกำลังต้องทำ และหลายอย่างต้องแก้ไขปรับปรุง ทุกวันสถานการณ์เปลี่ยนตลอด คนที่เขารอความหวังจากเรา 60 กว่าล้านคน ถ้าเราไม่ทำอะไรประเทศชาติก็เดินหน้าไม่ได้

เมื่อถามว่า หลังจากนี้ นายกฯจะเดินหน้าลงพื้นที่ใช่หรือไม่ พลเอก ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องทำตามหน้าที่ของเรา เราก็ยังคงเป็นนายกฯอยู่ แม้เลือกตั้งแล้วก็ยังคงเป็นนายกฯรักษาการอยู่ดี ก็ต้องใช้เวลาในช่วงนี้ทำงานเหมือนเดิมเพียงแต่หลายอย่างทำได้ไม่ได้ต้องดูกฎหมายอีกครั้ง เพราะงานมันหยุดไม่ได้อยู่แล้ว ประเทศชาติว่างเว้นการบริหารไม่ได้

เมื่อถามว่า การลงพื้นที่จะเข้มข้นกว่าเดิมหรือไม่ พลเอก ประยุทธ์ กล่าวว่า จะใช้คำว่าเข้มข้นหรือ ถ้ามองว่า นายกฯไปหาเสียงทุกครั้งก็ไม่คงไม่ใช่ เพราะนายกฯก็ทำงานแบบนี้มาโดยตลอด การไปเยี่ยมไปติดตามอย่ามองว่าเป็นการไปหาเสียงเลย แต่การไปหาเสียงมันคงต้องมี ทั้งนี้ คงไม่ได้เยอะมากมายอะไร ตนคิดว่าวันนี้สิ่งที่ทำ เหมือนกับประชาชนได้รับรู้รับทราบมาตลอด ไม่เคยปิดบังใคร ดังนั้น การหาเสียงก็คือการหาเสียง สิ่งสำคัญที่สุดอยากให้ทุกคนมองด้วยสายตามองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เกิดมาแล้วแค่ไหนและควรไปต่อได้อย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนจะตัดสินเอง การหาเสียงบางทีพูดไปทำไม่ได้ก็ลำบาก เราต้องเราต้องพยายามทำให้การหาเสียงเป็นไปได้กับนโยบายที่พูดไป และต้องใช้งบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัดให้ได้ และทำให้คนได้ประโยชน์ไม่น้อยกว่าเดิมเข้าใจหรือไม่ ถ้าพูดเรื่องใหม่ๆ จะให้นู่นให้นี่ใหม่ทั้งหมดแล้วของเก่าจะเอาเงินที่ไหน เพราะทุกคนก็ได้รับการดูแลมาทุกช่วงวัย หลายคนบอกปรับตรงโน้นมาใส่ตรงนี้ ตนว่า นั่นคือ อันตรายในเรื่องการใช้งบประมาณ ความทั่วถึงจะไม่ทั่วถึงเหมือนเดิม เพราะวันนี้มีหลายอย่างที่ประชาชนได้รับไปแล้ว ต้องแยกแยะให้ออกว่าอะไรคืองานโครงสร้าง งานที่ต้องช่วยเหลือประชาชน ตนเคยพูดไว้แล้ว2 อย่างที่รัฐบาลต้องทำ คือ เรื่องความเท่าเทียมทางโอกาสที่จะสามารถใช้ประโยชน์จากสาธารณูปโภคพื้นฐานดิจิทัลออนไลน์ให้ทุกคนเข้าถึง เพื่อเพิ่มอาชีพ เพิ่มรายได้ และความเท่าเทียมในเรื่องกฎหมาย เพราะอยู่ภายใต้กฎหมายอันเดียวกันทุกคนถ้ามีความผิดก็ไปต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม นั่นคือ ความเท่าเทียม ในส่วนของความเป็นธรรมเรามีการดูแลผู้มีรายได้น้อยมามากแล้ว สาธารณสุขเราก็ดูแลได้ดีกว่าหลายประเทศได้รับความชื่นชมและอีกหลายเรื่อง

นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ในเรื่องต่างๆ เราก็ไม่ตกเทรนด์ของโลกในตอนนี้ ต่างประเทศมองเราว่าเป็นประเทศที่มีโอกาสสำหรับเขาพุ่งเป้ามาที่ประเทศเรา

ถ้าเราเตรียมความพร้อมประเทศได้รวดเร็ว ซึ่งบางทีก็อยากติดกติกาหลายอย่าง และความคิดของเราค่อนข้างค่อนข้างห่วงวิตกกังวลเยอะทำให้บางอย่างล่าช้าซึ่งบางครั้งของเขาทำง่ายกว่าเราเยอะ ความขัดแย้งของเค้ามีไม่มากถ้าเรามองแต่ตัวเราเองก็จะเห็นปัญหาโน้นปัญหานี้จนตัดสินใจไม่ได้ถ้าเป็นแบบนั้นเค้าก็ไปหมดดังนั้นต้องหาทางบนพื้นฐานความเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน บนผลประโยชน์ที่เท่าเทียมกัน อะไรที่ไม่ดีไม่ถูกก็ค่อยแก้กันไป บ้านเมืองก็เป็นแบบนี้คน 60 กว่าล้านคนจะทำให้ทุกคนรักทุกคน หรือถูกใจทุกคนเป็นไปไม่ได้ แต่ทำอย่างไรให้เกิดความยุติธรรมทั่วถึงเป็นธรรมและอย่าลืมว่างบประมาณภาครัฐได้มาจากภาษีซึ่งเราไม่ได้รบกวนประชาชนอะไรตรงนี้ การจะให้ใครต้องมีกติกากฎเกณฑ์และดูว่าจะหาเงินมาเพิ่มอย่างไร

เมื่อถามว่า สิ้นเดือนนี้จะปิดสมัยประชุมสภาอยากจะฝากอะไรถึง ส.ส.รวมถึงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น พลเอก ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอฝากทุกคนปิดสภาแล้วเสียงทุกคนก็กลับบ้านไปหาเสียง ไปอะไรก็ว่ากันไป ขอให้ทุกคนปลอดภัยแล้วกันในการเดินทางหรือไปหาเสียงก็แล้วแต่ ขอฝากอยากให้ช่วยนำสิ่งดีๆ ไปพูดให้ประชาชนรับทราบด้วย สิ่งที่เราขาดอยู่อันนึง คือ การเข้าถึงบริการภาครัฐซึ่งเราก็ชี้แจงทางสื่อทางโซเชียลแถลงข่าวบ้างแต่บางทีก็ไม่ถึงประชาชน ฉะนั้น สิ่งดีๆ มีแล้วถ้าเราเป็นผู้แทนของประชาชนควรจะนำสิ่งเหล่านี้ไปขยายให้เขาทราบว่าให้ทราบว่ามีอะไรได้อะไร บางทีไม่เข้าใจกันก็คิดว่าก็คิดว่าเค้าไม่ได้อะไรเลยหน้าที่มี 2 อย่าง คือ ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายค้าน ตนก็เข้าใจก็ต้องทำหน้าที่ค้านแต่อะไรที่เป็น ประโยชน์ก็ต้องพูดบ้าง ตน คิดว่าต้องเปลี่ยนวิธีใหม่ในการสัมผัสประชาชน ผมไม่ตำหนิใครแต่เราต้องปรับตัวเราเองให้มากที่สุด รับกับโลกภายนอก

เมื่อถามว่า หากมีการเชิญไปดีเบตพร้อมหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ไม่รู้ต้องดูโอกาสและความเหมาะสมแล้วกัน แต่ยังไม่ได้สนใจ วันนี้ตนคิดว่าการดีเบตคือเรื่องของการดีเบต ตนก็พูดแบบของตนอยู่แล้วและก็พูดทุกวันอยู่แล้ว ผลงานก็พูดมาเยอะ

เมื่อถามย้ำ ว่า ดูเหมือนการอภิปรายรอบนี้นายกฯใจเย็นขึ้น พลเอกประยุทธ์ ตอบว่าก็ทำใจได้บ้างแล้วล่ะ ส่วนมีการมองว่าเป็นการเตรียมตัวที่จะเป็นนักการเมืองจึงต้องปรับสไตล์ พลเอก ประยุทธ์ กล่าวว่า จะสไตล์ไหน ก็เป็นสไตล์ฉันนี่แหละ

นายกฯ คิดว่า นักการเมืองควรจะทำการเมืองแบบสร้างสรรค์มากขึ้นหรือไม่ พลเอก ประยุทธ์ กล่าวว่า นั่นแหละคือสิ่งที่สำคัญสำหรับประเทศไทย

เมื่อถามว่า วางวันจะยุบสภาในช่วงไหน พลเอก ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็คงกำหนดไว้ในใจบ้างแล้วล่ะ เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่า นายกฯมีวันในใจไว้แล้วใช่หรือไม่ พลเอก ประยุทธ์ ระบุว่า ก็ต้องคิดไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว ส่วนจะเป็นสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคมหรือไม่นั้น นายกฯ ย้ำว่า ก็กำหนดไว้ในใจ ก็ต้องตัดสินใจอีกครั้ง ทุกอย่างก็ต้องมีการวางแผนเอาไว้ล่วงหน้าของเราไว้บ้างอยู่แล้วล่ะ เมื่อทุกคนทุกพรรคมีความพร้อมก็ว่าไป ในส่วนของพรรค รทสช. ก็พร้อมอยู่แล้วแหละ แต่เพียงยังไม่เปิดตัวเท่านั้นเอง ก็พร้อมอยู่แล้วล่ะ แต่เค้ายังไม่ได้ออกมาพูดอะไรมากนัก ว่าผมถ่วงเวลาเพื่อให้พรรคที่ผมสังกัดเขาพร้อม เค้าก็ต้องพร้อมของเค้าสิ ก็รู้อยู่แล้วว่าต้องทำอะไรเมื่อไหร่

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากให้นายกฯพูดหนึ่งประโยคเพื่อจะนำไปสู่การเลือกตั้งครั้งหน้าอยากพูดอะไร นายกฯ กล่าวว่า อยากให้เป็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์และเป็นการเลือกตั้งที่สร้างสรรค์และให้ทุกคนมองว่าประเทศชาติและประชาชนสำคัญที่สุดสำหรับทุกคนที่จะช่วยกันทำให้บ้านนี้เมืองนี้ เดินไปข้างหน้าได้เพื่ออนาคตลูกหลานของท่าน

เมื่อถามว่า นายกฯ พร้อมรับทุกสถานการณ์หรือไม่ พลเอก ประยุทธ์ ตอบว่า ก็ต้องพร้อมอยู่แล้วล่ะจ้ะ
โดยนายกฯ ได้ทำมือเป็นสัญลักษณ์ Y2K ก่อนเดินทางกลับ พร้อมกล่าวว่า กู๊ดไนต์


กำลังโหลดความคิดเห็น