นายกฯ ไม่ทน ลุกเบรกฝ่ายค้านกลางสภา ฉะใช้เวทีอภิปรายหวังตีกินหาเสียง บอกรับไม่ได้ลากญาติโยงทุจริต ไล่ไปตรวจสอบตามกฎหมาย ยันไม่เคยเอื้อประโยชน์ สอนฝ่ายนิติบัญญัติ อย่าก้าวล่วงอำนาจฝ่ายบริหาร ต้องมีมารยาทในการพูด
วันนี้ (15 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.55 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลุกขึ้นชี้แจงการอภิปรายของฝ่ายค้าน ที่นั่งฟังมานานประมาณ 6 ชั่วโมง โดยกล่าวว่า มีหลายท่านที่แสดงความคิดเห็น ซึ่งมีให้ทั้งคำแนะนำและกล่าวหา ติเตือนตักเตือนหลายอย่าง จึงอยากเรียนว่า สิ่งที่ท่านพูดมาทั้งหมด โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจได้ทำมาหมดแล้ว แต่มันยังไม่เกิดผล ท่านก็เอามาตีกินอยู่ตรงนี้ สิ่งที่ทำพูดมาทั้งหมดเวลารัฐบาลพูดก็ไม่ฟัง กระทรวงการคลังชี้แจงหน่วยราชการชี้แจงท่านก็ไม่ฟัง สิ่งไหนที่เป็นนโยบายของท่านเป็นรัฐบาลก็ทำไปเถอะ หากท่านได้เป็นนะ ในส่วนของการดูแลประชาชน พี่น้องทุกภาคส่วนนั้น เราทำตั้งแต่ระดับฐานราก เอสเอ็มอี วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์กองทุนหมู่บ้าน ดูแลประชาชนผู้มีรายได้น้อย ด้วยการแก้ปัญหาความยากจน แบบมุ่งเป้า ท่านลองไปศึกษาดูก็แล้วกัน ถ้ามันง่ายสิ่งที่พูดมาก็คงทำไปได้งานแล้ว สมัยก่อนท่านก็ทำไม่ได้
“ส่วนเรื่องการทุจริตผิดกฎหมาย ในทางกระบวนการยุติธรรมก็ไปว่ามา การที่ท่านเอาผมไปโยงคนนั้นคนนี้ หรือญาติคนนั้นญาติคนนี้ ผมคือตัวผม ครอบครัวผม และผมไม่เคยเอื้อประโยชน์ให้กับใคร ก็ไปตรวจสอบมา เวลาสมัยก่อนผมเห็นไม่พูดเก่งแบบนี้เลย สมัยท่านเป็นรัฐบาลกัน เรื่องการทุจริตไม่เห็นมีการพูดกันสักคำ ต่อไปนี้ผมจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจง ผมไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศ เราเพิ่งผ่านห้วงเวลาวันวาเลนไทน์มา ฉะนั้น ไม่อยากทำให้เสียอารมณ์ ผมก็นั่งฟังมาตั้งแต่เช้าแล้ว เรื่องที่ดีผมก็รับไว้ และจดไว้ หลายเรื่องที่มันไม่ตรงไม่ถูกต้อง ก็ต้องให้ฝ่ายผมชี้แจงบ้าง ซึ่งรัฐบาลก็จะชี้แจง ในส่วนราชการได้เตรียมไว้หมดแล้ว แต่ละเรื่องและเรื่องที่สำคัญผมก็เตรียมไว้ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะชี้แจง แต่จำเป็นต้องหยุดตรงนี้ไว้บ้าง ไม่งั้นท่านก็ฉวยโอกาสตรงนี้ในการหาเสียงของท่าน นั่นแหละผมพยายามไม่ไปแตะต้องกับท่านเลย ฉะนั้น ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามมารยาท กติกาของสภา ซึ่งเราต้องมีมารยาทในการที่จะพูดจาอะไรต่อกัน หลายอย่างเป็นปัญหาในเชิงบริหาร และหลายอย่างเป็นปัญหาในเชิงกฎหมาย ทุกอย่างมีหลักการหลักเกณฑ์ทั้งหมด ฉะนั้น ไปตรวจสอบมา เพื่อให้เกิดความชัดเจน ก่อนที่จะกล่าวอ้างว่าใครผิดใครถูก ไปว่ากันมา จนผลการสอบสวนออกมา ผมไม่เคยปล่อยปละละเว้น ถ้ายังไม่เกิด ก็ทำให้เกิดการสอบสวน โดยต้องมีคนร้องทุกข์กล่าวโทษ ก็ว่าไปสิครับ กฎหมายเขามีแบบนี้ การที่มาพูดในนี้ แล้วทำให้คนข้างนอกได้ยินก็กลายเป็นว่า ไอ้คนนี้ผิดไปแล้ว หรือไอ้คนนั้นถูกไปแล้ว มันไม่ใช่ละมั้ง ผมว่า เคารพกระบวนการยุติธรรมด้วย และผมไม่อยากให้อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ ก้าวล่วงอำนาจในการบริหารมากจนเกินไป คนละอำนาจกัน หน้าที่ของแต่ละคนผมไม่ว่า จะค้านอย่างไรผมไม่ว่า แต่บางอย่างเป็นเรื่องของการบริหาร ราชการแผ่นดินก็เป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร ไม่ดีก็ร้องทุกข์กล่าวโทษเอา ไม่ใช่มาติติงพูดจาเสียหายแบบนี้ บางอย่างผมรับไม่ได้” นายกฯ กล่าว