xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” อัด พท.กล้าพูดคอร์รัปชัน ทั้งที่ รมต.ติดคุก-หนี ตปท.เพียบ ไล่ดู “ตู้ห่าว” เข้ามายุคไหนเมียโยงใคร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายกฯ กรีดเพื่อไทย กลางสภา หลังอภิปรายปม จีนเทาตู้ห่าว ชี้ เข้ามาตั้งแต่ปี 54 สมัยรัฐบาลใด เมียโยง รมต.สมัยไหน ไปดูด้วย ซัดกล้าพูดเรื่องคอร์รัปชัน ทั้งที่รัฐมนตรีหลายคนติดคุก หนีคดีไปต่างประเทศ

วันนี้ (16 ก.พ.) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงภายหลัง นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.ก้าวไกล ว่า คดีตู้ห่าวที่พูดกันมาหลายคน ขอให้ย้อนกลับไปดูว่า พฤติกรรมเหล่านี้เกิดขึ้นนานพอสมควร เกิดมาก่อนปี 2557 โดยตู้ห่าวเข้ามาไทยตั้งแต่ปี 2554 มีการอนุมัติอนุญาตเรื่องสัญชาติต่างๆ ตั้งแต่ปี 2554 กระบวนการเรื่องสัญชาติก็ดำเนินการมาเรื่อยจนถึงรัฐบาลปัจจุบัน ในเมื่อท่านเสนอมาและตรวจสอบแล้วถูกต้องก็เป็นการอนุมัติตามขั้นตอนของกฎหมาย และพฤติกรรม ขอให้ไปย้อนดูด้วย วันนี้มีการฟ้องร้องและให้ข้อมูลจากภาคประชาชนและตนก็สั่งให้สืบสวนสอบสวน ไม่อยากจะโทษใคร อาจจะถูกปล่อยปละละเลยมานานแล้ว เงินเหล่านี้ขอย้อนกลับไปให้สอบสวนว่ามีการดำเนินการมาอย่างไร เมื่อไหร่ ตนได้ทราบว่า มีการนำไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ยกหมู่บ้านและก็ไม่ทราบว่าเป็นบริษัทของใคร ยกหมู่บ้านหลายหมู่บ้านด้วยกัน นายกฯ ยืนยัน รัฐบาลนี้ไม่มีแน่นอนในการขายบ้าน และแถมสัญชาติให้ ไม่มี ท่านไปเช็กดีๆ ว่า ภรรยาของตู้ห่าว มีความเกี่ยวข้องกับอดีตรัฐมนตรีสมัยบางพรรคก็แล้วกัน ไปดูข้อมูลข้อเท็จจริงด้วย โดยระหว่างที่นายกฯ ชี้แจงถึงประเด็นนี้ได้มีการขึ้นสไลด์มีระบุข้อความว่า “รัฐบาลนี้ไม่มีขายบ้านแถมสัญชาติ” ประกอบการชี้แจงด้วย

“ผมยืนยันแต่ต้น คุณชูวิทย์ ก็ได้มาเจอผม และผมก็ได้รับฟังท่าน พร้อมกับส่งข้อมูลให้กับตำรวจทันที หลักนิติธรรมก็ต้องมี ผมทำถูกต้อง แต่อาจไม่ถูกใจ ไม่ทันใจทุกคน การดำเนินการบางอย่างอยู่ในขั้นตอนบางอย่างเปิดเผยได้บางอย่างเปิดเผยไม่ได้เพราะอยู่ในขั้นตอนกระบวนการสอบสวน”

ส่วนประเด็นการออกหมายเรียก ส.ว.อุปกิต ปาจรียางกูร ของพนักงานสอบสวนกองบัญชาการ บช.ปส. กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดจับกุมผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันและสามารถขยายผลดำเนินคดีได้หลายราย บางรายก็หลบหนีไปพนักงานสอบสวนจึงออกหมายจับและติดตามจับกุมกลับมาได้บางรายที่หลบหนีอยู่ก็ยังสืบสวนเพื่อตามจับกุมตัวให้ได้ และที่สมาชิกได้อภิปรายว่า ส.ว.คนดังกล่าวเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง พัวพันนั้น ตำรวจก็เข้าไปสืบสวนสอบสวนตามอำนาจกฎหมาย ป.วิอาญา

ส่วนการเพิกถอนหมายจับนั้น ก็เป็นดุลพินิจของฝ่ายตุลาการ ซึ่งมีความเห็นให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกก่อน เรื่องนี้ตนไม่ขอเข้าไปก้าวก่าย ไม่ได้ช่วยเหลือใคร นี่คือ กระบวนการทางกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมเป็นแบบนี้ ความเห็นนี้เนื่องจากที่พูดแบบนี้ เนื่องจากไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของฝ่ายบริหาร เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม เริ่มต้นจากตำรวจ อัยการ ศาล และเรื่องนี้เป็นความผิดนอกราชอาณาจักรที่พนักงานสอบสวนต้องร่วมกันทำการสอบสวนกับพนักงานอัยการที่อัยการสูงสุด มอบหมายตามกฎหมาย ซึ่งตนได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับด้านกฎหมายเข้ามาสอบสวนด้วยกันและสั่งใครไม่ได้อยู่แล้ว เป็นเรื่องของกระบวนการบูรณาการบริหารจัดการคดีนี้ให้สิ้นสุดโดยเร็ว จำเป็นต้องมีการสอบสวนหาพยานหลักฐานให้รัดกุมรอบคอบก่อน หากพบว่ามีใครเกี่ยวข้องมากขึ้นอีกก็จะออกหมายเรียกซึ่งเป็นดุลพินิจและการปฎิบัติของพนักงานสอบสวนตามกฏหมายป.วิอาญา ซึ่งคดียังอยู่ระหว่างการสอบสวนและยังอยู่ภายในอายุความถ้าออกหมายเรียกเมื่อไหร่ภายใน 15 วัน ไม่มาพบพนักงานสอบสวนก็มีเหตุที่จะออกหมายจับ เพราะฉะนั้นไม่มีใครไปเอื้อประโยชน์หรือไปช่วยเหลืออย่างไรได้ เพราะเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย

นายกรัฐมนตรี ชี้แจงประเด็นกลุ่มทุนจีนสีเทาที่เปิดผับจินหลิง เรื่องนี้ตำรวจนครบาลได้สืบสวนจับกุมและได้ผู้ต้องหามาหลาย 10 ราย บางก็หลบหนีและออกหมายจับอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายส่วนที่พูดว่ามีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องพัวพันเป็นผู้บังคับบัญชาก็มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนและให้ออกราชการไว้ก่อนไปแล้วรายใดที่มีความผิดอาญาด้วยก็ให้ดำเนินคดีไปตามกฏหมาย ส่วนที่กล่าวหาว่าไปย้ายตำรวจคนขยันเรื่องนี้ เป็นเรื่องของการแต่งตั้งโยกย้าย ซึ่งอยู่ภายในอำนาจของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้พิจารณาไปตามกฎเกณฑ์และหลักเกณฑ์ระเบียบต่างๆ ไปแล้ว

ส่วนประเด็น นายหยู่ซินฉี ตั้งสมาคมปลอมเพื่อช่วยทำวีซ่านำคนจีนสีเทาเข้าประเทศในช่วงปี 2563-2564 เป็นจำนวน 7,000 คน โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม.ช่วยเหลือ วันนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานได้ชี้แจงข้อมูลความคืบหน้าให้ทางสื่อมวลชนทราบเป็นระยะแล้ว จะเห็นว่า ตำรวจพยายามดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา หากพบเจ้าหน้าที่ผู้ใดร่วมกันกระทำความผิดก็ต้องดำเนินการทั้งวินัยและอาญา ไม่มีการยกเว้น รวมถึงคนไทยหลายคนที่อาจไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยที่รับผลประโยชน์

นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า เรื่องนี้ตน ใช่ยืนยันเสมอมาว่าจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องเหล่านี้เป็นเด็ดขาด เพราะทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน

ส่วนที่พาดพิงเรื่องการคอร์รัปชันต่างๆ ไม่อยากจะย้อนกลับไป หลายคนก็กล้าพูดออกมาเพื่อรักษาอำนาจ ทั้งที่อดีตรัฐมนตรีหลายคน ก็มีปัญหาเรื่องคอร์รัปชันติดคุกไปหลายคน บางคนก็ไปต่างประเทศก็มี แต่ตั้งแต่รัฐบาลปี 2557 ของตนยังไม่มีรัฐมนตรีคนใดติดคุกสักรายเลย นี่คือ ข้อเท็จจริง

นายกรัฐมนตรี ขึ้นข้อความสไลด์ประกอบการชี้แจงว่า “พรรคเพื่อไทยเรื่องคอร์รัปชั่นยังกล้าพูดเหรอ รัฐบาลหลายคนก็มีปัญหาเรื่องคอร์รัปชันมีรัฐมนตรีติดคุกตั้งหลายคน บางคนไปต่างประเทศ ตั้งแต่มีรัฐบาลปี 2557 ยังไม่มีรัฐมนตรีท่านไหนติดคุกสักราย”








กำลังโหลดความคิดเห็น