“วัชระ” บุกสภา ยื่นค้าน “เนตร นาคสุข” สมัคร กก.ป.ป.ช. เหตุจริยธรรมคาใจสังคม มีประวัติสีเทาจากปมไม่อุทธรณ์คดีโอ๊คฟอกเงินแบงก์กรุงไทย
วันนี้ (16 ก.พ.) เวลา 10.40 น. ที่อาคารรัฐสภา นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.สุทธิศักดิ์ ประศาสน์ครุการ และ นายกฤษฎ์ มนาปี ทนายความ ยื่นหนังสือผ่านงานสารบรรณ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ถึงนายโชติวัฒน์ เหลืองประเสริฐ (ประธานศาลฎีกา ประธานกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปรามปราบการทุจริตแห่งชาติ) และกรรมการสรรหาทุกคน แจ้งขอคัดค้าน นายเนตร นาคสุข เข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการป้องกันและปรามปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตามประกาศคณะกรรมการสรรหา เรื่อง การรับสมัครบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการ ป.ป.ช.ใหม่ (แทน พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง กรรมการ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่งเก้าปี) โดยนายเนตรได้สมัครคุณสมบัติตามมาตรา 9 วรรคสอง (1)
นายวัชระ กล่าวว่า เหตุที่ต้องคัดค้านนายเนตร เข้าทำหน้าที่เป็นกรรมการ ป.ป.ช. เนื่องจากมีพฤติกรรมทางจริยธรรมที่ต้องสงสัยของสังคมและประชาชนเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ราชการที่ผ่านมา ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตและการบังคับใช้กฎหมายในการสั่งไม่อุทธรณ์คดี นายพานทองแท้ ชินวัตร ฟอกเงินธนาคารกรุงไทย ว่า ใช้หลักนิติธรรมใดเมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รองอัยการสูงสุดปฏิบัติราชการแทนอัยการสูงสุด (นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด ขณะนั้น) เนื่องจากมีพยานหลักฐานเป็นเอกสารของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในขณะนั้นที่ส่งให้กับพนักงานสอบสวนโดยพยานบุคคล ระบุว่า มีพยานเอกสารที่เชื่อมโยงความผิดในคดีฟอกเงินถึงบัญชีเงินฝากของนายพานทองแท้ ด้วยใช่หรือไม่ ซึ่งต่อมาคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) มีมติให้ นายเนตร ออกจากราชการตาม พ.ร.บ.ข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 มาตรา 85 และมาตรา 87 ความผิดกรณีสั่งไม่ฟ้องคดีโด่งดังของประเทศ และเมื่อปี 2563 นายเนตรถูกยื่นร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบกับสำนักงาน ป.ป.ช.
ดังนั้น เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน จึงขอคัดค้านการสรรหาเลือกนายเนตรเป็นกรรมการ ป.ป.ช.ด้วยเหตุดังกล่าว จึงขอให้ประธานและกรรมการสรรหา ป.ป.ช.ทุกคนได้ทราบและพิจารณาถึงความเหมาะสมต่อไป