ตำรวจคุมตัว “เบนซ์ เดม่อน” ฝากขังศาลอาญา-ค้านประกัน คดีเว็บพนันมาเก๊า 888 ชี้ คดีมีโทษสูง ทำเป็นเครือข่าย พบเส้นทางการเงินถ่ายโอนทรัพย์สิน ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขัง ภายหลังญาติยื่นหลักทรัพย์ 12 ล้าน แต่ไม่ได้ประกัน ส่งตัวเข้าเรือนจำ
วันนี้ (15 ก.พ.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 คุมตัว นายชัยวัฒน์ ขจรบุญถาวร หรือ “เบนซ์ เดม่อน” ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันจัดให้เล่นการพนัน และร่วมกันฟอกเงิน จากคดีเว็บไซต์พนันออไลน์ มาเก๊า 888 ไปยื่นคำร้องฝากขังครั้งเเรกต่อศาลอาญาเป็นเวลา 12 วัน ในความผิดฐาน ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศการโฆษณา หรือ โดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ร่วมกันฟอกเงิน
โดยคำร้องระบุพฤติการณ์ว่า พ.ต.ต.กิตติศักดิ์ สุขไทย ผู้กล่าวหาที่ 1 เป็นเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยี สารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการสืบสวนเว็บไซต์การพนันออนไลน์ www.huaysodplus.com ซึ่งมีการร้องเรียนอยู่ในสื่อสังคมออนไลน์ พบเป็นเว็บไซต์การพนันออนไลน์ที่มีการชักชวนเล่น การพนันในรูปแบบต่างๆ เช่น บาคาร่า สลอต ลอตเตอรี่ หวย ฯลฯ จึงได้ให้สายลับขอปกปิดนาม (เพื่อหวังเงินรางวัลนำจับ) ทำการสมัครเป็นสมาชิกทำการโอนเงินและร่วมเล่นการพนันสมัครเป็นสมาชิกทำการโอนเงินและร่วมเล่นการพนัน ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 24 ม.ค.เวลา 14.45 น. สายลับได้ทำการสมัครสมาชิกและโอนเงินเข้าไปร่วมเล่นการพนันกับทาง เว็บไซต์ www.huaysodplus.com ตามที่โฆษณาชักชวน เมื่อสายลับกดลิงก์ดังกล่าว ได้ให้สายลับ กรอกหมายเลขโทรศัพท์ เมื่อสายลับกรอกหมายเลขโทรศัพท์ ระบบได้ส่ง หมายเลข OTP ยืนยัน มายังหมายเลขโทรศัพท์ของสายลับ และให้สายลับ ตั้งรหัสในการเข้าเล่น และให้กรอกข้อมูลหมายเลขบัญชี และชื่อบัญชี ในการโอนเครดิตเข้าเล่น สายลับได้เข้าเล่นการพนันผ่านช่องทางเข้าเล่น https://play.buaysodplus.com/ โดยใช้ ยูสเซอร์จากนั้นระบบส่งเลขบัญชีฝากเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ชื่อบัญชี อดิศักดิ์ สายลับได้โอนเงินจำนวน 500 บาทจากบัญชีธนาคารกสิกรไทยของสายลับเข้าสู่บัญชีฝากเงิน เพื่อเติมเครดิตเข้าเล่น เมื่อเครดิตเข้าสู่ระบบแล้ว สายลับได้ทำการเข้าเล่น ภาพนันประเภท บาคาร่า ต่อมา เมื่อวันที่ 24 ม.ค. เวลา 15.10 น. สายลับได้ทำการแจ้งระบบทำการถอนเครดิตเป็นจำนวนเงิน 300 บาท เวลา 15.15 น. มีเงินจำนวน 300 บาท จากบัญชี ธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อ น.ส.นันทวรรณ โอนเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย ของสายลับ จากนั้นได้โอนเงินและเข้าร่วมเล่นการพนันครั้งที่ 2เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 66 เวลา 08.46 น. ได้ทำการล็อกอินเข้าไปในระบบอีกครั้ง โดยใช้ ยูสเซอร์ เพื่อทำการโอนเงินและร่วมเล่น การพนัน โดยระบบได้แจ้งให้โอนเงินเข้าเล่นการพนัน ผ่านบัญชี ธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี พชรพร โดยสายลับได้โอนเงินจำนวน 300 บาทจากบัญชี ธนาคารกสิกรไทย บัญชีของสายลับ เข้าเล่นการพนัน ประเภทบาคาร่า
จากนั้น เมื่อวันที่ 24 เเละ 27 ม.ค.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกพยาน เอกสาร ถึงกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), ผู้จัดการธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), ผู้จัดการ ใหญ่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ผู้จัดการธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดการธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และผู้จัดการใหญ่ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ขอความเคลื่อนไหวทางบัญชีที่เกี่ยวข้อง และได้ทำการ วิเคราะห์การทำธุรกรรมทั้งหมดของบัญชีที่เกี่ยวข้อง
จากแนวทางการสืบสวนดังกล่าวได้พบการกระทำความผิดเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งเป็นการกระทำผิดเกี่ยวกับการพนันผ่านสื่อ อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งนายชัยวัฒน์ ขจรบุญถาวร ผู้ต้องหานี้ ได้ร่วมกันกับพวกรวม 13 คน ชักชวนให้ลูกค้าซึ่งเป็นประชาชน ทั่วไปเข้าร่วมเล่นการพนันผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ออนไลน์) บาคาร่า รวมถึงสายลับด้วย และยังพบว่าผู้ต้องหากับพวกรวม 13 ราย มีการโอน รับโอนทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด อันได้แก่ เงินหมุนเวียนในบัญชีที่ได้มาจากการชักชวนให้ บุคคลทั่วไปเข้ามาร่วมเล่นการพนันผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยผู้ต้องหากับพวก รวม 13 รายนี้ มีการถ่ายโอนทรัพย์สิน ระหว่างกันอย่างชัดเจนจึงได้ทำรายการสืบสวนเสนอผู้บังคับบัญชา และ ผู้บังคับบัญชาได้มอบหมายให้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับ นายชัยวัฒน์ ขจรบุญถาวร กับพวกรวม 13 คน ตามกฎหมายจนกว่าคดีที่สุด
พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหานี้ และศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับ ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ก.พ.66 เวลาประมาณ 21.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุม นายชัยวัฒน์ผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวข้างต้นได้ที่บริเวณประตูทางออกผู้โดยสารขาเข้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงได้ควบคุมตัว ผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 ดำเนินคดี ตามกฎหมาย
การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐาน “ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศการโฆษณา หรือ ชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ร่วมกันฟอกเงิน” อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 4ทวิ, 5, 6, 12(2) ประกอบประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 83 และพรบ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 มาตรา 3(9), มาตรา 5(1) (2) (3), 9วรรคสอง, 60 ต้องสอบปากคำพยานอีก10ปาก พร้อมรอผลพิมพ์รายนิ้วมือประวัติผู้ต้องหา จึงขออนุญาตศาลฝากขัง
ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงประกอบกับลักษณะการกระทำความผิดของผู้ต้องหามีลักษณะเป็นเครือข่าย หากผู้ต้องหาได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวไป เกรงว่าจะหลบหนีและยากแก่การติดตามตัวมาดำเนินคดีในภายหลัง
ศาลพิจารณาเเล้วอนุญาตฝากขังได้
ภายหลัง ญาติของนายชัยวัฒน์ ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์ เป็นโฉนดที่ดิน มูลค่ากว่า 12 ล้านบาท ขอปล่อยชั่วคราว
ศาลอาญาพิเคราะห์แล้ว คดีอัตราโทษอย่างสูงตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ถือว่าข้อหาหนัก พฤติการณ์เป็นขบวนการก่อความเสียหายแก่สังคมร้ายแรง ขัดต่อศีลธรรม พยานหลักฐานปรากฏเส้นทางการเงินจากพนันเข้าบัญชีของผู้ต้องหาจำนวนหลายล้านบาท โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านประกัน ทำให้น่าเชื่อว่าอาจหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานระหว่างสอบสวนได้ กรณีไม่สมควรให้ประกัน ให้ยกคำร้อง
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงพาตัวผู้ต้องหาไปคุมขังไว้ยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ