นายกฯ ลุกแจงสภาช่วงเย็น บอกขอตอบอะไรที่เป็นสาระ เหน็บย้อนดูตัวเองบ้าง บอก ตร.- ทหาร แย่ รบ.ไม่มีผลงาน “ผมน้อยใจเหมือนกัน” ถามพรรคหาเสียงโครงการเยอะไปหมด เอาเงินมาจากไหน ฉุนฝ่ายค้าน บอกกล่าวลอยๆ ไม่ได้ว่าใคร
วันนี้ (15 ก.พ.) เวลา 18.33 น. ที่อาคารรัฐสภา พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวชี้แจงในช่วงเย็น ว่า ข้อเสนอของฝ่ายค้านเป็นข้อเสนอที่รัฐบาลได้ทำมาอยู่แล้ว ทั้งในเรื่องของโรงไฟฟ้า ขอให้ไปดูในรายละเอียดอีกครั้ง ว่า กติกาว่าอย่างไร ทำไมตนจะไม่สนับสนุน ถ้ามันทำได้ทำไมจะไม่อยากให้มันเกิด ถ้ามันเกิดได้ มันดีอยู่แล้ว ตนขอตอบในเรื่องที่เป็นสาระ เพราะท่านพูดหลายเรื่องทั้งเรื่องปลูกต้นไม้ ไม่ได้ยินที่พูดหรือว่าให้ปลูกอย่างไร สิ่งที่ท่านพูด ตนทำหมดแล้ว แต่ท่านไม่เห็นเอง ทั้งนี้ ในเรื่องการปฏิรูปตำรวจ ยังมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องพัวพัน รับส่วย อบายมุข ยาเสพติด การแต่งตั้ง พนันออนไลน์ได้มีการปรับปรุงกฎหมายและระเบียบเกี่ยวกับการบริหารราชการบุคคลเกี่ยวกับการแต่งตั้งตำรวจ พ.ศ. 2565
นายกฯ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ท่านพูดมาทั้งหมดว่ายังมีคดีโน้นคดี นี้เป็นเรื่องของส่วนบุคคล และผู้บังคับบัญชาจะต้องกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดีที่สุด คนเรามีทั้งคนดี และคนไม่ดี ไม่ใช่ว่ามันเลวทั้งหมด ตำรวจ ทหาร ก็แย่ ก็ลองกลับมาย้อนดูตัวเองบ้างแล้วกัน ก็ขอให้เห็นใจบ้างแล้วกัน ตำรวจมีกำลังพล 2 แสนนาย ตำรวจดีๆ ยังมีอีกเยอะ ไม่เช่นนั้น บ้านเมืองอยู่ไม่ได้ ตำรวจคนไหนเข้าไปเกี่ยวข้องพัวพันก็แจ้งมาด้วยแล้วกัน ถ้ารายใดยังไม่ชัดเจน ตนเรียกมาสอบทุกราย หากมีการร้องทุกข์กล่าวโทษก็ดำเนินคดีอาญาไปทุกราย ฉะนั้น ตนจำเป็นต้องรักษาศักดิ์ศรีของตำรวจที่ดี ไม่ใช่ว่าไอ้นั่นไม่ดี ไอ้นี่ไม่ดี ไม่ใช่แล้ว ผิดไปทั้งหมด ติมันง่าย ให้กำลังใจเขาบ้างเป็นไหม
นายกฯ กล่าวถึงเรื่องน้ำท่วม ฝนแล้ง ตลอดหลายเวลา 10 ปีที่ผ่านมา แก้ปัญหาเรื่องขาดน้ำ และน้ำแล้งไปย้อนดู 8 ปีที่ผ่านมาทำอะไรไปบ้าง ท่านบอกน้ำยังท่วมอยู่ มันก็ต้องท่วมฝนมันตก ถ้าฝนไม่ตก น้ำก็ไม่ท่วม โดยมาถึงจุดนี้มี ส.ส.ในสภา ส่งเสียงหัวเราะ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “หัวเราะอะไร”
ก่อนนายกฯ กล่าวต่อว่า สมัยก่อนท่านทำน้ำท่วมเท่าไหร่และตนทำให้น้ำลดเท่าไหร่ รู้เรื่องหรือไม่ รายละเอียดติว่ารัฐบาลไม่แก้ปัญหา ตนว่าไม่เป็นธรรม ต้องพูดด้วยข้อเท็จจริง อย่าพูดด้วยความรู้สึกอย่างเดียว
นายกฯ กล่าวถึงกรณีบัญชีม้าได้มีการเห็นชอบร่างพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นกฎหมายสำคัญโลกมันเปลี่ยน เราก็ต้องปรับกฎหมายก็ต้องแก้ ฉะนั้น กฎหมายที่เราจำเป็นต้องออกเป็นพระราชกำหนด เพื่อต้องการให้ทันเวลา ไม่เช่นนั้น แก้ปัญหาไม่ได้ เพราะต้องขออำนาจศาลในการปิด ฉะนั้น วันนี้ เราจะต้องแก้ไขตรงนี้ และ 1 ปีที่ผ่านมา เราได้รับแจ้งความทั้งหมด 92,031 คดี และมีการติดตามบัญชี 65,872 บัญชี หากพระราชกำหนดออกมาก็จะปิดได้ทันที ส่วนเรื่องคิงส์เกต ตนชี้แจงมาหลายครั้งแล้ว แต่ก็อภิปรายซ้ำซากเหมือนเดิม
“ที่พูดมาอยากจะเรียนให้ทราบ ไม่ได้โอ้อวดหรือโม้อะไรให้ทุกคนเขาหมั่นไส้ มันไม่ดีตรงไหน หาที่ดีๆ ดูบ้าง จะได้ชื่นตา ชื่นใจ ไม่ดีก็แก้กันไป ท่านบอกว่าทำไมประเทศไทยด้อยกว่าประเทศนั้นประเทศนี้ แต่จะต้องจำไว้ก่อนว่า เขาปกครองด้วยระบอบอะไร เขามีอำนาจมากแค่ไหน ผมพยายามใช้อำนาจที่อยู่ในกรอบ แต่เขาทำได้หมด ทุกอย่างเขาไม่ได้มีหลายพรรคการเมืองมานั่งแบบนี้ เขามีพรรคเดียว ยังมีอีกเยอะผมจะส่งไปทางสื่อมวลชนให้เค้าช่วยทำความเข้าใจ เพราะหลายคนไม่เข้าใจและหลายคนบอกว่ารัฐบาลไม่ได้ทำอะไรเลย 8 ปีที่ผ่านมา ผมก็น้อยใจเหมือนกัน ไหนๆ ก็พูดแล้ว มีการเสนอโครงการเยอะไปหมด จะไปเลือกตั้งอะไรก็เชิญ แต่ตามกำหนดเวลาตามกฎหมาย ผมวิเคราะห์มาแล้วไม่ขอเอ่ย เช่น การเพิ่มอัตราเงินเดือน 25,000 บาท อบรมทักษะวิชาชีพ สร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง จะมีภาระงบประมาณเพิ่มขึ้น 516,522 ล้านบาท อีกนโยบายเรื่องการจ่ายบำนาญอายุ 60 ปีขึ้นไป คนละ 3,000 บาทต่อเดือน และผู้ป่วยติดเตียง 9,000 บาท เด็กและเยาวชนอายุ 7-22 ปี คนละ 800 บาท เป็นต้น ทำให้ภาระงบประมาณเพิ่มขึ้นใหม่ 791,340 ล้านบาท จะออกนโยบายอะไรจะต้องดูเม็ดเงินว่ามาจากไหน หามาที่ไหน หลายอันทำอยู่แล้ว แต่ก็จะขยายให้มันมากไป คนก็ชอบ แต่ท่านก็รับผิดชอบเอาเอง ถ้าหางบประมาณไม่ได้ เพราะมันผิดพระราชบัญญัติงบประมาณ ผมใช้เวลาไปเยอะพอสมควร เพราะทำเยอะเมื่อยพูด แต่จะให้โฆษกรัฐบาลออกมาชี้แจง ทางโซเชียลมีเดียให้ท่านเถียงมาแล้วกัน ท่านจะเสนอแต่ข้างหน้าว่าจะทำโน้น ทำนี่ แต่ทำไมไม่ทำก่อนหน้านี้ แล้วท่านก็มาเคลม ผมอยู่ตรงนี้ ย้ำว่า ผมไม่ได้กล่าวถึงใคร กล่าวลอยๆ พูดเฉยๆ ก็ดูเอาแล้วกัน”น ายกฯ กล่าวด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว