MGR Online - ผบ.ตร.กำชับทุกหน่วยตั้งด่าน จุดตรวจ จุดสกัด ต้องปฏิบัติตามกฎเหล็ก ตำรวจแต่งเครื่องแบบ มี Bodycam บันทึกข้อมูลด่าน ใช้วาจาสุภาพ แม่นกฎหมาย นำหลักรัฐศาสตร์มาช่วยในการตรวจตรานักท่องเที่ยวเพื่อสร้างภาพลักษณ์บรรยากาศการท่องเที่ยวที่ดี พร้อมสั่งคุมอบายมุขทุกประเภท ห้ามปล่อยปละละเลย คาดโทษเอาผิดหากพบฝ่าฝืน
วันนี้ (6 ก.พ.) เวลา 13.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วย ผู้ช่วย ผบ.ตร. ประชุมทางไกลผ่านระบบออนไลน์ ร่วมกับ ผบช. ผบก.รอง ผบก. และ หน.สถานี หน่วยต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อกำชับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจการตั้งด่าน จุดตรวจ จุดสกัด การลงข้อมูลในระบบ TPCC การเสริมสร้างทางวินัยคุมเข้มการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่และอบายมุขทุกประเภท
ในที่ประชุม ผบ.ตร.สั่งการให้หน่วยปฏิบัติตามหนังสือบันทึกข้อความด่วนที่สุดที่ 0007.22/438 ลงวันที่ 2 ก.พ. 66 เรื่อง กำชับการปฏิบัติเกี่ยวกับการตั้งด่านตรวจ จุดตรวจ และจุดสกัด
โดยเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำด่านตรวจ จุดตรวจ และจุดสกัดทุกนายแต่งเครื่องแบบและติดกล้องบันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบดิจิทัล (Police Body Camera) ตลอดระยะเวลาการปฏิบัติ ให้บันทึกภาพและเสียงขณะตรวจไว้ตลอดเวลา แล้วนำไปจัดเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของหน่วยในโอกาสแรกหลังเลิกการปฏิบัติ โดยเก็บไว้ไม่น้อยกว่า 20 วัน
การตั้งจุดตรวจเพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และจุดตรวจเพื่อบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก ต้องได้รับอนุมัติจาก ผบก.ขึ้นไปทุกครั้งกำชับการตั้งด่านตรวจ จุดตรวจ ให้ทุกหน่วยลงข้อมูลในสารสนเทศของ ตร. (Thai Police Checkpoint Control : TPCC)
ให้ผู้บังคับบัญชาระดับ ตร.บช.หรือ ภ.และ บก.หรือ ภ.จว. ออกสุ่มตรวจการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตั้งด่านตรวจ จุดตรวจ และจุดสกัดให้เป็นไปตามแนวทางที่ ตร.กำหนด หากตรวจพบให้แนะนำ ตักเตือน ปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องโดยเร็ว ทั้งนี้ให้ติดตามผลการปรับปรุงแก้ไขในกรณีดังกล่าวด้วย พร้อมให้ จต.สุ่มตรวจการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตั้งด่านตรวจ จุดตรวจ โดยนำข้อมูลจุดบกพร่อง ปัญหาที่พบเข้าที่ประชุมบริหารระดับ ภาค หรือ ตร. เพื่อแก้ไขปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
หากมีกรณีร้องเรียน ปรากฏเป็นข่าว หรือปรากฏตามสื่อสังคมออนไลน์ และผลการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริต หรือแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบหรือเรียกรับสินบน ให้พิจารณาดำเนินการทางวินัย อาญา และปกครอง แล้วแต่กรณีกับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง และพิจารณาข้อบกพร่องของผู้บังคับบัญชาผู้ที่มีหน้าที่ควบคุมกำกับ ดูแล จนถึง หน.สถานี หรือ ระดับ บก.หรือ ภ.จว. ที่ปล่อยปละละเลย แล้วแต่กรณีด้วย
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ยังได้กำชับการเสริมสร้างระเบียบวินัย ให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับเจ้าหน้าที่ทุจริต ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือแสวงหาผลประโยชน์มิชอบ มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ปล่อยปละละเลยให้มีอบายมุขในพื้นที่ ทั้งบ่อนการพนัน การพนันออนไลน์ สถานบริการ และการค้ามนุษย์ในพื้นที่ โดยยึดถือปฏิบัติตามคำสั่ง ตร.ที่ 234/2558 ลง 27 เม.ย. 2558 อย่างเคร่งครัด และให้ผู้บังคับบัญชาตามคำสั่ง 1212/2537 ลง 1 ต.ค.2537 ลงไปควบคุมดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด ทั้งในและนอกเวลาราชการ
ผบ.ตร.ได้ย้ำในที่ประชุม ในการตั้งด่านตรวจ จุดตรวจ จุดสกัด ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมร้ายแรง หรือ อาชญากรรมสำคัญตามนโยบายรัฐบาลทั้ง อาวุธปืน ยาเสพติด การแข่งรถในทางให้ปฏิบัติตามหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทำการจับกุมให้มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างความสงบเรียบร้อยในสังคม โดยห้ามมีการเรียกรับสินบน หรือผลประโยชน์อย่างเด็ดขาด
กำชับเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจต้องใช้วาจาสุภาพ เป็นมิตร สามารถชี้แจงข้อกฎหมาย ข้อสังสัยให้ประชาชนทราบได้อย่างชัดเจน เช่น การขอตรวจค้นต้องเป็นไปตามอำนาจที่กฎหมายกำหนดไว้ การตรวจแอลกอฮอล์ที่จุดตรวจเฉพาะกรณีคนขับมีกลิ่นสุราหรือมีพฤติกรรมคล้ายคนเมา เป็นต้น
ส่วนกรณีเรียกตรวจนักท่องเที่ยว ให้นำหลักรัฐศาสตร์มาใช้ กรณีนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติ หากไม่ได้พกพาหนังสือเดินทางฉบับจริง สามารถใช้สำเนาหรือภาพถ่ายได้ การไม่พกพาสปอร์ตไม่ถือว่าเป็นความผิด แต่หากเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจสงสัย ให้ประสานกับ สตม. หมายเลข 1178 หรือ ตำรวจ ตม.ในต่างจังหวัด ช่วยตรวจสอบข้อมูลกับศูนย์สารสนเทศของ สตม. เพื่อสร้างภาพลักษณ์และบรรยากาศที่ดีต่อการท่องเที่ยว