ผบช.สตม.แถลงการขยายผลจับเจ้าของบริษัทรับทำวีซ่าปลอม ย่านบึงกุ่ม พบของกลางพาสปอร์ตนับร้อยเล่ม อีกคดีจับสามี-ภรรยาชาวจีน หลอกเหยื่อซื้อเหรียญเว็บพนันออนไลน์
วันนี้ (6 ก.พ.) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.ร่วมกันแถลงกรณี พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม.นำกำลังสืบสวนขยายผลจับกุมบริษัทรับทำวีซ่าแห่งหนึ่ง แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม.
สืบเนื่องจากห้วงเดือนธันวาคม 2565 ถึงปัจจุบันเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่ประจำด่านต่างๆ จับกุมตัวชาวต่างชาติจำนวนหลายราย ซึ่งกำลังเดินทางออกนอกประเทศ ข้อหาปลอมและใช้รอยตราของเจ้าพนักงาน (รอยตราวีซ่า) จากการจับกุม พบว่า รอยตราวีซ่าปลอมมีลักษณะเดียวกัน จึงเชื่อว่า กลุ่มคนร้ายกลุ่มเดียวกันเป็นผู้กระทำความผิด พบ น.ส.อังศณา เจ้าของบริษัทและพนักงาน จากการตรวจค้นพบหนังสือเดินทางของชาวต่างชาติ 700 เล่ม บางส่วนแอบใต้ฝ้าเพดานชั้น 2 บางส่วนวางกระจัดกระจายอยู่ที่ชั้น 1 ตรวจสอบพบว่า มีหนังสือเดินทาง 124 เล่ม มีรอยตราวีซ่าปลอมในหนังสือเดินทาง จากนั้นตรวจยึดหนังสือเดินทางทั้งหมดเพื่อตรวจสอบและนำส่งกองพิสูจน์หลักฐานและขออนุมัติหมายจับ น.ส.อังศณา ต่อศาลอาญา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ บก.สส.สตม. จับกุมตัว น.ส.อังศณา เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา จากการซักถามปากคำ น.ส.อังศณา รับว่า เป็นผู้ทำปลอมวีซ่าทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว พร้อมยินยอมนำเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นคอนโดแห่งหนึ่งที่เช่าไว้ บริเวณแขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม. ซึ่งเป็นสถานที่ใช้ทำวีซ่าปลอมลงในหนังสือเดินทางของคนต่างชาติ พบอุปกรณ์สำหรับทำปลอมบางส่วน เช่น ปากกาที่ใช้ทำปลอมวีซ่า ถุงมือที่สวมขณะเขียน กระดาษที่ใช้ทดลองเซ็นชื่อให้เหมือนชื่อเจ้าหน้าที่ ตม. แท่นน้ำหมึก ตราประทับ เป็นต้น โดยตราประทับบางส่วน น.ส.อังศณา อ้างว่าได้โยนทิ้งไปแล้ว จึงตรวจยึดของกลางทั้งหมดพร้อมจับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน บก.สส.สตม.ดำเนินคดี
ส่วนอีกราย พ.ต.ต.สิทธิมณ สร้อยภู่ระย้า สว.กก.4 บก.สส.สตม. ร.ต.อ.อดิศร บุญชุ่ม รองสว.กก.ปอพ.บก.สส.สตม. จับกุมนาย หยาง (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี และ นาง เจิ้ง (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี บุคคลตามหมายจับประเทศจีน และถูกเพิกถอนการอยู่ในราชอาณาจักรฯ ได้ที่คอนโดพื้นที่สุขุมวิท กรุงเทพมหานคร พร้อมตรวจยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเงินสดสกุลเงินไทยและสกุลเงินอื่นๆ มูลค่ากว่า 7 ล้านบาท สอบถามให้การรับว่ากระทำความผิดในลักษณะฉ้อโกงประชาชนมีการจัดทำแอปพลิเคชันขึ้นมา เพื่อชักชวนให้ประชาชนมาลงทุน ทำการซื้อเหรียญ สำหรับเล่นพนันออนไลน์ HH Poker มีการพูดคุยหลอกลวงผู้เสียหายผ่านทางแอปพลิเคชันวีแชตภายหลังยักยอกเงินที่ได้จากการหลอกลวงหลบหนีเข้ามายังประเทศไทย มีผู้เสียหายหลายราย มูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองมาไว้ที่ กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อรอผลักดันกลับประเทศต่อไป