ให้รู้ไปเลย! “ธนาธร” ประกาศชัด “คณะก้าวหน้า” หนุน “ก้าวไกล” เต็มสูบ เป็นรัฐบาล-เปลี่ยนแปลงประเทศ “อดีตบิ๊กข่าวกรอง” แนะประชาชนให้บทเรียนนักเลือกตั้ง อย่าเลือกพรรคทำสภาล่ม งานไม่ทำ รับเงินเดือน “ดร.เสรี” ชี้ จุดอ่อน “สลิ่ม-FCลุง”
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (5 ก.พ. 66) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ระบุว่า
“สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้เชิญนายกฯ และสมาชิกสภาท้องถิ่น ที่คณะก้าวหน้าให้การสนับสนุน มาประชุมใหญ่ประจำปี สัมมนาแลกเปลี่ยนความเห็นกันทั้งเรื่องการเมืองท้องถิ่น และการเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง ผมได้ชี้แจงภารกิจและทิศทางการทำงานในปี 2566
สำหรับคณะก้าวหน้า 4 ประการ คือ 1. การรับใช้ประชาชนอย่างแข็งขัน สร้างผลงานสม่ำเสมอ ไม่ทุจริต ครองตนเหมาะสม 2. ปักธงความคิด รณรงค์ทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง ทั้งการกระจายอำนาจ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และการยกเลิกเกณฑ์ทหาร 3. สนับสนุนพรรคก้าวไกลให้ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง ช่วยรณรงค์นโยบาย สร้างเครือข่ายระดับท้องถิ่นทั่วประเทศ 4. สนับสนุนพรรคก้าวไกลให้เป็นพรรคเข้มแข็งจากฐานราก เป็นพรรคของมวลชน และขยายแนวทางการทำงานการเมืองของพรรค
“อนาคตใหม่คือผู้คนและการเดินทาง 5 ปี ที่เราเดินทางไกลในภารกิจเปลี่ยนประเทศ มีผู้คนเดินทางกับเรามากขึ้นทุกวัน วันนี้เรามีเครือข่ายที่เข้มแข็ง ทำงานในระดับรากฐานทั่วประเทศ ผมและคณะก้าวหน้า จะสนับสนุนพรรคก้าวไกลอย่างเต็มที่ เพื่อให้ก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล เพราะเราเชื่อว่าแนวทางการทำงานและอุดมการณ์แบบอนาคตใหม่ สามารถผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในประเทศได้จริง สร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับประชาชนได้จริง”
ขณะเดียวกัน นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart เรื่อง “ให้บทเรียนนักเลือกตั้ง” ระบุว่า
“พรรคการเมืองบางพรรคประกาศจะแลนด์สไลด์ พาตากลับบ้าน แต่ดันเดินสะดุดตอ แลนวิ่งตัดหน้า หมาเห่ากันให้เกลียว ชาวบ้านตกใจวิ่งหนี ยังไม่พอคนเสื้อแดงเทน้ำคว่ำขันไม่ร่วมสังฆกรรมด้วยอีกต่างหาก น่าเป็นห่วง
“อีกพรรคนึงก็โหน เกาะชายกระโปรงเด็ก หวังคะแนนจากเด็ก ถ้าเด็กตาสว่างเมื่อไร รู้ตัวว่าถูกหลอกใช้ จบกัน ตัวใครตัวมัน”
แต่ที่อยากเตือนความจำคนไทย อย่าไปเลือกนักการเมืองและพรรคที่ทำสภาล่มแล้วล่มอีก งานไม่ทำแต่รับเงินเดือนทุกเดือน แถมหาเสียง อาสาขอกลับมาเป็น ส.ส.อีก แล้วก็มาทำสภาล่มอีก คนไทยต้องช่วยกันให้บทเรียนกับนักเลือกตั้ง คนไทยไม่โง่ให้หลอก”
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า “จุดอ่อนของสลิ่ม และ FC ลุงตู่ ก็คือ เป็น passive fans ไม่เป็น active evangelists หมายความว่า รัก ชอบ ชื่นชม แต่ไม่สื่อสารใดๆ อ่าน post แต่ไม่กด like ไม่กด share และไม่เขียน comment ที่เป็นการพูดคุย
แล้วก็มาตกใจที่เห็นวาทกรรมด่าลุงตู่ ข้อความชังชาติ แล้วก็ชมว่าพวกเขา PR เก่ง แล้วก็ก่นด่าต่อว่าการประชาสัมพันธ์ของรัฐว่าสู้ของฝ่ายตรงกันข้ามไม่ได้
ของเขาได้ผลเพราะพอมีคน post สารตั้งต้น ก็จะมีคนพวกเดียวกันมากด like มากด share มา retweet มาใช้ # คือพวกเขาทำหน้าที่เป็น PR officers กันด้วย จึงมี high reach, high frequency
เมื่อพวกเขามี sources ของ messages กันเยอะ เราจึงเห็นเรื่องราวของเขาเยอะใน social media ที่ทำให้สลิ่มและ FC ลุงตู่ตกใจกลัวจะแพ้
แทนที่จะมัวแต่กลัว มัวแต่ตกใจ เปลี่ยนมาเป็น active evangelists ที่แปลว่าคนทำหน้าที่เผยแพร่ความรักเหมือนนักศาสนานำเอาคำสอนศาสนาไปเผยแพร่ด้วยความรักเพื่อนมนุษย์
มาเผยแพร่ผลงานลุงตู่ ความดีลุงตู่ ความงดงามของพรรค รทสช. กันเยอะๆ ไหมคะ ทุกวันนี้บางทีก็ท้อนะคะ เผยแพร่อะไรไปด้วยความรัก ไม่มีการ share ไม่ค่อยเขียน comments กันเลย
ถ้าเป็นเช่นนี้ก็นั่งตกใจกันไปอีกนาน แล้วอาจจะต้องนั่งเสียใจหลังวันเลือกตั้งนะคะ อยากได้อะไร ต้องถามตัวเองว่าจะต้องช่วยทำอะไร เพื่อให้สิ่งที่อยากได้เป็นจริงนะคะ
ช่วยกันเป็น PR officer กันหน่อยนะคะ ไม่กลัวได้นายกฯคนอื่นเหรอคะ.”
แน่นอน, เห็นได้ชัดว่า ถนนทุกสายกำลังมุ่งหน้าสู่การเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นเกมการเมือง ก็จะอบอวลไปด้วยกลิ่นไอของเกมการเมือง การแสดงออกเพื่อสนับสนุนพรรคการเมืองที่ตัวเองมีผลประโยชน์ทางการเมืองร่วม อุดมการณ์เดียวกัน หรือ ชื่นชอบ หรือไม่ก็โจมตีทางการเมือง รวมทั้งชี้แนะแนวทางการเลือกตั้งให้กับสังคมและประชาชน ได้เรียนรู้ “บทเรียน” ของผู้แทนราษฎร ก่อนตัดสินใจหย่อนบัตรครั้งต่อไป
ความจริง ประเด็นเหมือนไม่มีอะไรมาก แต่ถ้าคิดให้ลึกซึ้ง อย่าลืมว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า เป็นอีกครั้งที่ประชาชนคนไทยจะได้ตัดสินอนาคตของตัวเอง ดังนั้น การรู้เท่าทัน “กลเกม” นักเลือกตั้ง จึงเป็นเรื่องสำคัญ และเริ่มต้นนับแต่วันนี้