“ชาติพัฒนากล้า” ชู “เศรษฐกิจสีรุ้ง – RainbowEconomy” โอกาสทางเศรษฐกิจไทย จาก LGBTQ ทั่วโลกเพิ่มส่วนแบ่งตลาด 1 ล้านล้านบาท
วันนี้ (5 ก.พ.) นายเทมส์ ไกรทัศน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 จ.ภูเก็ต พรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ตลาดนักท่องเที่ยว ที่เป็น กลุ่มผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ” หรือ LGBTQ+ ถือเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง เมื่อเปรียบเทียบกับคนในวัยเดียวกัน และมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คนกลุ่มนี้มีไลฟ์สไตล์ แบบ Work hard, Play hard มีแนวโน้มในการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศมากและบ่อยกว่าคนทั่วไป มีค่านิยมการใช้ชีวิตที่ค่อนข้างเฟ้นหาสิ่งดีมีระดับผ่านสินค้าและบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ลงทุนกับเรื่องนวัตกรรม เทคโนโลยี ของแบรนด์คุณภาพดีราคาสูง เป็นต้น ที่สำคัญคือ ไม่มีภาระค่าใช้จ่ายทางครอบครัวมากเท่ากับครอบครัวพ่อแม่ลูก ฯลฯ
“พรรคเราเห็นโอกาสนี้และพูดเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น จึงเสนอยุทธศาสตร์ Rainbow Economy (เรนโบว์อีโคโนมี) หรือเศรษฐกิจสีรุ้ง ที่ส่งเสริมและเปิดกว้างสำหรับการสร้างเศรษฐกิจรองรับ LGBTQ+ ทั้งไทยและต่างชาติ เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจากกลุ่มนักท่องเที่ยว LGBTQ ทั่วโลก 1 ล้านล้านบาท การดึงคนเหล่านี้ให้เดินทางท่องเที่ยวในประเทศ สร้างกิจกรรมที่ดึงดูดความสนใจและเทศกาลอย่างที่ทั่วโลกนิยมกัน โดยภาครัฐเป็นแกนใหญ่สนับสนุน ไม่ปล่อยแค่ให้เอกชนทำกันอย่างที่ผ่านมา และไม่เพียงแต่มิติในด้านความเท่าเทียมของความหลากหลายทางเพศ รัฐจะต้องส่งเสริมจริงจังสร้างสภาพแวดล้อมทุกด้านรองรับเศรษฐกิจสีรุ้งด้วย” นายเทมส์ กล่าว
นายเทมส์ กล่าวด้วยว่า เราควรใช้โอกาสที่ประเทศไทยกำลังเตรียมพร้อมเรื่องของกฎหมายสมรสของผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ สมรสเท่าเทียม แม้จะเป็นแค่การเริ่มต้น แต่ก็เป็นการแง้มประตูให้ประเทศไทยมีภาพลักษณ์ที่ดีของการยอมรับสิทธิและศักดิ์ศรีแห่งความเป็นคนเท่ากัน แต่ถ้าจะให้เปิดประตูกว้างกว่านี้ ประตูแห่งการยอมรับความหลากหลายทางเพศโดยแท้และโอกาสทางเศรษฐกิจก็จะเพิ่มมากขึ้น หากต่อยอดไปถึงการจดทะเบียนสมรสของชาวต่างชาติได้ จะยิ่งเติมเต็มรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล
ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต กล่าวด้วยว่า มีข้อมูลว่า นักท่องเที่ยว LGBTQ+ ราวกว่า 80% เคยเผชิญบรรยากาศไม่ประทับใจระหว่างการท่องเที่ยว จากการที่ผู้คนและชุมชนบางแห่งในบางประเทศมีบรรยากาศที่ไม่ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เป็นกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ จนทำให้เกิดความไม่ประทับใจและรู้สึกไม่ดี แต่สังคมไทยและคนไทยเราเป็นมิตรและเปิดกว้าง ซึ่งเอื้อต่อความรู้สึกดีต่อการมาเยือนและการใช้ชีวิต ทั้งนี้ ปัจจุบัน LGBTQ+ ทั่วโลกมีมากถึง 486 ล้านคน อยู่ในเอเชีย 288 ล้านคน และเป็นคนไทยประมาณ 4 ล้านคน มีอำนาจการใช้จ่ายอยู่ที่ 24,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่หากนับรวมทั่วโลกจะมีอำนาจการใช้จ่ายรวมกันถึง 3.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี แถมผู้ประกอบการโรงแรมของไทย ยังพบข้อมูลด้วยว่า กลุ่มคู่รัก LGBTQ+ ที่เข้ามาท่องเที่ยวในไทยใช้จ่ายเงินมากกว่าคู่รักชายหญิงประมาณ 50%
“ในอนาคตอันใกล้ LGBTQ+ จะกลายมาเป็น อีกแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ในรูปแบบใหม่ๆ ที่จะเกิดมูลค่าเม็ดเงินมหาศาล โดยเฉพาะ ภาคการท่องเที่ยวและบริการ ที่เป็นตลาดใหญ่ เพราะชาว LGBTQ+ มองว่าประเทศไทยเป็นสวรรค์และคนไทยเปิดกว้าง ตลอดจนเป็นโอกาสทางธุรกิจของ ตลาดอสังหาฯ ที่จะได้ประโยชน์จากการซื้อที่อยู่อาศัยสร้างครอบครัวชีวิตคู่ หากเรามีกฎหมายสมรสของคนหลากหลายทางเพศทั้งคนไทยและต่างชาติ เกิดขึ้น กระเตื้องแน่ภาคท่องเที่ยวและอสังหาฯ และเม็ดเงินจะส่งต่อผลดีไปที่อุตสาหกรรมด้านอื่นๆอีดด้วย”นายเทมส์ กล่าว
สำหรับ RainbowEconomy คือ 1 ใน 7 ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเฉดสี (SpectrumEconomy) โอกาสทางเศรษฐกิจไทย ที่เราพรรคชาติพัฒนากล้า นำเสนอ เพราะเห็นโอกาสที่จะสร้างเงิน สร้างงาน สร้างรายได้ให้พี่น้องคนไทย ประเทศเราจะไปต่อได้จริงๆ รัฐบาลต้องหาช่องทางรายได้ใหม่ๆ ที่ไม่ใช่รอภาษีจากประชาชนแต่อย่างเดียว