บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด คว้ารางวัล Top Employer Award 2023 ประจำประเทศไทย จากสถาบันท็อป เอ็มพลอยเยอร์ส (Top Employers Institute) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ตอกย้ำการเป็นสถานที่ทำงานยอดเยี่ยม (Great Place to Work) และสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย ได้ให้ความสำคัญกับการยอมรับในความแตกต่างและการมีส่วนร่วมของพนักงาน (Inclusion & Diversity) การส่งเสริมความเท่าเทียมและยอมรับทุกความหลากหลาย รวมถึงการเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ พร้อมสนับสนุนพนักงานในการริเริ่มแนวคิดใหม่ ๆ และเสริมทักษะความรู้ให้พนักงาน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในรากฐานสู่ความสำเร็จของแอสตร้าเซนเนก้า
แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย ได้ยึดมั่นและดำเนินงานตามนโยบายดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการสนับสนุนความเสมอภาคและเท่าเทียมจากการผลักดันให้จำนวนอัตราส่วนและการเลื่อนตำแหน่งของพนักงานผู้หญิงทัดเทียมกับพนักงานผู้ชาย การสนับสนุนให้บุคลากรสามารถบริหารและจัดการทั้งหน้าที่การงานและบทบาทในครอบครัวได้อย่างเต็มที่ด้วยนโยบายที่ยืดหยุ่นด้านสถานที่ทำงานและรูปแบบการทำงาน นอกจากนี้แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย ยังได้ลงนามให้ “คำมั่นว่าจะให้พนักงานผู้เป็นพ่อได้วันลาเลี้ยงดูบุตร ปี 2565” โดยพนักงานผู้ชายสามารถใช้สิทธิ์การลาของบิดาเพื่อเลี้ยงดูบุตรแรกเกิดโดยได้รับค่าจ้างเป็นเวลาถึง 30 วัน แอสตร้าเซนเนก้า ยังมุ่งสนับสนุนความหลากหลายทางเพศในองค์กร ผ่านการสนับสนุนชุมชน LGBTQIA+ ภายใต้การก่อตั้งกลุ่ม AZPride ซึ่งเป็นเครือข่ายของพนักงานจากทั่วโลกเพื่อให้พนักงานทุกคนได้แสดงออกถึงความเป็นตัวตนของตนเองได้อย่างภาคภูมิใจ
นางสาวจิตรา ธีรชัย ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เรายินดีและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับการได้รับรางวัล Top Employer Award 2023 ในประเทศไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการพัฒนานโยบายด้านทรัพยากรบุคคลอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการเสริมสร้างศักยภาพของพนักงานและการสร้างโอกาสที่เสมอภาคทั้งภายในและภายนอกองค์กร พร้อมสนับสนุนการสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ทำให้พนักงานรู้สึกอยากมาทำงานและรู้สึกปลอดภัยทั้งทางร่างกายและจิตใจ ผ่านค่านิยมที่เรายึดมั่นมาตลอด คือการทำในสิ่งที่ถูกต้อง (We Do The Right Thing) นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นให้พนักงานตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลสุขภาพของคนไทย ด้วยการสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่ยกระดับประสิทธิภาพในการตรวจวินิจฉัยโรคในระยะเริ่มต้น พร้อมส่งเสริมการเข้าถึงระบบการดูแลสุขภาพและยานวัตกรรมให้แก่ผู้ป่วย ร่วมไปกับการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม ผ่านแคมเปญ ‘Making Health Happen’ ด้วยการนำวิทยาศาสตร์มาต่อยอดและพัฒนาการดูแลสุขภาพของประชาชน (People) ชุมชน (Society) และโลก (Planet) อย่างยั่งยืน”
สถาบันท็อป เอ็มพลอยเยอร์ส (Top Employers Institute) ให้การรับรองแก่องค์กรต่างๆ โดยคัดเลือกผ่านแบบสำรวจนโยบายด้านทรัพยากรบุคคลระดับโลก (HR Best Practices Survey) ซึ่งมีเกณฑ์การตัดสิน 6 ด้าน แบ่งเป็น 20 หัวข้อ อาทิ กลยุทธ์พัฒนาทรัพยากรบุคคล การสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงาน การสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถโดดเด่นมาร่วมงาน การฝึกอบรม การส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี รวมถึงการยอมรับในความแตกต่างและการมีส่วนร่วมของพนักงาน (Diversity & Inclusion) เป็นต้น โดยในปีนี้มีองค์กรที่ได้รับรางวัลนี้ 2,053 ราย จาก 121 ประเทศทั่วโลก