xs
xsm
sm
md
lg

กสม.ชี้ ละเมิดสิทธิ ตร.จับผู้ต้องหาในคดีที่มีการอายัดตัววันพ้นโทษ ระบุต้องแจ้งให้รู้ตั้งแต่ในคุก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กสม. ชี้ ตร.จับกุมผู้ต้องหาในคดีที่มีการอายัดตัววันพ้นโทษจากเรือนจำ เป็นการละเมิดสิทธิในกระบวนการยุติธรรม จี้ ราชทัณฑ์แจ้งผู้ต้องขังรู้ข้อมูลถูกอายัดตัวตั้งแต่อยู่ในเรือนจำ

วันนี้ (19 ม.ค.) นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีเมื่อเดือน ส.ค. 2565 กสม.ได้รับการร้องเรียนจากผู้ต้องขังรายหนึ่ง ซึ่งอยู่ในเรือนจำกลางบางขวาง มานานกว่า 19 ปี ว่า เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 65 ได้รับการปล่อยตัว เนื่องจากได้รับพระราชทานอภัยโทษ แต่ในวันเดียวกัน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก จับกุมจากคดีที่มีการอายัด โดยผู้ร้องไม่เคยได้รับแจ้งว่า มีคดีอายัดจากสถานีตำรวจ ทั้งที่เคยมีหนังสือสอบถามไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แล้ว ขณะที่เรือนจำฯ ก็มิได้ตรวจสอบเอกสารการอายัดและแจ้งให้ผู้ร้องทราบ ซึ่ง กสม. พิจารณาข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายแล้ว เห็นว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 68 บัญญัติให้รัฐจัดให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้โดยสะดวก รวดเร็ว และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134 ได้รับรองสิทธิของผู้ต้องหาให้มีสิทธิได้รับการสอบสวนด้วยความรวดเร็ว ต่อเนื่อง และเป็นธรรม อีกทั้งกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ข้อ 14 (3) ได้ให้การรับรองสิทธิของบุคคลทุกคนที่ต้องหาว่ากระทำความผิดมีสิทธิที่จะได้รับแจ้งโดยพลัน ซึ่งรายละเอียดเกี่ยวกับสภาพและเหตุแห่งความผิดที่ถูกกล่าวหา สิทธิที่จะมีเวลาและได้รับความสะดวกเพียงพอแก่การเตรียมการเพื่อต่อสู้คดี รวมทั้งสิทธิที่จะได้รับการพิจารณาโดยไม่ชักช้าเกินความจำเป็น ประกอบกับ สตช. มีคำสั่งที่ 419/2556 เรื่อง การอำนวยความยุติธรรมในคดีอาญา การทำสำนวนการสอบสวน และมาตรการควบคุม ตรวจสอบ เร่งรัดการสอบสวนคดีอาญา ลงวันที่ 1 ก.ค. 56 กำหนดแนวทางการสอบสวนคดี โดยให้พนักงานสอบสวนรีบสอบสวนดำเนินคดีกับผู้ต้องหาซึ่งถูกคุมขังในคดีอื่นให้แล้วเสร็จ โดยไม่ต้องรอให้พ้นโทษในคดีเดิมก่อน และส่งสำนวนให้พนักงานอัยการโดยเร็ว

จากการตรวจสอบ ข้อเท็จจริง ปรากฏว่า พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก ได้มีหนังสือขออายัดตัวผู้ร้องไว้ตั้งแต่เดือน เม.ย. 61 ภายหลังการอายัด กลับไม่รีบสอบสวนดำเนินคดี เพื่อส่งสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการโดยเร็ว กระทั่งผู้ร้องได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 65 จึงมาจับกุมดำเนินคดีอีกครั้ง ซึ่งรวมเป็นระยะเวลากว่า 4 ปี 10 เดือน นับจากวันที่พนักงานสอบสวนได้อายัดตัวผู้ร้องไว้ แม้ระหว่างการสอบสวนจะปรากฏว่าพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบสำนวนคดีย้ายไปประจำ ณ ท้องที่อื่น ก็ไม่เป็นเหตุให้การอำนวยความยุติธรรมต้องสะดุดหยุดลง การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการดำเนินการสอบสวนที่ล่าช้าเกินสมควร ไม่เป็นการอำนวยความยุติธรรมเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้ต้องหาในคดีอาญา จึงเป็นการกระทำหรือละเลยการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน

ส่วนการดำเนินการของเรือนจำกลางบางขวาง กรณีไม่แจ้งให้ผู้ร้องทราบว่ามีคดีอายัด เห็นว่า แม้การที่เรือนจำไม่แจ้งให้ผู้ต้องขังทราบว่ามีคดีอายัด จะเป็นการดำเนินการตามหนังสือสั่งการของกรมราชทัณฑ์ แต่เมื่อพิจารณาถึงปัญหาที่ทำให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อผู้ร้องในกรณีนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ผู้ร้องไม่ได้รับแจ้งจากเรือนจำฯ ว่า มีคดีอายัด จึงไม่ได้ใช้สิทธิในการร้องเรียนต่อหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบให้ตนได้รับการสอบสวนในคดีที่ถูกอายัดอย่างรวดเร็วได้ การกระทำดังกล่าวของเรือนจำฯ จึงเป็นการละเลยการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนเช่นเดียวกัน

ในเรื่องการแจ้งข้อมูลการอายัดตัวแก่ผู้ต้องขังนั้น ที่ผ่านมา กสม. ได้เคยมีข้อเสนอแนะที่ 3/2565 ลงวันที่ 21 มี.ค. 65 ให้กรมราชทัณฑ์แจ้งให้ผู้ต้องขังทราบข้อมูลเกี่ยวกับการอายัดตัวในคดีอาญาอื่นในโอกาสแรกที่จะกระทำได้ด้วยแล้ว แต่ยังคงมีกรณีที่ผู้ต้องขังไม่ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการอายัดตัวในคดีอาญาอื่นของตนจนเป็นเหตุให้ไม่ได้รับการอำนวยความยุติธรรมตามสิทธิที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายปรากฏอยู่ ที่ประชุม กสม. เมื่อวันที่ 17 ม.ค. จึงเห็นควรมีข้อเสนอแนะมาตรการในการป้องกันหรือแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อ สตช. ในฐานะหน่วยงานบังคับบัญชาของสถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก เรือนจำกลางบางขวาง และกรมราชทัณฑ์ ในฐานะหน่วยงานบังคับบัญชาของเรือนจำฯ พิจารณาดำเนินการภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ได้แจ้งรายงานผลการตรวจสอบ โดย 1. ให้ สตช. ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 สอบสวนหรือตรวจสอบข้อเท็จจริงตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งเป็นผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยใช้รายงานผลการตรวจสอบนี้เป็นข้อมูลประกอบการดำเนินการ นอกจากนี้ให้ สตช. และกรมราชทัณฑ์เร่งรัดการดำเนินการตามรายงานข้อเสนอแนะของ กสม. ที่ 3/2565 ลงวันที่ 21 มี.ค. 65 ซึ่งสำนักงาน กสม. ได้เคยแจ้งผลตามข้อเสนอแนะดังกล่าวให้ทั้งสองหน่วยงานทราบแล้ว 2. ให้เรือนจำกลางบางขวางแจ้งให้ผู้ต้องขังทราบข้อมูลเกี่ยวกับการอายัดตัวในโอกาสแรกที่กระทำได้ เพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถใช้สิทธิในการร้องเรียนต่อหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบหรือประสานงานหน่วยงานต่างๆ ให้ได้รับการสอบสวนในคดีที่ถูกอายัดได้อย่างรวดเร็ว


กำลังโหลดความคิดเห็น