“กรมที่ดิน” รับลูก มท.1 เร่งออกมาตรการป้องกันโจรต่างชาติ ใช้นอมินี ทําธุรกรรมที่ดินผิดกฎหมาย เน้นทำ “บิ๊กดาต้า” ธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ ซื้อบ้าน ที่ดิน อาคารชุด เน้นแก๊งทําธุรกรรมหลายแห่งในโครงการเดียวกัน ประสาน ตร. - กรมพัฒนาฯ คาด มีผลหลัง MOU ปปง. เชื่อมโยง/รับส่งข้อมูลธุรกรรมที่ดินมูลค่ามากกว่า 2 ล้าน
วันนี้ (27 ธ.ค.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายชยาวุธ จันทร อธิบดีกรมที่ดิน (ทด.) มีหนังสือด่วนที่สุดถึง สํานักงานตํารวจแห่งชาติ (ตร.) และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
เพื่อขอข้อมูลกรณี นิติบุคคลที่มีสัดส่วนคนต่างด้าวถือหุ้น และครอบครองอสังหาริมทรัพย์ถูกต้องตามกฎหมาย
ได้ทําการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนผู้ถือหุ้นกลับไปเป็นนิติบุคคลของคนต่างด้าว (นอมินี) ภายหลังจากได้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นแล้ว ซึ่งถือว่าไม่สามารถครอบครองได้ตามกฎหมาย
โดย ทด.จะนำไปเป็นข้อมูลประกอบการดําเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ในการป้องกันการทําธุรกรรมผิดกฎหมายของชาวต่างชาติ
ล่าสุด กรมที่ดิน อยู่ระหว่างการหารือกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในการกําหนดมาตรการป้องกันการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนผู้ถือหุ้นในนิติบุคคลที่มีคนต่างด้าวถือหุ้นอยู่ ภายหลังได้มีการครอบครองอสังหาริมทรัพย์แล้ว
รวมถึงอยู่ระหว่างดําเนินการกําหนดแนวทางการกํากับติดตามการทําธุรกรรมทางที่ดินให้มีความรัดกุมยิ่งขึ้น
อาทิ การปรับปรุงแบบ ท.ด.16 (บันทึกถ้อยคําผู้ให้สัญญา) โดยเพิ่มข้อความแจ้งเรื่องการให้ข้อมูลและที่มาของแหล่งเงินธุรกรรมให้ชัดเจน รวมทั้งดําเนินการปรับปรุงในระบบสารสนเทศของกรมที่ดิน
“ได้มีบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับสํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สํานักงาน ปปง.) ในกรณีการทําธุรกรรมทางที่ดินที่มีมูลค่ามากกว่า 2,000,000 บาท”
โดยให้มีการเชื่อมโยงและรับส่งข้อมูลการทําธุรกรรมในลักษณะดังกล่าวระหว่างกัน เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบการทําธุรกรรมทางที่ดิน
สำหรับการออกหนังสือดังกล่าว สืบเนื่องจาก พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย มีข้อสั่งการมาไปกรมที่ดิน
ขอให้กรมที่ดินกําหนดมาตรการในการตรวจสอบบุคคลต่างชาติที่ได้รับสัญชาติไทยแล้วดําเนินการซื้ออสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด เช่น อาคารชุด อาคารพาณิชย์ บ้านเดี่ยว ที่ดิน เป็นต้น
เพื่อป้องกันการก่ออาชญากรรม หรือการใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นสถานที่ดําเนินธุรกิจผิดกฎหมาย
“ให้ศึกษาและจัดเก็บข้อมูลการทําธุรกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ของบุคคล/นิติบุคคลที่สามารถตรวจสอบข้อมูลได้สะดวกและเป็นปัจจุบัน”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่ชาวต่างชาติซื้อบ้าน ที่ดิน และอาคารชุดโดยไม่ผ่านสถาบันทางการเงิน หรือทําธุรกรรมหลายแห่งในโครงการเดียวกันหรือในพื้นที่ใกล้เคียงกัน
เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการติดตาม ตรวจสอบ และแก้ไขปัญหาการมีตัวแทน (นอมินี) ของชาวต่างชาติเข้าซื้อบ้าน ที่ดิน และอาคารชุด ซึ่งเข้าข่ายเป็นการทําธุรกรรมทางที่ดินที่ผิดปกติ
ให้กรมที่ดินกําชับและเข้มงวดการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดอันนําไปสู่ความเสียหายต่อทางราชการได้
กํากับติดตามการทําธุรกรรมทางที่ดินร่วมกับสํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สํานักงาน ปปง.) อย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดําเนินงานของกรมที่ดินให้ประชาชนรับทราบ ซึ่งรวมไปถึงการดําเนินการดังกล่าวร่วมกับสํานักงาน ปปง.
ในประเด็นเดียวกันนี้ ยังมีข้อสั่งการไปยัง กรมการปกครอง ดําเนินการเกี่ยวกับการขอสัญชาติไทยของบุคคลต่างชาติในขั้นตอนที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบและรัดกุม
เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลที่ได้รับการแปลงสัญชาติไทยเป็นผู้ก่อเหตุอาชญากรรมหรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย
“ให้กรมการปกครองและผู้ว่าราชการจังหวัด เน้นย้ําเรื่องการปฏิบัติงานของสํานักทะเบียนอําเภอ โดยเฉพาะการออกบัตรประจําตัวประชาชนให้เป็นไปอย่างรอบคอบและถูกต้อง”
โดยให้มีการกําหนดแนวทางการปฏิบัติงานของนายทะเบียนหรือผู้ช่วยนายทะเบียนอําเภอในกรณีที่ต้องปฏิบัติงานอื่นๆ ในพื้นที่
ควบคู่ไปกับงานให้บริการประชาชนที่สํานักทะเบียนอําเภอเพื่อป้องกันการนํารหัสของนายทะเบียน หรือผู้ช่วยนายทะเบียนไปใช้ในทางทุจริต