xs
xsm
sm
md
lg

มท.- ผู้ตรวจฯ จับมือลงนาม MOU เดินหน้ายกระดับการบริการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ปชช.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รมว.มท.- ปธ.ผู้ตรวจการแผ่นดิน จับมือลงนาม MOU เดินหน้ายกระดับการบริการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ปชช. ยกเป็นวันประวัติศาสตร์ มุ่งให้ศูนย์ดำรงธรรมทำเพื่อประโยชน์สูงสุด ปชช.

วันนี้ (26 ธ.ค.) เวลา 09.00 น. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มท. พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ร่วมเป็นประธานสักขีพยานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกระทรวงมหาดไทย กับ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และการประชุมชี้แจงเกี่ยวกับคู่มือการรับ-ส่งเรื่องร้องเรียน โดย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น พ.ต.ท กีรป กฤตธีรานนท์ เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นผู้ลงนาม โดยมี การถ่ายทอดสดผ่านระบบการประชุมทางไกลไปยังศาลากลางจังหวัด 76 จังหวัด และที่ว่าการอำเภอ 878 อำเภอ

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า รัฐธรรมนูญ 2560 บัญญัติถึงหน้าที่และอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดินในการขจัดความเดือดร้อน หรือความไม่เป็นธรรมให้กับประชาชน และเสริมสร้างธรรมาภิบาลให้เป็นที่ปรากฏ มุ่งมั่นในการกำจัดความเดือดร้อน หรือความไม่เป็นธรรม ให้กับสังคมตามเจตนารมณ์แห่งรัฐธรรมนูญ โดยจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการบูรณาการการทำงานร่วมกัน เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งกระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนโดยศูนย์ดำรงธรรม จึงเป็นที่มาของการจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกระทรวงมหาดไทยกับสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และการประชุมชี้แจงเกี่ยวกับคู่มือการรับส่งเรื่องร้องเรียน ของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยมุ่งหวังว่ากิจกรรมในวันนี้จะเป็นการสร้างความร่วมมือของเครือข่ายในการทำงานร่วมกัน เพื่อขจัดหรือระงับความเดือดร้อน หรือความไม่เป็นธรรมให้กับประชาชน โดยการประสานส่งต่อและเชื่อมโยงข้อมูลเรื่องร้องเรียนที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดินกับศูนย์ดำรงธรรมโดยมีแพลตฟอร์มกลางเชื่อมโยงฐานข้อมูลดิจิทัลและการส่งต่อเรื่องร้องเรียนระหว่างกัน ซึ่งเป็นฟันเฟืองที่สำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาทุกข์ร้อนของประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

“วันนี้จะเป็นประวัติศาสตร์ที่ได้มีการร่วมมือกันระหว่างสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินและกระทรวงมหาดไทย ในการที่จะดูแลแก้ไขความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ดังคำขวัญของกระทรวงมหาดไทยที่สะท้อนถึงภารกิจของข้าราชการฝ่ายปกครองที่เป็นที่ทราบกันดี คือ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” โดยทุกข์ที่สำคัญของพี่น้องประชาชนประการหนึ่ง คือ ความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมอันเนื่องมาจากหน่วยงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยต้องขอชื่นชมกระทรวงมหาดไทยและกรมการปกครองในช่วงที่ผ่านมาที่ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขความเดือดร้อนความไม่เป็นธรรมของพี่น้องประชาชนผ่านศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ภายใต้การนำของท่านพลเอก อนุพงษ์ ที่ได้เน้นย้ำนโยบายให้กับผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนางานของศูนย์ดำรงธรรมอำเภอและศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดในฐานะที่จะเป็นหน่วยแรกที่เป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมเป็นรูปธรรม นับถึงวันนี้ “ศูนย์ดำรงธรรม” คือ หน่วยงานแรกที่พี่น้องประชาชนในทุกหมู่บ้าน/ชุมชนจะไปขอความช่วยเหลือ โดยสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินขออาสามาเติมเต็ม มาช่วยสนับสนุนงานกระทรวงมหาดไทยเพื่ออุดช่องว่างและแก้ไขกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง เพื่อให้การดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน”

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอทั่วประเทศ ที่ได้เป็นผู้นำในการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ของประชาชนที่ได้ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งกระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับประชาชน โดยมีศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ เป็นหน่วยงานที่ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ให้บริการประชาชนทั้ง 7 มิติ ทั้งการรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ บริการ One Stop Service งานบริการส่งต่อ การบริการข้อมูลข่าวสาร การรับข้อเสนอแนะและให้คำปรึกษา การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า และการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล โดยตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. 57 จนถึงปัจจุบัน สามารถแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนแล้วเสร็จกว่า 74 ล้านเรื่อง คิดเป็นร้อยละ 99.91 อย่างไรก็ตามในสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทำให้เกิดปัญหาเรียกร้องเรียนที่ซับซ้อนที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น ศูนย์ดำรงธรรมและสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งมีภารกิจหลักในการรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ จึงมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการแนะนำประชาชนหรือส่งต่อเรื่องร้องเรียนที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อดำเนินการต่อโดยมีความมุ่งหวังให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลและบริการได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์ ครอบคลุมทุกพื้นที่และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น และเป็นกลไกสำคัญในการสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับประชาชน


กำลังโหลดความคิดเห็น