มาตามนัด รทสช.เปิดตัว 3 สมาชิกวีไอพี “ไตรรงค์-ชุมพล-ชัช เตาปูน” ลั่นไม่มีใครมีบารมี-เหมาะเป็นนายกฯ เท่า “บิ๊กตู่” ยัน รทสช.ไม่ใช่ ปชป.สาขาสอง “ชุมพล” ยังกั๊กลูกสาวย้ายตามหรือไม่ บอกลูกขอทำหน้าที่ ส.ส.จนครบวาระ
วันนี้ (27 ธ.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดตัว 3 Vip เป็นสมาชิกพรรค ประกอบด้วย นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายชุมพล กาญจนะ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ 7 สมัย และ 3. นายชัชวาลล์ คงอุดม หรือ ชัช เตาปูน อดีตประธานที่ปรึกษาพรรคพลังท้องถิ่นไท โดยทั้ง 3 คน ได้ลงนามเป็นสมาชิกพรรค รทสช. โดย นายพีระพันธุ์ ได้ทำการสวมเสื้อพรรคอย่างเป็นทางการ
โดย นายพีระพันธุ์ กล่าวต้อนรับว่า ในนามของคณะกรรมการบริหารพรรคและเพื่อนๆ น้องๆ รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านผู้อาวุโส ทั้งทางการเมืองและที่มีความรู้ความสามารถมีประสบการณ์มาร่วมงาน เพื่อเป็นประโยชน์กับชาติบ้านเมืองได้ตัดสินใจที่จะมาร่วมทำงานการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และเป็นพี่เลี้ยงให้กับพวกเราพรรครวมไทยสร้างชาติ ชื่อก็บอกว่า เราต้องการรวมคนที่มีความตั้งใจทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองด้วยกัน และเราก็มีแนวทางที่ว่าการเมืองต่อไปจะต้องเป็นการเมืองของคนทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่หรือคนรุ่นเก่า ที่ต้องมาช่วยกันนำความรู้ความประสบการณ์ในอดีตรวมถึงแนวทางความคิดของคนรุ่นใหม่มาร่วมกัน ที่ผ่านมา พวกเราได้รับการติดต่อและได้รับความสนใจจากนักการเมืองในอดีตและปัจจุบัน รวมถึงคนรุ่นใหม่ ทั้งนี้ ในนามของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ขอขอบคุณทั้ง 3 ท่าน ที่มาร่วมงานกับพวกเราเพื่อทำให้ชาติบ้านเมืองเดินไปข้างหน้า
ด้าน นายไตรรงค์ กล่าวให้เหตุผลในการเข้าร่วมพรรค รทสช. ว่า ตนก็ตื่นเต้น เพราะว่าส่วนตัวของตน ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เพราะใครๆ ก็ต้องการมีลมหายใจของตัวเอง ไม่ต้องเกรงใจใคร ซึ่งการแสดงความคิดเห็นของตน ก็มั่นใจ มีคนสนใจอยู่เยอะ และมี 7-8 พรรค ที่อยากให้ตนไปร่วมงาน เพราะตนมีประสบการณ์ในการทำงาน ซึ่งนายกฯตั้งตนเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ซึ่งตนก็ยินดีมากที่ท่านได้เชิญตนไปพบ ว่า ขอให้มาเป็นที่ปรึกษาฯ เพราะมีประสบการณ์เยอะ และมีอะไรท่านก็จะได้สอบถามตนได้ ตนก็ตอบตกลงท่านไปว่ายินดี เพราะตนยังพอไหว แต่ตั้งตนไม่ต้องการรับเงินเดือน เพราะไม่อยากเป็นขี้ปาก ตนจึงขอไม่รับเงินเดือน ซึ่งนายกฯก็ตั้งตนเป็นที่ปรึกษานายกฯ ด้านเศรษฐกิจ แบบไม่รับเงินเดือน แต่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในตำแหน่งให้ไปเบิกที่สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็เป็นความกรุณาของนายกฯ แต่ตนตั้งใจว่าจะไม่เบิก จะขอใช้เงินส่วนตัวเพื่อไม่ให้ใครมาระแวงว่าตนจะไปเบิกเงินเรื่องส่วนตัว ไม่อยากมานั่งโต้เถียงกับเรื่องไร้สาระ หลังจากเป็นที่ปรึกษานายกฯ ตนก็ได้พูดคุยกับนายกฯเป็นการส่วนตัวหลายครั้งมากกว่า 2 ครั้ง จนในที่สุดเรามีความเห็นตรงกันหลายเรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องของประชาชนและประเทศชาติ
นายไตรรงค์ กล่าวต่อว่า วันนี้ตนจะไม่พูดเยอะ เพราะเคยเป็นโฆษกรัฐบาลมา 8 ปีแล้ว จึงรู้ว่าเวลาข่าวมีค่า ซึ่งความทุกข์ของตนและนายกฯจะต้องแก้ไขภายใน 2 ปี สำหรับประเทศนี้ จึงเห็นว่า นายกฯ น่าสงสาร ท่านไม่รู้จะระบายกับใคร ตนจึงเข้าใจว่า ทำไมท่านจึงตั้งตนเป็นที่ปรึกษานายกฯ ย้ำว่า ท่านไม่มีเรื่องส่วนตัว มีแต่เรื่องของประชาชนและ และประเทศชาติ ความทุกข์ของนายกฯรวมกับตนมี 3 เรื่อง ที่จะต้องมีคนจัดการให้กับประเทศนี้โดยเร่งด่วน เพราะไม่เช่นนั้น มันจะยากเกินแก้ปัญหาแรก คือ 1. จะต้องปัดกวาดประเทศนี้ให้มีความสะอาด ประเทศเราเริ่มสกปรกเยอะมากมีการทุจริตคอร์รัปชัน ทุกวงการมากกว่าในอดีตมาก ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่นเมื่อก่อนเลวร้ายเก็บ 10-20% แต่ตอนนี้เก็บ 40-50% เราจะต้องแก้ไขกฎหมาย เช่น เรื่องตู้ห่าว ชนตอ หรือไม่จะจบเรื่องนี้ยังไง ย้ำว่าปัญหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน นายกฯ เป็นทุกข์มาก 2. จะต้องแก้ปัญหาความยากจน คนพวกนี้อยู่ในที่มืดต้องหาแสงสว่างให้กับเขา เพราะเขามีรายได้ไม่พอที่จะดำรงชีพ รัฐจะต้องช่วยคนกลุ่มนี้ และ 3. จะต้องดูแลบ้านเมืองให้เกิดความสงบ ปฏิรูปการศึกษาให้เด็กรุ่นใหม่เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ไม่ให้มีการใช้ซูเปอร์เพาเวอร์มาปั่นหัวเด็ก ทำให้เกิดความไม่สงบในสังคม เรื่องเหล่านี้ต้องทำภายใน 2-3 ปี นายกฯอยู่ได้อีก 2 ปี จะต้องเร่งทำ
นายไตรรงค์ กล่าวอีกว่า ย้ำว่า พรรค รทสช,ไม่ใช่ประชาธิปัตย์สาขาสอง พรรคไม่มีสาขา ไม่ใช่ธนาคาร ไม่ใช่เซเว่น พรรคการเมืองมีศักดิ์ศรี และจุดยืนของตัวเอง แต่อุดมการณ์อาจจะใกล้เคียงกัน เพื่อให้เกิดความมั่นคง สำหรับพวกเราในการที่จะผลักดันนโยบาย แก้ปัญหาประเทศใน 3 ด้าน คือ สะอาด สว่าง และสงบ ทั้งนี้ ช่องที่ดูขณะนี้ยังไม่มีใครมีบารมี ซื่อสัตย์สุจริตนอกจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่จะปฏิรูปประเทศให้เป็นจริง ซึ่งเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกฯ ครั้งนี้ ไม่ต้องเกรงใจหน้าอินทร์หน้าพรหมแล้ว ต้องปราบทุจริตคอร์รัปชัน
ด้าน นายชัชวาลล์ กล่าวถึงเหตุผลที่ย้ายพรรคต้องการทำนโยบายให้เด็กเรียนหนังสือฟรีจนถึง ดร. เพื่อที่จะต้องการผลักดันนโยบายให้นำไปสู่การปฏิบัติควรจะต้องมาจับสัมผัส จึงต้องมารวมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ รวมถึงนโยบายเรื่องการทำบ่อนกาสิโนให้ถูกกฎหมาย แก้ปัญหาความยากจน
ขณะที่ นายชุมพล กล่าวว่า ตนให้อยู่ในท่ามกลางบรรยากาศเดิมๆ เมื่อหลังปีก่อน และไม่ได้เจอบรรยากาศแบบนี้มาหลายปีแล้ว เคยเป็นผู้แทนมาหลายสมัย และวันนี้ลูกสาวก็เป็นผู้แทน การที่มาอยู่จุดนี้ ทำให้ตนมีความสุขที่จะทำให้คนรุ่นใหม่และรุ่นเก่าผลักดันนโยบาย ทั้งนี้ ตนได้ชื่นชอบนายกฯเป็นการส่วนตัว ถ้าผู้นำมือไม่สะอาดประชาชนจะหวังอะไรได้ วันนี้เราสรรหาคนที่เป็นผู้นำที่จะเป็นคนใจซื่อมือสะอาด ตนติดตามดูนายกฯคนนี้มาหลายปีแล้วท่ามกลางวิกฤตบ้านเมืองจนไม่เหลืออะไรนายกฯคนนี้เข้ามากอบกู้ไปได้มากพอสมควร งานที่คั่งค้างอยู่หลายอย่างมั่นใจว่า นายกฯจะทำสำเร็จ เพื่อนำความสุขไปสู่ประเทศชาติวันนี้ต้องขอบคุณน้องๆ ที่จะนำแนวคิดเหล่านี้เดินไปข้างหน้า เหนื่อยไปด้วยกัน
เมื่อถามถึง น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ จะมาเข้าร่วมพรรครวมไทยสร้างชาติด้วยหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า เขาเป็น ส.ส.สมัยแรก มีความคิดความอ่านของเขา สามารถที่จะตัดสินใจได้อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งขณะนี้เขาบอกว่า ขอทำหน้าที่ ส.ส.จนครบวาระ ส่วนจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขา ส่วนในอดีตที่เป็นคู่แข่ง นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งถือเป็นแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นั้น นายชุมพล กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ผู้ใหญ่พาไปทานข้าวที่บ้านตนแล้ว ยืนยันไม่มีอะไรต้องเคลียร์ใจ เพราะมีการพูดคุยกันเรื่องบ้านเรื่องเมืองอย่างเดียว ยืนยันว่า ไม่มีการฮั้วการเลือกตั้งแบ่งเขตแบ่งคนละครึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นเรื่องของประชาชน