xs
xsm
sm
md
lg

เปิดวีรกรรม"พลับ" นาวาตรี พลรัตน์ สิโรดม ต้นเรือ "เรือหลวงสุโขทัย" หัวใจเพชร ** “ลุงตู่” กินข้าวกันเถอะ!! ส.ส.ที่จะเข้า “รวมไทยสร้างตู่” จะได้อุ่นใจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**เปิดวีรกรรม"พลับ" นาวาตรี พลรัตน์ สิโรดม ต้นเรือ "เรือหลวงสุโขทัย" หัวใจเพชร

จากเหตุเรือหลวงสุโขทัยของกองทัพเรือ จมลงใต้ผิวน้ำห่างจากฝั่ง 16 ไมล์ทะเล ในพื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. ของวันที่18 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏว่า จากกำลังพลบนเรือ105 นาย สามารถให้การช่วยเหลือได้แล้ว 76 นาย และสูญหายไปกว่า 29 นาย ซึ่งต่อมาพบเพิ่มอีก 7 นาย แต่ในจำนวนนี้เสียชีวิต 6 นาย

นับเป็นวันที่คนไทยที่ติดตามส่งกำลังใจช่วยกำลังพลที่ประสบเหตุ เศร้าสลดเป็นอย่างยิ่ง ก็ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวทหารเรือผู้สูญเสีย มา ณ ที่นี้ด้วย

โดยปฏิบัติการค้นหากำลังพลนายอื่นๆ ยังดำเนินต่อไป ท่ามกลางคนบนโลกโซเชียลฯ ต่างภาวนาขอให้เกิดปาฏิหาริย์ ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยดลบันดาลให้ทุกคนที่เหลือ รอดปลอดภัย

เหตุการณ์ครั้งนี้ ถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ที่กองทัพเรือต้องถอดบทเรียน โดยเฉพาะกำลังพลทุกคนบนเรือถือเป็นบุคลากรที่มีค่า ที่ไม่ควรจะเกิดเหตุในทำนองนี้เลย

ประเด็นที่ญาติๆ สงสัย สังคมตั้งข้อสังเกต ไม่ว่าความพร้อมของเรือ เสื้อชูชีพ ไม่เพียงพอ รวมไปถึงสาเหตุที่แท้จริงของการล่มจมลงใต้ผิวน้ำเกิดขึ้นได้อย่างไร ต้องมีคำตอบที่ชัดเจน

วกกลับมาในส่วนของกำลังพลที่สูญหายของเรือหลวงสุโขทัย พบว่า หนึ่งในนี้มีรายชื่อของ "ว่าที่ นาวาตรี พลรัตน์ สิโรดม" ตำแหน่งต้นเรือ ของเรือลำนี้รวมอยู่ด้วย

“ว่าที่ นาวาตรี พลรัตน์ สิโรดม” หรือเพื่อนๆ และนักเรียนเตรียมทหารรุ่น50 เรียกว่า "พลับ" นั้นต้องถือว่าเป็นกำลังพลสำคัญผู้หนึ่ง โดยเขาเป็นบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของ "บิ๊กหนุ่ย" พล.ร.อ.พลวัฒน์ สิโรดม อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ และอดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม

จากคำบอกเล่าของเพื่อนๆ “นาวาตรี พลรัตน์” เป็นที่ยอมรับของเพื่อนๆว่า ทั้งเก่งและดี ทำหน้าที่บนเรือหลวงสุโขทัย ด้วยความภาคภูมิใจโดยยึดถือทุกคนบนเรือเป็นครอบครัวเดียวกัน

ขณะที่เพื่อนเตรียมทหารใช้ชื่อใน เฟซบุ๊ก“Kritsada Sripariyuth” ได้โพสต์เล่าการทำหน้าที่ของ ว่าที่นาวาตรี พลรัตน์ หรือ พลับ ความว่า...

"ถึง พลับ เพื่อนรัก...

เรื่องราวที่มึงทำในทะเล กูขออนุญาตเล่าให้เพื่อนๆได้รู้ก่อนนะ ... ทุกข้อมูลทุกคำบอกเล่าจากกำลังพลเรือ.... ตร. พลับนำพาเราตั้งแต่ เรือยังเอียงมากๆ ทุกคนอยู่ในความหวาดกลัวให้เตรียมพร้อมครับ พอจังหวะที่ทุกคนลงในน้ำ ตร.และ นกว. สั่งการพาเราว่ายน้ำเป็นกลุ่มๆไปจนถึงเรือหลวงกระบุรีสำเร็จ โดยที่ต้นเรือพลับเอง ก็ลากพาจ่าตรีที่ไม่มีชูชีพ ไปด้วย และยังคงตะโกนสั่งให้ทุกคนขึ้นเรือไปอยู่ตลอดเวลา จนพวกเราส่วนมากขึ้นเรือได้ครับ...

นาวาตรี พลรัตน์  สิโรดม
เพื่อนรัก...มึงทำหน้าที่ในตำแหน่งที่มึงรักในเรือของเรา... ต้นเรือสุโขทัยได้ดีเยี่ยม หน้าที่ผู้บังคับบัญชาได้ดีเยี่ยม หน้าที่ของความเป็นมนุษย์ได้ดีเยี่ยม สมศักดิ์ศรีของพวกเราสามสมอ ศักดิ์ศรีนักเรียนเตรียมทหารรุ่น ๕๐ ศักดิ์ศรีนักเรียนนายเรือรุ่น ๑๐๗ อย่างดีที่สุด ... เรื่องราวนี้มันมีเกียรติที่ยศ ที่มึงไม่เคยต้องการ ที่มึงไม่เคยให้ความสำคัญกับคำชมเชยใดๆ มากกว่าผลสำเร็จของงาน...รอมึงอยู่นะเพื่อน...

...แค่ 30 ชม.เอง กูรู้ว่ามึงไหว เราออกรบกันมา 21 วันติดกัน...ไม่หลับไม่นอน เรายังผ่านมาแล้ว... เรื่องเล่ามึงเยอะแล้ว เพื่อน...รีบกลับมาหากู มาเล่าเรื่องนี้ให้กูฟังด้วยตัวเอง...กูรู้..ยังมีอีกเยอะที่กูยังไม่เล่า...มึงกำลังลอยช่วยเด็กๆอีกกลุ่มนึงอยู่ใช่มั้ย...มึงเป็นคนแบบนั้น...มึงไม่เคยทิ้งใครไว้ด้านหลัง...อดทนนะมึง...พวกเราไปหามึงแล้ว

#กูรู้ว่ามึงยังอยู่_มึงแข็งแกร่งเสมอมา

#คู่หู๑_๐สุโขทัย_มันจะยังไม่ใช่วันนี้

หลังโพสต์นี้เผยแพร่ออกไป สังคมและผู้คนบนโลกโซเชียลฯจำนวนมาก ต่างเข้ามาส่งกำลังใจ ขอให้ “พลับ”ต้นเรือหัวใจเพชรนายนี้ปลอดภัย พร้อมกับกำลังพลที่ยังหาไม่พบให้กลับมาโดยเร็ว และเราก็ขอร่วมภาวนาขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองทุกนายด้วยเทอญ



** “ลุงตู่” กินข้าวกันเถอะ!! ส.ส.ที่จะเข้า “รวมไทยสร้างตู่” จะได้อุ่นใจ
แม้บริบทในทางการเมือง กับท่าที และการกระทำหลายๆอย่างของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บ่งบอกว่าเลือกตั้งครั้งนี้จะแยกจาก “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพื่อไปใช้นั่งร้านใหม่ที่ “พรรครวมไทยสร้างชาติ”แน่
แต่เมื่อยังไม่ยอมพูดออกจากปากให้ชัดๆ บรรดาส.ส.ที่จะตามไปอยู่ด้วยก็ขาดความมั่นใจ กลัวว่า “ลุงตู่” จะเทในนาทีสุดท้าย เพราะในทางการเมืองอะไร อะไร ก็เกิดขึ้นได้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ดังนั้น ช่วงที่ผ่านมาจึงมี “ข่าวลือ” เกี่ยวกับพรรครวมไทยสร้างตู่ ออกมาเป็นระยะๆ เรื่องหลักๆ เลยก็คือ บรรดาส.ส.ที่จะตามไปเริ่มกระสับกระส่าย ขยับขยายไปติดต่อพรรคอื่นไว้เผื่อเหลือเผื่อขาด ... ขนาด“เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ที่ออกตัวชัดเจนว่าไปไหนไปกันกับ “ลุงตู่” ยังมีข่าวปล่อยออกมาว่า ทำท่าจะเปลี่ยนใจเสียแล้ว ...เพราะตั้งใจว่าจะไปเป็นเลขาธิการพรรค แต่ดันเจอ กลุ่ม กปปส. ประชาธิปัตย์เก่า ขวางอยู่ บอกตำแหน่งเลขาฯ เป็นของ “หนุ่มขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ไปแล้ว ไม่มีเปลี่ยนแปลง

ทำเอา“เสี่ยเฮ้ง” ต้องรีบออกมายืนยันว่า ไม่มีการทิ้ง “ลุงตู่”ไปไหนทั้งสิ้น เพราะตนเล่นการเมืองแบบให้ความสำคัญ ยึดมั่นในตัวบุคคลมากกว่าพรรค

ยังมีข่าวเรื่องนายทุนพรรค ภาคธุรกิจ ที่จะมาร่วมลงขันก็เริ่มมีท่าทีอิดออด เพราะการจะสนับสนุน“ลุงตู่” ก็รู้ๆ อยู่ว่าถึงได้เป็นนายกฯ ก็อยู่ได้แค่ 2 ปี แล้วจะคุ้มหรือไม่ หากแทงม้าตัวนี้

อย่างไรก็ตาม ยังมีข่าวปล่อยในเชิงบวกให้กับพรรครวมไทยสร้างตู่ อยู่บ้าง...อย่างเช่นข่าวที่ว่าเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา “ลุงตู่” ได้นัด 40 ส.ส.ไปกินข้าว ที่ร้านอาหารย่านซอยอารีย์ เพื่อพูดคุย สร้างความมั่นใจให้กันและกัน ...ยังมีข่าว “ชัช เตาปูน” ชัชวาลล์ คงอุดม ประธานที่ปรึกษาพรรคพลังท้องถิ่นไท ก็จะหอบหิ้วลูกทีมมาเข้าร่วม ...แต่ล่าสุด “ลุงตู่”ออกมาปฏิเสธแล้วว่า ไม่เคยไปกินข้าวกับใคร นักข่าวไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน

แต่สิ่งที่ “ลุงตู่” ทำให้เห็นเพื่อเป็นการส่งสัญญาณว่าเอาแน่ ไปต่อแน่ ก็คือการสลับตำแหน่ง ระหว่าง “ดิสทัต โหตระกิตย์” เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กับ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างตู่

พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค
คือเอา“ดิสทัต”ไปเป็นที่ปรึกษาฯ แล้วเอา “พีระพันธุ์” มาเป็นเลขานายกฯแทน ซึ่งก็เป็นที่รับรู้กันว่า ตำแหน่ง “เลขานายกฯ” นั้นมีอำนาจ บารมีเหมือน“นายกฯน้อย” หน้าที่ของเลขานายกฯ ต่างจากรัฐมนตรี เพราะมีทั้งเรื่องดูงบลับให้นายกฯ ประสานกับสภา ประสานกับมวลชน และประสานกับงานต่างประเทศ รวมทั้งดูแลด้านกฎหมายด้วย

แน่นอนว่าการตั้ง “พีระพันธุ์” ให้เป็นเลขานายกฯครั้งนี้ ย่อมมีเสียงวิพากวิจารณ์ตามมา ในเรื่องความได้เปรียบ เสียเปรียบในทางการเมือง เพราะเห็นชัดว่างานนี้เพื่อภารกิจการเลือกตั้งอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่อย่างว่าในทางการเมืองมีคำพูดที่ว่า “เพื่ออำนาจ อย่าไปอายกับวิธีที่ใช้” ใครจะว่าอย่างไรอย่าไปสน

และล่าสุดในการประชุมครม.เมื่อวานนี้ “ลุงตู่”ได้พูดกับบรรดารัฐมนตรี ถึงเรื่องการใช้งบกลาง ว่าต้องใช้อย่างระมัดระวัง เพราะใช้ไปเยอะแล้ว แต่รัฐบาลยังต้องอยู่อีก 3 เดือน ทำให้มีการตีความว่า เป็นการส่งสัญญาณจากนายกฯว่าจะไปยุบสภาในเดือนมีนาคมปีหน้า

ต้องจับตาว่า ในช่วงเวลา 3 เดือนที่เหลือนี้ “นายกฯและนายกฯน้อย”จะมีไม้เด็ดอะไรออกมาโชว์

แต่ที่แน่ๆ บรรดาส.ส.ที่จะไปเป็นนั่งร้าน ก็อยากจะให้“ลุงตู่” นัดกินข้าวโชว์สื่อ เหมือนที่“เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดตัวบรรดาส.ส.ที่มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา จะได้อุ่นใจว่าไม่โดนเทแน่




กำลังโหลดความคิดเห็น