เมืองไทย 360 องศา
แน่นอนว่าในวันที่16 ธันวาคม เชื่อว่าบรรยากาศที่พรรคภูมิใจไทยคงจะคึกคัก เนื่องจากมีการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.และมีอดีต ส.ส.ที่เพิ่งลาออกจากพรรคเดิมกันมาหมาดๆ มาร่วมสังกัด ซึ่งตามรายชื่อก็มีเกือบ 40 คน ถือว่าเป็น “ล็อตใหญ่” สั่นสะเทือนวงการ สามารถสร้างกระแสได้อย่างดี แต่ถึงอย่างไรก็ยังต้องติดตามกันไปอีกยาว
อย่างไรก็ดี ยังมีสิ่งที่ต้องจับตากันอีกเรื่องหนึ่งนั่นคือ ความเคลื่อนไหวของ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าจะตัดสินใจอนาคตทางการเมืองอย่างไรกันแน่ จะเข้าสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ หลังจากก่อนหน้านั้นไม่กี่วันก่อน เขาแสดงท่าทีค่อนข้างชัดเจนว่า “จะเข้าร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ” โดยกล่าวทำนองว่า “น่าจะรู้กันอยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้พูดออกมาเท่านั้นเอง” และเมื่อถูกถามย้ำหลายครั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็บอกว่าให้รอกลับจากการประชุม อาเซียน-อียู ที่ประเทศเบลเยี่ยม วันที่ 15 ธันวาคม แล้วค่อยมาว่ากัน ล่าสุดเขาก็เดินทางกลับมาถึงไทยแล้ว เมื่อตอนบ่ายวันดังกล่าว
สำหรับการเคลื่อนไหวของ “บิ๊กตู่” ที่บอกว่าต้องจับตาก็คือ การเปิดตัวผู้สมัครของหลายพรรคการเมือง เป็นไปอย่างคึกคัก ทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย หรือแม้แต่พรรคพลังประชารัฐ ที่แม้ว่าจะมี “เลือดไหล” ออกจำนวนมาก แต่ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งก็มีไหลเข้ามาไม่น้อย ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติ กลับแทบไม่มีอะไรคืบหน้าหรือชัดเจน อย่างน้อยก็ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ จนถึงกับมี “กองหนุน” มาเร่งเร้าให้ให้รีบดำเนินการให้ชัดเจน เนื่องจากหากปล่อยให้บรรยากาศเป็นแบบนี้ต่อไป จะไม่เป็นผลดีอะไรประมาณนี้
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า ขอบคุณความห่วงใยจากเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคน มีการปล่อยข่าวที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง จนทำให้หลายคนเป็นกังวลแทนพรรครวมไทยสร้างชาติ หลายคนกังวลแทนท่านนายกฯลุงตู่ ซึ่งเข้าใจได้ครับ ทั้งหมดเป็นเพียงการวิเคราะห์ของสื่อ ข่าวลือ ข่าวปล่อย จริงบ้างไม่จริงบ้าง เป็นธรรมดา แต่ขออนุญาตไขข้อข้องใจบางส่วนเพื่อคลายความกังวลของทุกท่านที่มีความหวังดีนะครับ
พรรคเราเป็นพรรคใหม่ ตั้งแต่ดำเนินการมาก็ค่อยๆ เติบโตขึ้นเรื่อยๆ มีเพิ่ม ไม่ค่อยมีลด ตามที่ข่าวได้นำเสนอมาก่อนหน้าครับว่าจะมีส.ส. ปัจจุบันจำนวนไม่น้อยจากพรรคต่างๆ มาร่วมงาน ซึ่งมาแน่ครับ แต่ยังไม่ได้ลาออกจากพรรคเดิมเท่านั้น นับแล้วจำนวนไม่น้อยเลยครับ จริงๆ สื่อก็ได้นำเสนอไปพอสมควร ที่ไม่ได้ปฏิเสธก็ตามนั้นแหละครับ
“ส่วนเรื่องลุงตู่ คงต้องถามท่านเอง ไม่ใช่ไปฟังตามที่สื่อไปพูดแทน หรือคนที่ไปปล่อยข่าวลือ ท่านเพิ่งจะพูดเองว่า ทุกคนก็ทราบดีอยู่แล้ว เหลือแต่ให้ออกมาจากปากท่าน ผมก็ทราบ แต่ไม่พูดเพราะรักษามารยาทนะครับ แต่ตัวผมคิดเอาเองว่า ท่านสร้างผลงานไว้มากมาย แก้ปัญหา ฝ่าวิกฤต จนวันนี้เศรษฐกิจเราจะฟื้นเร็วกว่าเพื่อน นักลงทุนจากต่างประเทศมองเราเป็นประเทศแห่งโอกาส และยังมีคนจำนวนมากที่เชียร์ให้ท่านสานต่อภารกิจจนสำเร็จ ไม่ว่าวาระท่านจะเหลือซักเท่าไหร่ก็ตาม 1 ปี หรือ 2 ปี ก็ทำได้ ยิ่งถ้าปรับแวดล้อมใหม่ เสริมทัพใหม่ มีคนสนับสนุนท่านแน่นอน ผมเชียร์ให้ท่านสู้ต่อนะครับ ท่านคงตัดสินใจแล้วก็เป็นได้ครับ แต่คงมีคิวในกำหนดการของท่าน ซึ่งจะประกาศในเวลาที่เหมาะสมให้ชัดแน่นอนต่อไปครับ”
ฟังจากคำพูดของ นายเอกณัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็เข้าใจได้ทันทีว่า “บิ๊กตู่มาแน่” เพียงแต่ว่า “รอจังหวะ” อยู่เท่านั้น พูดราวกับว่า “วงใน” มีการยืนยันกันไปแล้ว รวมไปถึงรับรู้กันในบรรดาส.ส.ที่จะย้ายเข้ามาสังกัด เพียงแต่ว่ายังไม่ถึงเวลา ซึ่งเขาย้ำว่า ส.ส.ที่จะมาทุกคนก็ยังเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวเมื่อถูกถามเรื่องนี้ เมื่อเดินทางกลับถึงประเทศไทยว่า วันนี้ตนก็พูดไปแล้ว การเมืองคือการเมือง การบ้านคือการบ้าน ประชาชนคือการบ้านที่ตนต้องทำให้เขา การเมืองก็เป็นการต่อสู้ในสภา ก็ว่ากันไป เมื่อเลือกตั้งมาแล้วท่านก็ไปดูเอาว่าที่พูดกันมา ที่ทำกันมา ทำได้มากน้อยเพียงใด
“ถึงเวลานั้นจะได้ หรือไม่ได้ ถ้าได้ผมก็ดีใจ ถ้าไม่ได้ก็เสียใจเท่านั้นเอง คำว่าเสียใจคือ ทำให้ประชาชนมีความสุขไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเสียใจเพราะผมได้เป็น หรือไม่ได้เป็น เข้าใจนะ ฉะนั้นอย่าถามกันบ่อยนัก ใครจะไป ใครจะมา ใครจะลาออก ใครจะไปอยู่พรรคไหน ก็เรื่องของเขา เรื่องของสภา สภาไม่พอ สภาล่มโทษนายกฯ ซึ่งผมก็บอกไปแล้ว สั่งทุกพรรคไปแล้วให้ไปร่วมประชุมสภา เขาก็ตอบรับว่า ครับๆๆ ถึงเวลาไปไม่ครบนายกฯ ทำไมไม่ควบคุม ผมไม่โทษใคร ผมไม่โกรธใครอยู่แล้ว แต่อยากให้ประชาชนเข้าใจว่า ทุกคนมีหน้าที่มีความรับผิดชอบ ซึ่งทุกคนบอกว่านายกฯ มีหน้าที่ มีความรับผิดชอบต้องดูแลบ้านเมือง ฉะนั้นส.ส.ทุกคนก็มีหน้าที่ของตัวเองในการทำงานในสภา เป็นผู้ใหญ่แล้ว โตกันหมดแล้ว อีกเรื่องใครจะเข้า ใครจะออกพรรคไหน ก็เรื่องของท่าน ผมไม่เคยทะเลาะกับใครนะ โอเค เท่านี้แหละ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ถามว่า แล้วเรื่องของนายกฯ ว่าอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามอย่างมีอารมณ์ว่า แล้วอะไรอีกล่ะ เมื่อถามว่ากระแสข่าวที่จะไปสังกัดพรรคใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยเสียงดังว่า ก็อยู่กันถึงวันนี้ ยังไม่รู้เรื่องเลยหรือไง เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามที่จะถาม คือความชัดเจนของนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ รีบกล่าวสวนทันทีว่า คืออะไร เมื่อถามอีกว่าคืออยากฟังจากปากของนายกฯเอง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คิดเอาเองบ้าง เพราะทุกทีเวลาคิดเอาเอง เขียนเอาเอง ยังคิดได้
เมื่อถามว่าเรื่องนี้สำคัญ จะให้สื่อฯคิดเอาเองไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ เดินออกจากโพเดียมพร้อมกล่าวว่า ถึงเวลาก็พูดเอง เมื่อถามว่าแล้วเวลานั้น คือเวลาไหน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบ เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าเป็นไปตามที่เป็นข่าวใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ รีบเดินขึ้นรถทันทีโดยไม่ตอบคำถามแต่อย่างใด
สรุปก็คือ ในคำพูดดังกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ได้พูดแบบยืนยันชัดเจน เพียงแต่ให้ตีความทำความเข้าใจตามท่าทีเท่าที่เห็นว่า “ไปพรรครวมไทยสร้างชาติแน่” เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลาพูดเท่านั้นเอง อย่างไรก็ดี หากพิจารณากันตามความเป็นจริงก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี จากพรรคพลังประชารัฐ
ดังนั้น ในทางมารยาทการจะเปิดตัวเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติในเวลานี้ก็คงยังไม่เหมาะ อาจต้องรออีกสักระยะหนึ่ง ซึ่งหลายคนมองว่า น่าจะเป็นช่วงต้นปี อย่างน้อยก็ต้องรอให้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญสองฉบับ ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งมีผลบังคับใช้เสียก่อน และตามขั้นตอนน่าจะเป็นช่วงต้นปีหน้า จากนั้นก็น่าจะยุบสภา แล้วมีการเลือกตั้งในราวเดือนมีนาคม ทุกอย่างน่าจะออกมาตามนี้ ถือว่า วิน วิน กันทุกฝ่าย !!