xs
xsm
sm
md
lg

“มิ่งขวัญ” ฝันล่ม วืดแคนดิเดต-ทีม ศก.!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ - พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
เมืองไทย 360 องศา

ไม่ทันข้ามคืนก็ทำท่า “สวรรค์ล่ม” เสียแล้ว สำหรับ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ที่เพิ่งเปิดตัวกับพรรคพลังประชารัฐ ไปเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ที่ผ่านมา ด้วยฟอร์มที่ดูแล้วยิ่งใหญ่อลังการ เพราะในวงแถลงข่าววันนั้น มีทั้ง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย แกนนำพรรค และกลุ่มก๊วนต่างๆ เกือบจะครบครัน จนดูเหมือนกับว่า “ราคา” ของเขานั้นสูงลิ่วเลยทีเดียว

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านั้น ก็มีความรู้สึก “ทะแม่งๆ” กันพอสมควร ตั้งแต่แรกที่เริ่มปล่อยข่าว ว่า นายมิ่งขวัญ จะมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ทำนองว่า ถูกทาบทามให้มาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ แต่เมื่อถาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เรื่องนี้ กลับได้รับคำตอบว่า “ไม่รู้ๆ” ยังไม่ทราบอะไรประมาณนั้น
จนกระทั่งในวันเปิดตัว ที่พรรคพลังประชารัฐ จะเป็นเพราะ “ผิดคิว” หรือเป็นเพราะบรรยากาศพาไป หลังจากมีบรรดาระดับขาใหญ่ในพรรคมาร่วมการแถลงเปิดตัว จนอาจเคลิ้มไปว่า “สำคัญ” ถึงกับประกาศสถาปนาตัวเองเป็นหนึ่งใน “แคนดิเดตนายกฯ” ตีคู่ไปกับ “บิ๊กป้อม” เลยทีเดียว ทำเอาเหวอกันทั้งพรรค
แค่นั้นยังไม่พอ ยังประกาศ “ตัดเยื่อใยกับบิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยคำพูดที่ชัดเจนในวันนั้น ว่า “ต้องฝากไปบอก พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยว่า ผมไม่สามารถร่วมอุดมการณ์กับท่านด้วยได้” เรียกว่า แค่คำพูดคำนี้คำเดียวทำเอาสะดุ้งกันทั้งพรรค เพราะนั่นเท่ากับว่า เป็นการประกาศอยู่ตรงกันข้ามเป็นครั้งแรก ในฐานะว่าที่ว่า “แคนดิเดตนายกฯ” คนใหม่ของพรรคพลังประชารัฐ
ส่วนพวกที่นั่งไม่ติด เชื่อว่า คงมีหลายคน ไม่ใช่เฉพาะแค่ ส.ส.ภาคใต้ และในกรุงเทพมหานคร ที่ต้องพึ่งพา “กระแสลุงตู่” จนถึงขนาดมีการคิดคำว่า “รักลุงตู่ แต่อยู่กับลุงป้อม” ดังนั้น เมื่อมีการ “หักมุม” กลายเป็นตรงกันข้ามแบบนี้ มันก็ต้องรีบตัดไฟแต่ต้นลมก่อนที่จะเสียหายจนกู่ไม่กลับ
ปฏิกิริยาที่เห็นชัดในกลุ่ม ส.ส.ภาคใต้ ก็คือ นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะกรรมการบริหารพรรค กล่าวถึงการแถลงข่าวของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ พร้อมเสนอขอร่วมเป็นหนึ่งในรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคพลังประชารัฐ ในระหว่างการเปิดตัวเข้าร่วมทำงานกับพรรค เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่า ในฐานะกรรมการบริหารพรรค ต้องดำเนินการตามขั้นตอน ตามกลไกของพรรคที่ต้องผ่านความเห็นชอบของที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค และ ส.ส.ของพรรค ทั้งการสรรหาผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การเรียงลำดับบัญชีรายชื่อ และระบบบัญชีรายชื่อและบุคคลที่จะเป็นแคนดิเดตของพรรคพลังประชารัฐด้วย ทั้งหมดนี้จะต้องมีการระดมความคิดเห็นและต้องผ่านการประชุม เสียก่อน การแถลงข่าวของนายมิ่งขวัญ จึงเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นของนายมิ่งขวัญ เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นในการแถลงข่าวจึงไม่ได้ผูกพันอะไร

“การที่มิ่งขวัญเสนอตัวว่าจะเข้ามาทำอะไรบ้าง ถือเป็นเรื่องปกติ มองเป็นการตลาดของนายมิ่งขวัญ ถือว่าเข้าเป้า และขายได้ แต่ไม่ได้เป็นข้อผูกมัดต่อพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งยังไม่ถึงเวลาและมีกลไกที่จะต้องประชุมพิจารณา ทั้งนี้ ผมได้สอบถาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็บอกว่า ยังไม่ถึงขั้นตอนของการที่จะบอกว่า ใครอยู่ในลิสต์ ของบุคคลที่ถูกเสนอชื่อ ตอนนี้กำลังปวดหัวว่า มีคนเสนอตัวเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคจำนวนมาก จึงต้องมีการคัดสรร” นายรงค์ กล่าว

เมื่อถามว่า ส่วนที่ นายมิ่งขวัญ ระบุว่า เข้ามาอยู่พรรคเพราะ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะไปอยู่พรรคอื่นนั้น นายรงค์ กล่าวว่า ในความเห็นส่วนตัวเห็นว่า นายมิ่งขวัญ เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ แต่พอเข้ามาแล้วบอกว่าไม่เอา “ลุงตู่” อย่างนี้ไม่ดีกับพรรค และถ้าประกาศเช่นนี้ภาคใต้ไม่ได้คะแนนเสียงแน่นอน และคนที่จะเสนอตัวมาเป็นผู้บริหาร หรืออยู่ในบัญชีรายชื่อ ที่จะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องนิ่ง มีบารมี หนักแน่น และต้องรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน

สำทับมาด้วย นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ และ รองผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ที่อาคารรัฐสภา ถึงกรณี นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ได้รับการเปิดตัวเข้าพรรคพลังประชารัฐ และกล่าวว่า ได้รับการเสนอเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

นายวีระกร กล่าวว่า เป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดของสมาชิกพรรค แต่นายมิ่งขวัญเองก็เป็นบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ เป็นประโยชน์ต่อพรรคแน่นอน แต่การที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จะต้องขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรคที่จะเป็นผู้พิจารณา ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรคเพียงคนเดียว และอาจจะต้องเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่สามัญของพรรคด้วยซ้ำไป

“ดังนั้น คงสร้างความแปลกใจให้กับสมาชิกในช่วงนี้ เพราะเป็นเรื่องใหญ่” นายวีระกร กล่าว
เมื่อพิจารณาจากท่าทีของระดับแกนนำพรรคพลังประชารัฐดังกล่าว ที่มีต่อการเปิดตัวของ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ทั้งในเรื่องแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ทำให้เห็นแนวโน้มแล้วคงจบลงในชั่วข้ามคืน เพราะยังไม่มีใครโอเค แม้แต่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ก็ยังบอกว่า ต้องให้ที่ประชุมพรรคพิจารณาก่อน จะตัดสินใจคนเดียวไม่ได้

แต่ที่สำคัญที่สุด ก็คือ น่าจะมาจากสาเหตุที่คำประกาศอย่างอหังการ ที่ว่า “ผมไม่อาจร่วมอุดมการณ์กับท่าน พล.อ.ประยุทธ์ ได้” หรือที่ว่า “ผมมาเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ไป” เพราะมันคือหายนะของ ส.ส.บางกลุ่ม โดยเฉพาะ ส.ส.ภาคใต้ ที่ก่อนหน้านี้ยอมรับว่า มาเพราะกระแสลุงตู่ จนที่ผ่านมามีการคิดคำว่า “รักลุงตู่ แต่อยู่กับลุงป้อม” มาก่อนหน้านี้ เพื่อรักษาคะแนนเสียงเดิมเอาไว้
ดังนั้น นาทีนี้สำหรับ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ มันก็เหมือนกับ “สวรรค์ล่ม” ในชั่วข้ามคืนกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะไม่ว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ดูตามรูปการณ์แล้ว ไม่มีทางเป็นไปได้ ซึ่งในวันหน้าก่อนถึงวันเลือกตั้งบางทีก็อาจได้เห็นการตั้งโต๊ะแถลงแบบเดียวกันนี้กับอีกพรรคหนึ่งก็เป็นไปได้ !!


กำลังโหลดความคิดเห็น