ข่าวปนคน คนปนข่าว
** “รวมไทยสร้างตู่” เปิด“3 วีไอพี” ดร.สามสี-ชัช เตาปูน-ชุมพล หลังปีใหม่ใส่เกียร์ห้า ไม่แกงนะจ๊ะ
ถือโอกาสสับเกียร์ห้า เดินหน้าเต็มตัว หลัง “แม่ทัพใหญ่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตอบรับเทียบเชิญ พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นแคนดิเดตนายกฯ พร้อมเตรียมสมัครเป็นสมาชิกพรรค ลุยการเมืองเต็มตัว เมื่อวัน 23 ธ.ค.65 ที่ผ่านมา
ก็ทำให้ พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ต้องขนานนามว่าเป็น “ค่ายลุงตู่” ดูคึกคักขึ้นผิดหู ผิดตา
จากเดิมที่ดูทรงๆ ไม่หวือหวา ก็ปรับเป้าทันควัน จากหวังแค่ 25 ที่นั่ง พอได้เสนอชื่อนายกฯในที่ประชุมรัฐสภา พรวดมาเป็น “หลักร้อย” ตามคำประกาศของ “เดอะขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค
ตามมาด้วย “นิด้าโพล” ปล่อยผลสำรวจความนิยมทางการเมืองไตรมาส 4 ปี 2565 ออกมา ก็เหมือนลูกเข้าเท้า เมื่อเรตติ้ง “ลุงตู่” ที่อาจจะไม่ได้ขยับมากนัก แต่ก็มากพอที่จะแซง “เสี่ยทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แห่งพรรคก้าวไกล ขึ้นมารั้งอันดับ 2 ในแง่บุคคลที่คนเชียร์ให้เป็นนายกฯ
แม้จะยังห่างไกลจ่าฝูง “คุณหนูอุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร แห่งพรรคเพื่อไทย อยู่เกินเท่าตัว แต่แค่นี้ก็ทำให้ “กองเชียร์ลุงตู่” กระชุ่มกระชวยหัวใจได้แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ในส่วนของพรรคการเมืองที่คนสนับสนุน ก็เป็นว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เคยมีแต้มต่ำเตี้ยเรี่ยดิน 0.44% เมื่องวดก่อน ก็ทะยานขึ้นมาที่ 6.95% วัดอัตราส่วนแล้วไม่รู้กี่เท่า ต่อกี่เท่า
สำคัญกว่านั้น ที่เคยถูกปรามาสเป็น “ปชป.สาขา 2” ก็ดันมีแต้มแซงสาขาหลักอย่าง “ค่ายสะตอ” พรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นมายืนเด่นเป็น “ท็อปทรี” ของพรรคการเมืองในโพลนี้เสียด้วย
ไม่เพียงแค่นั้น “เลขาฯขิง” ยัง “ขิง” ใส่อีกด้วยว่า นิด้าโพลรอบนี้สำรวจก่อนที่“ลุงตู่” จะประกาศความชัดเจนเสียด้วยซ้ำ หากสำรวจรอบใหม่เชื่อแน่ คะแนนพุ่งกว่านี้อีกแยะ เพราะ “โพลพรรค” ที่ทำล่าสุดก็เหนือกว่า นิด้าโพล มากกว่าเท่าตัวแล้ว
“เอกนัฏ”ยัง “ขิง” ต่ออีกว่า น่ากลัวว่าหลังจากนี้จะมี “บิ๊กเนม” แห่เข้าพรรคอีกเพียบ แต่ในฐานะ “มวยหลัก” เชื่อว่า บริหารจัดการ แบ่งบทบาทหน้าที่กันได้
ตามประสาอะไรๆ กำลังเข้าที่เข้าทาง ก็เลยจัดคิวโชว์ขาเข้ารับทิศทางลมทันที นัดเปิดตัวระดับ “วีไอพี” รวดเดียว 3 คน ที่ล้วนแล้วแต่เป็น “มือเก๋าทางการเมือง” ตั้งแต่ “ดร.สามสี” ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่ได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนหน้านี้
อีกราย “ชุมพล กาญจนะ” อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ 7 สมัย บิดา “ส.ส.จ๋า” วชิราภรณ์ กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ ในปัจจุบัน โดย “ชุมพล” เพิ่งยื่นใบลาออกจาก“ค่ายสะตอ” เมื่อ24 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อพ่อมา ลูกก็คงไม่พลาดมาสวมเสื้อรวมไทยสร้างตู่ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
และวีไอพีรายสุดท้าย “ชัช เตาปูน” ชัชวาลล์ คงอุดม ประธานที่ปรึกษาพรรคพลังท้องถิ่นไท ที่ย้ายตาม “เสี่ยเอ็ม” ชื่นชอบ คงอุดม บุตรชาย ซึ่งได้ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ มาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ก่อนหน้านี้แล้ว
แว่วว่าเปิดตัว “3 วีไอพี” รอบนี้ แค่อีเวนต์เลี้ยงกระแสก่อนหยุดยาวเทศกาลปีใหม่เท่านั้น ลุงส่งสัญญานหลังเปิดศักราชปีหน้าฟ้าใหม่ มีจัด “เต็มคาราเบล” กว่านี้แน่..ไม่แกงนะจ๊ะ.
**อยู่กับสื่อมาแปดปี ได้ฉายา“แปดเปื้อน” ลุงตู่ถึงกับเก็บทรงไม่อยู่ โวยประเพณีบ้าบอ ดิสเครดิตกันชัดๆ
ปีนี้ สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐมนตรีบางคน เพื่อสะท้อนภาพการทำงานในปี 65 ที่กำลังจะหมดลง โดย“รัฐบาลลุงตู่” ได้ฉายาว่า “หน้ากากคนดี” เพราะปีที่ผ่านมานี้ ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ภายใต้หน้ากากนั้นเป็นคนดีหรือไม่ มองไม่ออก...คล้ายๆ กับนโยบายทั้งหลายของรัฐบาล ที่พร่ำบอกว่าทำเพื่อประชาชนนั้น ที่จริงแล้วเพื่อประชาชน หรือเพื่อพวกพ้อง นักการเมืองกันแน่ สื่อเขาเปรียบเปรยไว้อย่างนั้น
ส่วน“ลุงตู่” ในฐานะนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ฉายา “แปดเปื้อน” ซึ่งไปโยงกับวาระ 8 ปี บนเก้าอี้นายกฯ... ถ้านับตาม “พฤตินัย”นั้นชัดเจนว่าครบแล้ว แต่ทาง “นิตินัย” ยังเสียงแตก ซึ่งที่สุดก็ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ ว่าครบหรือยัง จนศาลฯต้องสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ชั่วคราวระหว่างรอการวินิจฉัย ทำให้สังคมเคลือบแคลง สงสัยในตัว“ลุงตู่” ที่มักจะพูดว่าไม่ยึดติดอำนาจ ทุกอย่างทำเพื่อบ้านเมือง และประชาชน ไม่เอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง แต่เมื่อปัญหาใต้พรมถูกขุดคุ้ยขึ้นมา ในหลายๆเรื่องแม้จะไม่ถึงตัวนายกฯโดยตรง แต่คนใกล้ตัวยากจะปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง ทำให้สื่อมองว่า “ลุงตู่” ไม่ได้ใสสะอาด ผุดผ่อง อย่างภาพภายนอกที่เห็นๆกัน...ก็เลยเป็นที่มาของฉายา “แปดเปื้อน”
แน่นอนว่า “ลุงตู่” ซึ่งถือว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล เป็นไม้เบื่อไม้เมากับสื่อฯมาตลอด แม้บางครั้งจะพูดดี มี “นะจ๊ะ”ลงท้าย... แต่สื่อฯที่อยู่ทำเนียบฯ ซึ่งสัมผัสใกล้ชิดกันมา 8 ปี ย่อมจับได้ไล่ทัน ว่าตัวตนของลุงตู่นั้นเป็นอย่างไร
ในฐานะนายกรัฐมนตรี หัวหน้ารัฐบาล เมื่อถูกตั้งฉายาว่า รัฐบาลหน้ากากคนดี แล้วตัวเองยังได้ฉายาว่า “แปดเปื้อน” ลุงตู่ ก็ปรี๊ดแตก... เจอหน้านักข่าวก็เลยสวนกลับว่า “ประเพณีบ้าๆ บอๆอย่างนี้ไม่มี” นักข่าวเลยเปลี่ยนเรื่องถามว่า จะไปเป็นสมัครสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติเมื่อไร คราวนี้โดนตะคอกกลับมาว่า “ไม่มี ไม่รู้ ไม่ทราบ”...
ระบายออกมาแค่นี้ยังไม่หายเดือด “ลุงตู่” ยังไปฟ้องกับลูกน้อง นายทหาร ในที่ประชุมสภากลาโหมว่าโดนสื่อฯเจตนาดิสเครดิต!!
ในขณะที่“ลุงตู่”รับไม่ได้ แต่ฝ่ายตรงข้ามอย่าง “หมอชลน่าน” นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย บอกว่า โดนใจมาก เป็นฉายาที่เหมาะสม อย่าง “หน้ากากคนดี”หมายถึงสิ่งที่เห็น เสมือนเป็นคนดี แต่ที่เจอมา 8 ปี วิถีประชาธิปไตยถูกทำลายย่อยยับ เศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ วิถีสังคม ถูกปิดกั้นโอกาส ที่สำคัญคือ ใช้โอกาส 8 ปี ไปในลักษณะแปดเปื้อนทุกอย่าง ในการสืบทอดอำนาจ คงไว้ซึ่งอำนาจ ขอบคุณที่ช่วยกันสะท้อนภาพบอกว่า อย่าให้คนดีในสังคม ที่มีแต่หน้ากาก อย่าทำให้ภาคการเมืองแปดเปื้อน โดยแสวงหาประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง...
สำหรับรัฐมนตรีคนอื่นๆ ที่ได้รับฉายาในคราวนี้ อาทิ ...“ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ฉายา “ลองนายกฯ” ก็ไม่มีอะไรมาก คือได้ลองเป็นนายกฯ ตอน “ลุงตู่” ถูกศาลรธน. สั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ ไม่รู้ว่าลองแล้วติดใจหรืออย่างไร เลือกตั้งครั้งนี้เลยของเป็นแคนดิเดตนายกฯเองเลย ... ส่วน “วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี ได้ฉายา“เครื่องจักรซักล้าง” ที่คอยฟอกขาวในประเด็นข้อกฎหมายให้รัฐบาล และนายกฯ... ขณะที่ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ท รมว.มหาดไทย ฉายา “หน้าชัด หลังเบลอ”
ขณะที่“หมอหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้ฉายา “ภูมิใจดูด พูดแล้วดอย” หมายถึง ใช้วิธีติดเครื่องดูดส.ส.เข้าพรรค เตรียมเลือกตั้งครั้งใหม่ ส่วน “พูดแล้วดอย”นั้นหมายถึงสโลแกนพรรคที่ว่า “พูดแล้วทำ”นั้นไม่สำเร็จไปทุกเรื่อง อย่าเช่นนโยบายกัญชา ที่ตอนนี้กฎหมายกำลังค้างเติ่ง ติดดอย
เรื่องนี้ “หมอหนู” รู้แล้วก็ไม่ได้หัวฟัดหัวเหวี่ยง เจอนักข่าวถามรู้สึกอย่างไร ก็ได้แต่ยิ้มรับแล้วอธิบายว่า...เราไม่ได้ดูดเราเป็นพรรคการเมือง ถ้าเขาเห็นว่านโยบายของเราที่หาเสียงแล้วเกิดเป็นผลงาน ทำได้ เขาก็มาหาเรา เราไม่เคยปิดกั้น...ส่วนที่ว่าติดดอยนั้น “หมอหนู” พูดหยอกกลับว่า อยู่บนดอยก็อยู่บนที่สูง ปลอดภัยดี ก่อนชี้แจงว่า ร่าง พ.ร.บ.กัญชา ที่ค้างอยู่ในสภานั้น ติดเพราะคนอื่น ไม่ได้ติดที่พรรคภูมิใจไทย เพราะภูมิใจไทยส่งกฎหมายเข้าสภาเรียบร้อยแล้ว ผ่านกรรมาธิการเรียบร้อย เราทำทุกอย่างแล้ว ไม่มีอะไรที่ควรทำแล้วไม่ได้ทำ ถ้ามีอุปสรรค คนที่ทำให้เกิดอุปสรรคก็ต้องรับผิดชอบไป
โอกาสนี้ “หมอหนู” ถือโอกาสอวยพรปีใหม่ 2566 ไปถึงประชาชน “ขอให้สิ้นทุกข์สุขเกษมเปรมปรีดิ์ สวัสดีปีใหม่พี่น้องคนไทยทุกคน”
อีกคนที่ได้รับฉายาแบบแสบๆคันๆ แต่เจ้าตัวกลับชอบใจเสียอีก คือ “ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” รมว.ดิจิทัลฯ ที่ได้ฉายา “วันทอง 2 ป.” เพราะปันใจให้ทั้ง “ป.ประวิตร” และ “ป.ประยุทธ์” พอสองป. ต้องแยกทางกัน “ชัยวุฒิ” เลยตัดสินใจไม่ถูก ว่าจะหอบผ้าหอบผ่อนตาม ป.ประยุทธ์ไป หรือจะยังอยู่หอห้องเดิมกับ ป.ประวิตร... เปรียบเหมือน “วันทอง” นางในวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผน ที่“วันทอง”รักขุนแผน แต่แพ้ความดีขุนช้าง เลยตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกใครดี
“ชัยวุฒิ”ออกปากขอบคุณสื่อที่ยังคิดถึงกัน ส่วนฉายาที่ได้รับก็สะท้อนให้เห็นว่า ตนเอง รักและศรัทธาทั้งพล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร เมื่อมีโอกาสได้ทํางานร่วมกับทั้งสองท่าน ยิ่งทำให้เกิดความรัก ความผูกพัน ก็ต้องขอขอบคุณที่ทั้งสองท่านให้โอกาสดีดีอย่างนี้
ปกติแล้วสื่อจะตั้งฉายาให้ก็เฉพาะรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้น เมื่อใดที่เป็นรัฐบาลมาจากการยึดอำนาจ สื่อทำเนียบฯ ก็จะงดตั้งฉายาให้ “รัฐบาลลุงตู่” ก็เช่นกัน ช่วงแรกสื่อก็ไม่ได้ตั้งฉายาให้ เพิ่งมาตั้งเมื่อ 2-3 ปีหลัง แต่ “ลุงตู่” ก็มีอาการหัวร้อนทุกครั้ง ยิ่งปีนี้ ถึงกับหัวฟัดหัวเหวี่ยง เก็บทรงไม่อยู่ ...
ถ้ามีภูมิต้านทานแค่นี้ ก็พอเถอะ อย่าโดดลงไปเลยในสนามการเมืองน่ะ