xs
xsm
sm
md
lg

ผ่าคลื่นลมแรง “สนธิรัตน์” ลั่นสร้างอนาคตไทย ดีพอไปต่อ **16 ธ.ค.เปิดตัว “ภูมิใจไทย” ยุครีโนเวต สานฝัน “อนุทิน” นายกรัฐมนตรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**ผ่าคลื่นลมแรง “สนธิรัตน์” ลั่นสร้างอนาคตไทย ดีพอไปต่อ

ช่วงชุลมุนทางการเมืองที่ต่างก็เคลื่อนไหวเรียกเรตติ้ง อัปราคาตัวเอง ทั้งบรรดาพรรคน้อย-ใหญ่ และเหล่านักเลือกตั้งมืออาชีพ วันนี้มีข่าวย้ายค่ายเปลี่ยนโปรกันเป็นพรวน ขณะที่พรรคสร้างอนาคตไทย ที่มี “เฮียกวง” สมคิด จาตุศรีพิทักษ์-อุตตม สาวนายน และ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เป็นแกนนำ ก็มีกระแสสองสาย...ว่าด้วยดีลควบรวมพรรค และการย้ายออกของคนในพรรค ก่อเป็นคลื่นเข้ามากระทบฝั่ง “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย จึงจำต้องออกมาขานไข...

จากปากของ “สนธิรัตน์” นั่งยันนอนยันว่า พรรคยังเดินหน้าทางการเมืองเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พรรคไม่ได้มีปัญหาใดๆ และไม่ได้เป็นไปตามกระแสข่าวต่างๆ ที่พยายามปั่นกัน ที่เห็นนิ่งๆ นั่นเพราะพรรคกำลังปรับยุทธศาสตร์ ให้สอดรับกับสถานการณ์

สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์
ส่วนกรณีที่ว่า พูดคุยเจรจากับพรรคการเมืองอื่นเพื่อควบรวม ตอนนี้มีความคืบหน้าเป็นไปในทิศทางที่ดี ซึ่งคาดว่าจะเปิดเผยข่าวดีในเร็วๆ นี้

กรณีที่ “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” โบกมือลาไปอยู่พลังประชารัฐ ทั้งที่ได้รับมอบหมายให้เป็นประธานยุทธศาตร์ภาคใต้นั้น ถือว่าเป็นธรรมดาของการเมือง ที่ก็หมุนเปลี่ยนไปตามเวลา เป็นการแยกจากกันด้วยดี และมีความเข้าใจที่ดีต่อกัน ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับพรรค ทั้งต่อการทำงานในภาพรวม และในพื้นที่ภาคใต้

เรียกว่า “นิพิฏฐ์” ออกไป พรรคก็มีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถที่ทำงานร่วมกับพรรคยังเดินหน้าตามทิศทางของพรรคต่อไป และมีผู้ที่จะมารับผิดชอบงานในส่วนของนิพิฏฐ์อยู่แล้ว สบายๆ ตรงกันข้ามหากปรับยุทธศาสตร์เรียบร้อยพรรคจะเข้มแข็งมากขึ้นในพื้นที่ภาคใต้เสียอีก

สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
มาถึงประเด็นสำคัญที่ถามว่า ทำไมพรรคต้องปรับยุทธศาสตร์? “สนธิรัตน์” บอกว่า ด้วยผลของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 ที่ได้กำหนดบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ และสูตรปาร์ตี้ลิสต์หาร 100 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และเห็นการปรับเปลี่ยนในยุทธศาสตร์ทางการเมืองของหลายพรรค เพื่อให้การทำการเมืองสอดรับกับกติกาใหม่ พรรคการเมืองต่างๆ รวมถึงสร้างอนาคตไทย ก็ต้องมีการปรับยุทธศาสตร์ทางการเมืองเช่นกัน ซึ่งก็เป็นไปตามที่พรรคได้เคยคาดการณ์ไว้ โดยที่เป้าหมายของพรรคสร้างอนาคตไทย ยังคงเหมือนเดิม มุ่งมั่นที่จะสร้างการเมืองที่เป็นที่พึ่งของประชาชน และกอบกู้ ฟื้นฟู ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้กลับมาดีอีกครั้งหนึ่ง

อุตตม สาวนายน
ท่ามกลางคลื่นลมแรงหน้ามรสุมการเมือง ใครจะสุมไฟ ใครจะทาสีกัน ก็เอาที่สบายใจ แต่นี่เป็นบทสรุปจากปากของเลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย ...พรรคมีดีพอที่จะไปต่อนะจ๊ะ

**16 ธ.ค.เปิดตัว “ภูมิใจไทย” ยุครีโนเวต สานฝัน “อนุทิน” นายกรัฐมนตรี

คงจำกันได้ เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่าน ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 64 ปี ของ “เนวิน ชิดชอบ” ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่นอกจากบรรดาแกนนำพรรคภูมิใจไทย ยกขบวนกันไปอวยพรอย่างคับคั่งแล้ว ยังมีบรรดา ส.ส.จากต่างพรรคไปร่วมแสดงความยินดีกันจำนวนไม่น้อย ซึ่งเป็นที่เข้าใจได้ว่า ส.ส.เหล่านั้นเตรียมย้ายค่ายเข้าสังกัดภูมิใจไทย

วันนั้น “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นำกล่าวอวยพร ยกให้ “เนวิน” เป็นครูใหญ่ เป็นหลักชัยของพรรค ขณะที่ “เนวิน” ตอบกลับว่า ครูใหญ่ก็หวังจะได้เห็นลูกศิษย์คนนี้เป็นนายกฯ สักครั้ง พร้อมอวยพรให้ได้ ส.ส.เกินร้อยที่นั่งในการเลือกตั้งที่จะมาถึง

และในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ ก็เป็นวันที่พรรคภูมิใจไทยจะประกาศความยิ่งใหญ่อีกครั้ง ด้วยการทำพิธีเปิดที่ทำการพรรคยุครีโนเวต พร้อมเปิดตัว “ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ใหม่” ของพรรคอย่างเป็นทางการ แบบไม่มีกั๊ก

อนุทิน ชาญวีรกูล
ดังนั้น เมื่อวานนี้ (14 ธ.ค.) จึงมีปรากฏการณ์ที่บรรดา ส.ส.กว่า 30 คน แห่กันไปยื่นหนังสือลาออกต่อสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยให้มีผลในวันที่ 15 ธ.ค. เพื่อจะไปยื่นสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ในวันที่ 16 ธ.ค.

ตรวจดูรายชื่อแล้ว เป็น ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ 11 คน ได้แก่ 1. นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม. 2. นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ ส.ส.กทม. 3. น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. 4. นายมณเฑียร สงฆ์ประชา ส.ส.ชัยนาท 5. นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ 6. นายปฐมพงศ์ สูญจันทร์ ส.ส.นครปฐม 7. นายกฤษณ์ แก้วอยู่ ส.ส.เพชรบุรี 8. นายอนุชา น้อยวงศ์ ส.ส.พิษณุโลก 9. นายประทวน สุทธิอํานวยเดช ส.ส.ลพบุรี 10. นายธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ ส.ส.กาญจนบุรี 11. นายอัฎฐพล โพธิพิพิธ ส.ส.กาญจนบุรี

จากพรรคเพื่อไทย 7คน ได้แก่ 1. นายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ 2. นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม. 3. นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก 4. นายจักรพรรดิ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี 5. นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก 6. นายสุชาติ ภิญโญ ส.ส.นครราชสีมา 7. นายนพ ชีวานันท์ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา

พรรคก้าวไกล 5 คน ได้แก่ 1. นายขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี 2. นายเอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย 3. นายพีรเดช คําสมุทร ส.ส.เชียงราย 4. นายเกษมสันต์ มีทิพย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 5. นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจไทย 2 คน ได้แก่ 1. นายธนัสถ์ ทวีเกื้อ กูลกิจ ส.ส.ตาก 2. นายธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ ส.ส.อุบลราชธานี

พรรคชาติพัฒนา 1 คน คือ นายสมัคร ป้องวงษ์ ส.ส.สมุทรสาคร, พรรคประชาภิวัฒน์ 1 คน คือ น.ส.นันทนา สงฆ์ประชา ส.ส.บัญชีรายชื่อ, พรรคเพื่อชาติ 1 คน คือ นายอารี ไกรนรา ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ พรรครวมพลัง 1 คน คือ น.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ 1 คน คือ น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย อดีต ส.ส.อุบลราชธานี ที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ ให้มีผลในวันที่ 13 ธ.ค. 65 และพรรคเสรีรวมไทย 1 คน ได้แก่ นายเดชทวี ศรีวิชัย อดีต ส.ส.ลำปาง พรรคเสรีรวมไทย ให้มีผลวันที่ 14 ธ.ค. 65

เนวิน ชิดชอบ
สำหรับ นพ.จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย และ นางผ่องศรี แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ที่ยังไม่ยื่นใบลาออกจาก ส.ส.เพราะ นพ.จาตุรงค์ จะส่ง นางอุดมลักษณ์ เพ็งนรพัฒน์ ภริยา ลงสมัคร ส.ส.แทน เช่นเดียวกับ นางผ่องศรี ก็จะให้ นายปวีณ แซ่จึง ลงสมัคร ส.ส. แทนตนเองในสมัยหน้าเช่นกัน จึงไม่มีความจำเป็นต้องลาออกจาก ส.ส. แต่ยืนยันว่าจะไปเปิดตัวร่วมกับพรรคภูมิใจไทย ในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ แน่นอน

หากถามว่า ทำไมพรรคภูมิใจไทยเนื้อหอม บรรดา ส.ส.ถึงตัดสินใจย้ายค่ายแห่ไปซบ คำตอบเบื้องต้นน่าจะอยู่ที่ว่า “นักการเมืองกลัวสอบตก” ...การเลือกตั้งครั้งนี้ ถ้าลงสมัครในนามพรรคภูมิใจไทย แล้วโอกาสที่จะได้เป็น ส.ส.ค่อนข้างสูง เพราะกระแสพรรคมาแรง มีจุดขาย นโยบายพรรคสู้กับคู่แข่งได้

ผลงานที่ผ่านมาชัดเจน ทั้งเรื่องรับมือโควิด-19 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การท่องเที่ยว รวมทั้งนโยบายกัญชาเพื่อการแพทย์ และเศรษฐกิจ

อีกทั้งลักษณะเด่นในการทำงานการเมืองของภูมิใจไทย คือ ไม่สร้างเงื่อนไขทางการเมือง ไม่มีวาระซ่อนเร้นกับประชาชน มีจุดยืนชัดเจน ทำให้ ส.ส.ลูกพรรค สบายใจในการทำงาน มีความเป็นเอกภาพในพรรค ไม่มีกลุ่มมุ้ง ไม่แบ่งก๊ก แบ่งกลุ่ม เพื่อต่อรองเรียกร้องผลประโยชน์ของกลุ่ม เหมือนพรรคการเมืองอื่นๆ จนนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งภายในพรรค จนพรรคแตก พรรควางบทบาทสถานะทางการเมือง ที่ไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร ดังนั้นที่นี่จึงเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับนักการเมือง และเห็นแนวโน้มชัดว่าพรรคกำลังเติบโต มีโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

ประการสำคัญที่จะไม่เอ่ยถึงไม่ได้ คือ พรรคภูมิใจไทย มีหัวหน้าพรรคที่ชื่อ “อนุทิน ชาญวีรกูล” ที่พิสูจน์ฝีมือด้วยผลงานมาแล้ว เป็นคนใกล้ชิดประชาชน จิตใจเอื้อเฟื้อ ดีงาม ขับเครื่องบินรับส่งอวัยวะเพื่อคนไข้ที่ต้องการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ ... และเหนืออื่นใด “อนุทิน” มีจุดยืนที่ชัดเจนในเรื่องเคารพรัก เทิดทูนต่อสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

ขอให้จับตา หลังวันที่ 16 ธ.ค.นี้ จะยังมี ส.ส.ไหลเข้าพรรคภูมิใจไทยอีกไม่น้อย เพราะธรรมชาติของนักการเมือง ก็หวังจะให้พรรคที่ตนเองสังกัดได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และมีหัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี


กำลังโหลดความคิดเห็น