xs
xsm
sm
md
lg

แบบนี้ก็ได้เหรอ?..บวกผิดรวยล่วงหน้า 1.5 พันล้าน “นราพัฒน์ แก้วทอง” รองหัวหน้าพรรค ปชป. กวักมือเรียก แจ้งทรัพย์สินไม่ตรงปก **พปชร.ก็เจอภาวะเลือดไหล “ลุงป้อม” ประชดเอาไปให้หมดเลย จะได้ปิดพรรค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว
**แบบนี้ก็ได้เหรอ?..บวกผิดรวยล่วงหน้า 1.5 พันล้าน “นราพัฒน์ แก้วทอง” รองหัวหน้าพรรค ปชป. กวักมือเรียก แจ้งทรัพย์สินไม่ตรงปก

เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา “นราพัฒน์ แก้วทอง” ไม่รู้งานจะเข้า หัวจะปวดแค่ไหน ที่แน่ๆ ป.ป.ช.กวักมือเรียกให้เข้าชี้แจงกรณีรายละเอียดบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นมาตัวเลขไม่ตรงปก

งานนี้เริ่มมาจากการยื่นบัญชีทรัพย์สินของ “นราพัฒน์ แก้วทอง” กรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2565 ที่ได้แจ้งต่อ ป.ป.ช.ไว้ว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 1,547,196,952 บาท แต่พอตรวจสอบรายละเอียดจริง พบว่า มีเพียง 206,196,952 บาท

ตัวเลขที่ห่างกันกว่า 1,300 ล้าน จะเพราะด้วยเหตุใด ป.ป.ช.บอกว่า เป็นเรื่องของผู้ยื่น ซึ่ง ป.ป.ช.ยังไม่ได้ตรวจสอบ ต้องรอให้ประกาศเปิดเผยก่อน เสร็จแล้วจึงเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ

ฟังว่า จากนี้ ป.ป.ช.ต้องตรวจสอบบัญชีนี้เลย ตามบัญชีที่พ้นตำแหน่ง และเปรียบเทียบบัญชีดู ซึ่งถ้าเกิดพบข้อผิดปกติจริงๆ ก็ต้องให้เจ้าตัวมาชี้แจงว่า มีความคลาดเคลื่อน หรือปกปิดอะไร หรือไม่

ตามข่าวที่ ป.ป.ช.รับรู้ ก็คือ เจ้าตัวบวกเลขผิด คำถามตามมาว่า แบบนี้ก็ได้หรือ?

นราพัฒน์ แก้วทอง
เบื้องต้น เห็นว่า ป.ป.ช. ไม่เชื่อแค่ว่าบวกเลขไม่ตรง โดยจะตรวจสอบบัญชีรายการทรัพย์สินโดยละเอียด ว่า มีประเด็นสงสัยในเรื่องอื่นด้วยหรือไม่ ซึ่งผู้ยื่น หรือ “นราพัฒน์” ก็ต้องชี้แจงรายละเอียดตัวเลขให้ได้ด้วย

“นราพัฒน์ แก้วทอง” เป็นบุตรชายของ “ไพฑูรย์ แก้วทอง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน อดีต ส.ส.พิจิตร หลายสมัย เจ้าตัวเป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่ภาคเหนือ

ก่อนหน้า ช่วงวันที่ 11 ส.ค. 65 ป.ป.ช.ได้เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบของผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง ของ “นราพัฒน์ แก้วทอง” พบว่า มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 197,258,364 บาท หนี้สิน 4,868,560.71 บาท

ทรัพย์สินที่น่าสนใจ “นราพัฒน์” แจ้งว่า มีพระเลี่ยมทองสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ฐานแซม พระเลี่ยมทองหลวงปู่ฝั้นอาจาโร พระเลี่ยมทองสมเด็จนาคปรก พระเลี่ยมทองหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน พระสมเด็จเลี่ยมทอง (ไม่ระบุชื่อ) รวม 29 รายการ

ขณะที่ภรรยาแจ้งมีนาฬิกา 3 เรือน กระเป๋าแบรนด์เนม 8 ใบ เหรียญ ร.๙ ทรงผนวช กรอบเลี่ยมทอง เหรียญสมเด็จเลี่ยมทอง เครื่องประดับหลายรายการ

รายได้ของ “นราพัฒน์” แจ้งว่า มีรายได้เป็นเงินเดือนต่อปี 600,000 บาท

สรุปว่า ที่แจ้งเที่ยวล่าสุด อู้ฟู่มีทรัพย์สิน 1.5 พันล้านนั้น ไม่รู้ว่าเป็นการประเมิน หรือบวกเผื่อรวยล่วงหน้าไว้อ๊ะป่าว

**พปชร.ก็เจอภาวะเลือดไหล “ลุงป้อม” ประชดเอาไปให้หมดเลย จะได้ปิดพรรค

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
เข้าสู่โหมดใกล้เลือกตั้ง การย้ายพรรคของบรรดานักการเมืองก็จะคึกคักเป็นพิเศษ พรรคการเมืองที่ถูกจับตามากในตอนนี้คงไม่มีใครเกิน “พรรคภูมิใจไทย” ของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข

และที่เป็นไฮไลต์ ให้จับตาในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ ที่ “เสี่ยหนู” จะเป็นประธานเปิดที่ทำการพรรคยุครีโนเวตใหม่ พร้อมเช็กชื่อ เปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. “เลือดใหม่” ที่ไหลมาจากพรรคอื่น เพื่อลงสมัครในนามพรรคภูมิใจไทย มาร่วมชู “อนุทิน” เป็นนายกรัฐมนตรี

ตามรายงานข่าวระบุว่า ที่ชัดเจนแล้วมีมากถึงเกือบ 40 คน ยังไม่รวมที่กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา

ในจำนวนนี้ที่มากสุด ก็มาจากพรรคพลังประชารัฐ ของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีถึง 14 คน ได้แก่ 1. นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม. 2. นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ ส.ส.กทม. 3. น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. 4. นายมณเฑียร สงฆ์ประชา ส.ส.ชัยนาท 5. นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ 6. นายปฐมพงศ์ สูญจันทร์ ส.ส.นครปฐม 7. นายกฤษณ์ แก้วอยู่ ส.ส.เพชรบุรี 8. นายสุชาติ อุสาหะ ส.ส.เพชรบุรี 9. นายอนุชา น้อยวงศ์ ส.ส.พิษณุโลก 10. นายประทวน สุทธิอํานวยเดช ส.ส.ลพบุรี 11. นายสมเกียรติ วอนเพียร ส.ส.กาญจนบุรี 12. นายธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ ส.ส.กาญจนบุรี 13. นายอัฎฐพล โพธิพิพิธ ส.ส.กาญจนบุรี 14. พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ส.ส.กาญจนบุรี

ยังมีที่มาจากพรรคเพื่อไทยอีก 10 คน พรรคก้าวไกล 5 คน พรรคเศรษฐกิจไทย 3 คน พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อชาติ พรรคประชาภิวัฒน์ พรรคชาติพัฒนา และพรรครวมพลัง อีกพรรคละ 1 คน

อนุทิน ชาญวีรกูล
สำหรับพรรคพลังประชารัฐของ “ลุงป้อม” เมื่อโฟกัสลงไปเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ ปรากฏว่า ส.ส.ทั้ง 12 คน ไม่มีใครคิดจะอยู่ดูใจ “ลุงป้อม” เลย เพราะเห็นว่าอยู่ไปก็เสี่ยงสอบตก เนื่องจากกระแสคนกรุงเบื่อลุงๆ แล้ว

...ที่จะไปพรรครวมไทยสร้างชาติ มี 2 คน คือ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ และ นายประสิทธิ์ มะหะหมัด ...ไปพรรคภูมิใจไทย 3 คน คือ นายจักรพันธ์ พรนิมิตร นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ และ น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์... ไปพรรคเพื่อไทย 1 คน คือ น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ...ไปพรรคประชาธิปัตย์ อยู่กับ “มาดามเดียร์” วทันยา บุนนาค อีก 1 คน คือ นายศิริพงษ์ รัสมี ขณะที่ นายชาญวิทย์ วิภูศิริ ส.ส.กทม.จะขอเว้นวรรคทางการเมือง ไม่ลงเลือกตั้งในครั้งหน้า

ส่วนอีก 2 คน คือ นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา และ น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ตอนแรกมีข่าวว่าจะติดตาม “ลุงตู่” ไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ แต่เมื่อลุงตู่ยังไม่มีความชัดเจน ล่าสุด มีข่าวว่าจะไปภูมิใจไทยแล้ว... ก็ต้องติดตามดูกันว่า 16 ธ.ค.นี้ ทั้งสองคนจะไปปรากฏตัวที่พรรคเสี่ยหนูหรือเปล่า

เช้าวันวาน “ลุงป้อม” ปะหน้านักข่าวช่วงก่อนเป็นประธานการประชุม ครม.แทน “ลุงตู่” ที่ไปปฏิบัติภารกิจต่างประเทศ ก็เจอคำถามเรื่องเลือดไหลออก “ลุงป้อม” ได้แต่บอกว่า ไม่รู้เขาจะไปหรือเปล่า แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครลาออก และคงไม่ต้องเรียกมาคุย เพราะความคิดของคนไม่เหมือนกัน ออกก็ออกไป... แต่ที่จะเข้ามาก็เยอะนะ

เมื่อถามว่าได้คุยกับ “เสี่ยหนู” หรือยัง เพราะไปพรรคนี้มากพอสมควร “ลุงป้อม” ตอบว่า ยังไม่ได้คุยกัน และไม่ต้องคุยเรื่องนี้... “ก็เอาไปให้หมดเลยก็ได้ ผมไม่ว่าอะไร ผมจะได้ปิดพรรคเลย” ลุงป้อม พูดไปหัวเราะไป

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ
ส่วนเรื่องความชัดเจนของ “ลุงตู่” จะอยู่หรือไป “ลุงป้อม” บอกว่า ยังไม่รู้ ดูเหมือนแสดงว่าจะไปแล้ว แต่ท่านไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคตั้งแต่แรก เป็นเพียงพรรคพลังประชารัฐไปสนับสนุนให้ท่านเป็นนายกฯเท่านั้น ส่วนท่านจะอยู่หรือไม่อยู่ ก็เป็นเรื่องของท่าน เพราะท่านก็ไม่ได้อยู่ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ...แต่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็ยังรักกันเหมือนเดิม

คำพูดของ “ลุงป้อม” ที่ว่าแม้จะมีเลือดไหลออก แต่ที่เข้ามาก็เยอะนะ... เมื่อตรวจดูแล้ว ที่เข้ามาก็ไม่เป็นที่ฮือฮา หรือสร้างกระแสให้กับพรรคได้ อย่างการเปิดตัว “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์” อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ เมื่อหลายวันก่อนก็ไม่มีผลในเชิงบวก ... หรืออย่างการอ้าแขนรับ “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยไปเปิดตัวกับพรรคสร้างอนาคตไทย กับ “อันวาร์ สาและ” ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น

ว่ากันว่า ยังมีอุบไว้อีกหลายคน ถ้าอยากรู้ว่ามีใครไหลเข้ามาบ้าง ให้ไปถาม “ป.ที่ 4” หรือ “ป.ป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชายของ “ลุงป้อม” เพราะเป็นที่รับรู้กันในพรรค ว่า เป็นบุคคลสำคัญในการตัดสินใจว่าจะเอาใครเข้ามา เมื่อเข้ามาแล้วจะจัดวางให้อยู่ตรงไหน

จากคำพูดที่ว่าให้ “เสี่ยหนู” เอาไปให้หมด จะได้ปิดพรรค ดูเป็นคำพูดในเชิงประชด... หรือลึกๆ แล้ว “ลุงป้อม” จะเหนื่อยล้า อยากพักผ่อนจริงๆ แต่เพราะคนใกล้ชิด คนรอบข้างไม่ยอมให้พัก จึงต้องจำใจเดินหน้าต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น