xs
xsm
sm
md
lg

“ปานเทพ” ถาม “กนก” เอาดีเข้าตัว แต่ด้อยค่ากรรมาธิการที่ตัวเองอยู่ ถูกต้องแล้วหรือ?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ปานเทพ” ติง “กนก วงษ์ตระหง่าน” กรณีออกรายการโจมตี พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ… ของสภาผู้แทนราษฎร ว่าขาดความรอบคอบในหลายประเด็น ทั้งที่ตัวเองก็นั่งเป็นกรรมาธิการและรองประธานคณะกรรมาธิการ แต่ไม่เคยคัดค้านในมาตราใดเลย

วันที่ 6 ธ.ค. 2565 นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกและกรรมาธิการคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ… สภาผู้แทนราษฎร โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ...

ตามที่ นายกนก วงษ์ตระหง่าน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกรายการทางสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี ถึง ๒ ครั้ง โดยครั้งแรกคือ วันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ.​๒๕๖๕ ในรายการ Morning Nation[1] และอีกครั้งหนึ่งคือวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ.​๒๕๖๕ ในรายการคมชัดลึก [2]

โดย นายกนก วงษ์ตระหง่าน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหาหลายประเด็นว่า คณะกรรมาธิการร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ… ของสภาผู้แทนราษฎร มิได้คำนึงถึงเด็กและเยาวชน ไม่เคยมีการถกเถียงด้วยงานวิจัยเพื่อเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย และชาวบ้านปลูกได้แต่ขายไม่ได้ จึงไม่ได้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และแม้มีกฎหมายก็ยังปฏิบัติไม่ได้เพราะต้องมีรายละเอียดอีกมาก ฯลฯ

การกระทำของ นายกนก วงษ์ตระหง่าน นั้นอาจสร้างความเสียหายให้กับคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณา ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ…..ของสภาผู้แทนราษฎรว่าไม่ได้พิจารณาในประเด็นต่างๆที่สังคมมีความห่วงใย ดังนั้นจึงเห็นความจำเป็นจะต้องชี้แจง “ข้อเท็จจริง” เพื่อปกป้องเกียรติและการทุ่มเทการทำงานของคณะกรรมาธิการทุกท่านดังต่อไปนี้

ประเด็นแรก กรณีที่ นายกนก วงษ์ตระหง่าน อ้างว่าคณะกรรมาธิการฯร่างกฎหมายมาอย่างไม่รอบคอบนั้น จะต้องไม่ลืมว่า นายกนก วงษ์ตระหง่าน ได้อยู่ในฐานะเป็นกรรมาธิการและรองประธานคณะกรรมาธิการชุดนี้ด้วย

แต่ในรายงานประชุมไม่เคยปรากฏในรายงานเลยว่า นายกนก วงษ์ตระหง่าน ลงมติเป็นเสียงข้างน้อย เพื่อคัดค้านในมาตราใด หรือสงวนคำแปรญัตติไม่เห็นด้วยเพื่ออภิปรายในสภาในมาตราใดเลย และไม่ได้มีข้อเสนอมาตราใดเสนอต่อคณะกรรมาธิการแล้วคณะกรรมาธิการไม่เห็นชอบ เพราะข้อเสนอทุกมาตราของ นายกนก วงษ์ตระหง่าน ได้รับการบรรจุเสนอเอาไว้ด้วยความเคารพและให้เกียรติมาโดยตลอด

หากร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ…. ของคณะกรรมาธิการฯขาดความรอบคอบจริง เหตุใด นายกนก วงษ์ตระหง่าน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่กลับไปถาม นายกนก วงษ์ตระหง่าน รองประธานคณะกรรมาธิการว่า ทำไมถึงไม่แสดงการคัดค้าน เสนอมาตราที่คณะกรรมาธิการ ไม่เห็นด้วย หรือสงวนคำแปรญัตติให้บันทึกอยู่ในรายงานการประชุมกรรมาธิการฯเลย แต่กลับมาพูดภายหลังเอาดีเข้าตัวแต่เพียงคนเดียวได้อย่างไร?

ประเด็นที่สอง สำหรับกรณีที่ นายกนก วงษ์ตระหง่าน อ้างว่า คณะกรรมาธิการเร่งรีบจนขาดความรอบคอบนั้น ความจริงแล้วคณะกรรมาธิการ ประกอบไปด้วย ๒๕ คน ตามสัดส่วนของสภาผู้แทนราษฎร โดยส่งตัวแทนมาจากคณะรัฐมนตรี ๕ คน, พรรคพลังประชารัฐ ๔ คน, พรรคภูมิใจไทย ๓ คน, พรรคประชาธิปัตย์ ๒ คน, พรรคเพื่อไทย ๖ คน, พรรคก้าวไกล ๒ คน, พรรคเศรษฐกิจไทย ๑ คน, พรรคชาติไทยพัฒนา ๑ คน, พรรคเสรีรวมไทย ๑ คน

เมื่อประมวลกฎหมายยาเสพติดที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบนั้น ไม่ได้กำหนดให้กัญชาเป็นยาเสพติดอีกต่อไปตั้งแต่วันที่ ๒๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ และต่อมาการปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดมีผลโดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตั้งแต่วันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๕ คณะกรรมาธิการฯจึงย่อมมีหน้าที่ในการเร่งรัดให้มีกฎหมายออกเพื่อใช้ประโยชน์และการควบคุมกัญชาอย่างเหมาะสมโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

แต่การเร่งรัดของคณะกรรมาธิการนั้น มิได้เป็นไปโดยไร้ความรับผิดชอบ เพราะคณะกรรมาธิการฯได้เร่งรัดด้วยการ “เพิ่มจำนวนการประชุม” ถึง ๒ ครั้งต่อสัปดาห์ และเป็นการประชุมเต็มวันทั้งครึ่งเช้าและบ่าย

คณะกรรมาธิการได้เสียสละเวลาในการทุ่มเทในเรื่องนี้อย่างเต็มความสามารถและเป็นไปอย่างรับผิดชอบ โดยมีการประชุมรวมทั้งสิ้น ๒๑ ครั้ง ในขณะที่นายกนก วงษ์ตระหง่าน ที่ระบุว่าห่วงใยกฎหมายฉบับดังกล่าวนี้ แต่ในข้อเท็จจริงกลับให้เวลาเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมธิการทั้งสิ้น ๑๐ ครั้งเท่านั้น

และแม้ นายกนก วงษ์ตระหง่าน จะประชุมทั้ง ๑๐ ครั้ง ก็ไม่ปรากฏว่า มีการคัดค้าน หรือขอสงวนคำแปรญัตติมาตราใดเพื่ออภิปรายในสภา หรือขอลงมติเป็นเสียงข้างน้อยที่คัดค้านมติเสียงข้างมากในกรรมาธิการเลยแม้แต่มาตราเดียว

ประเด็นที่สาม นายกนก วงษ์ตระหง่าน ให้สัมภาษณ์ในรายการเนชั่นกล่าวย้ำทั้ง ๒ ครั้ง ว่า ต้องมีความสมดุลทั้ง ๓ ฝ่าย คือ ทางการแพทย์ เกษตรกร และการคุ้มครองเด็กและเยาวชน

แต่ในความเป็นจริงแล้ว นายกนก วงษ์ตระหง่าน กลับเป็นผู้เสนอต่อคณะกรรมาธิการให้จัดพื้นที่สูบกัญชาเพื่อนันทนาการเพื่อการท่องเที่ยว ในคืนพระจันทร์เต็มดวง (ฟูลมูนปาร์ตี้) สำหรับพื้นที่การท่องเที่ยวเสียเอง จริงหรือไม่? ปรากฏหลักฐานตามอ้างอิงคลิป [4]

เพราะในความเป็นจริงแล้วในคณะกรรมาธิการต่างได้ให้ความสำคัญต่อเด็ก เยาวชน สตรีให้นมบุตร สตรีมีครรภ์มากถึงมากที่สุด

เพราะมีบทลงโทษจำคุกผู้ที่ให้หรือขายให้เยาวชนใช้กัญชา มีบทลงโทษการผิดต่อเยาวชนให้เพิกถอนการจดแจ้งในการปลูกกัญชาในบ้าน มีบทลงโทษให้เพิกถอนการอนุญาตกัญชาเพื่อการค้า การเพิ่มโทษอื่นๆ เป็น ๒ เท่า หากกระทำความผิดต่อเยาวชนด้วย มีการห้ามขายออนไลน์ การห้ามโฆษณา มีการห้ามขายผ่านเครื่องขาย มีการห้ามขายในโรงเรียน ฯลฯ

และด้วยเหตุผลนี้กรรมาธิการที่ชื่อ นายกนก วงษ์ตระหง่าน จากพรรคประชาธิปัตย์จึงไม่เคยมีประเด็น คัดค้าน สงวนคำแปรญัตติ หรือเสนอกฎหมายอื่นใดนอกเหนือที่คณะกรรมาธิการฯเสนอในการคุ้มครองเยาวชนเพิ่มเติมใช่หรือไม่?

จากรายงานการประชุม พบว่า นายกนก วงษ์ตระหง่าน ย่อมรับทราบดีอยู่แล้วว่าระดับของการควบคุมกัญชานั้น ทางคณะกรรมาธิการฯได้ประยุกต์ใช้มาตราต่างๆไปตาม การควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ และกระท่อม ซึ่งล้วนแล้วแต่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว จึงเป็นผลทำให้มาตราที่มีการควบคุมนั้นเพิ่มขึ้นจาก ๔๕ มาตรา เป็น ๙๕ มาตรา และการควบคุมกัญชานอกจากจะไม่ได้ด้อยไปกว่าบุหรี่และสุราแล้ว การควบคุมยังอยู่ในระดับเข้มข้นกว่าบุหรี่และสุราด้วยทั้งๆ กัญชาที่มีประโยชน์มากกว่าบุหรี่และสุรา

การกล่าวหาว่าคณะกรรมาธิการฯไม่ได้มีการใส่ใจการคุ้มครองเรื่องเยาวชนนั้น จึงเป็นเรื่องเท็จทั้งส้ิน
ประการที่สี่ นายกนก วงษ์ตระหง่านกล่าวหาว่าคณะกรรมาธิการไม่เคยนำข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มาเปรียบเทียบเพื่อหาข้อเท็จจริงทั้งข้อดีและข้อเสียนั้น “ไม่เป็นความจริง”

เพราะคณะกรรมาธิการได้นำข้อถกเถียงทางวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ โดยมีการนำเสนอการรวบรวมงานวิจัยของ รศ.ดร.นพ.ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งรายงานผลกระทบของนโยบายกัญชาเสรีต่อเด็กและเยาวชน: บทเรียนจากนานาชาติ” เอกสารวิชาการหลักในงานสมัชชาการพัฒนาเด็กและเยาวชน ประจำปี ๒๕๖๕ ฉบับเมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๕ [5]

จากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ ผ่านงานวิจัยทางคลินิกและระบาดวิทยาเปรียบเทียบกับงานของ รศ.ดร.นพ.ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ ล่าสุดจึงทำให้พบความจริงว่า

งานวิจัยที่พรรคประชาธิปัตย์อ้างถึงฝ่ายต่อต้านกัญชานั้นยังนำเสนอข้อมูลทางการแพทย์อย่างมีอคติ ขาดความรอบด้าน ตัวอย่างเช่น ยังขาดมิติการใช้กัญชาเพื่อลดปัญหายาเสพติดที่รุนแรงทั้งยาบ้า ลดแอลกอฮอล์ ลดบุหรี่ และลดยาเสพติดอื่นๆทั้งในแคนนาดาและโคโรลาโด ยังขาดการกล่าวถึงมิติการใช้กัญชาเพื่อลดปัญหายาเสพติดที่รุนแรงและลดอาชญากรรมในเนเธอร์แลนด์ ยังขาดการพิจารณาในมิติการลดใบสั่งยาและประชาชนลดการซื้อยาในมลรัฐที่ให้ใช้กัญชาทั้งทางการแพทย์และนันทนาการในสหรัฐอเมริกา [5]

นอกจากนั้น ยังขาดข้อมูลการใช้กัญชาเพื่อส่งเสริมสุขภาพในต่างประเทศเพื่อลดได้หลายโรค ยังไม่ได้กล่าวถึงการตัดปัจจัยสิ่งแวดล้อมที่ลวงผลเพื่อโจมตีกัญชา (เช่นปัจจัยความยากจน ปัญหาครอบครัว สารสังเคราะห์กัญชา ฯลฯ) ยังไม่ได้กล่าวถึงการวิจัยกัญชาในคู่แฝดจำนวนมากหรือการสแกนสมองในเด็กและเยาวชนระดับการวิเคราะห์อภิมาน (Meta Analysis) เพื่อเปรียบเทียบที่ยังไม่พบข้อเท็จจริงว่ากัญชามีผลร้ายต่อพัฒนาการสมอง [5]

นอกจากนั้น ฝ่ายต่อต้านกัญชายังไม่เคยพิจารณาในข้อเท็จจริงที่ว่ามีผู้ที่ใช้ประโยชน์และได้ประโยชน์ทางการแพทย์ คือ ผู้ที่ใช้กัญชาใต้ดินจำนวนมากจริงในประเทศไทย ประชาชนเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการคุ้มครองและได้รับการดูแลอย่างเร่งด่วนอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม กรณีที่ นายกนก วงษ์ตระหง่าน ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๕ ว่าหลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรให้ถอนร่างไปแล้ว นายกนก วงษ์ตระหง่าน จะเข้าไปประชุมในคณะกรรมาธิการเพื่อเสนอมาตราต่างๆ ให้ทบทวน [1] แต่ความเป็นจริงหลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรเสียงข้างมากให้ถอนวาระ พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ออกจากสภาไปแล้ว นายกนก วงษ์ตระหง่าน ก็ไม่ได้กลับเข้าไปประชุมในคณะกรรมาธิการเพื่อเสนอมาตราใดๆอีกตามที่ได้ให้สัมภาษณ์แต่ประการใด

ถึงแม้ว่า นายกนก วงษ์ตระหง่าน ไม่ได้เข้าประชุมคณะกรรมาธิการอีกตามที่ได้ให้สัมภาษณ์ไปเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๕ ซึ่งอาจเป็นผลทำให้ไม่ได้รับฟังการบรรยายของ รศ.ดร.นพ.ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ แต่นายกนก วงษ์ตระหง่าน ควรจะอ่านเอกสารที่ประกอบการบรรยายทั้งหมดในรายงานของคณะกรรมาธิการก่อนให้สัมภาษณ์ ไม่ใช่มากล่าวหาว่าคณะกรรมาธิการไม่ได้คำนึงถึงข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เช่นนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง

ประการที่ห้า นายกนก วงษ์ตระหง่าน กล่าวหาว่า คณะกรรมาธิการร่างกฎหมายให้ประชาชนปลูกได้แต่ขายไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์นายทุน และประชาชนจะทำการค้าไม่ได้ การนำเสนอของ นายกนก วงษ์ตระหง่านนั้น ไม่เป็นความจริงแต่ประการใด

เพราะคณะกรรมาธิการให้การปลูกด้วยการจดแจ้งนั้นเพื่อเป็นหลักประกันว่าประชาชนจะสามารถพึ่งพาตัวเองโดยไม่มีกลุ่มทุนใดมาผูกขาดได้

แต่ประชาชนหากจะค้าขายกัญชาก็ต้องขออนุญาต ทำตามหลักเกณฑ์และต้องรับผิดชอบต่อสังคม โดยเกษตกรปลูกเพื่อขายไม่เกิน ๕ ไร่ ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม สามารถเป็นบุคคลธรรมดา วิสาหกิจชุมชน หรือนิติบุคคลก็ได้ แต่ต้องเป็นคนไทย แต่กฎหมายจะควบคุมเฉพาะช่อดอกกัญชาที่ต้องขายตามหลักเกณฑ์ โดยเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนใช้ประโยชน์ส่วนอื่นๆของกัญชาที่ไม่ใช่ช่อดอกได้คล่องตัวมากขึ้น

ส่ิงที่กล่าวมาข้างต้น กฎหมายที่ร่างโดยคณะกรรมาธิการนั้น ไม่มีหลักเกณฑ์ใดที่เป็นการกีดกั้นการประกอบธุรกิจรายเล็กแต่ประการใด อีกทั้งยังสำทับด้วยว่ากฎกระทรวงจะต้องเป็นไปเพื่อไม่ให้เกิดการกีดกันการค้าด้วย การกล่าวหากรรมาธิการว่าร่างกฎหมายทำให้ประชาชนไม่สามารถขายได้ จึงเป็นเรื่องที่ไม่เป็นความจริงแต่ประการใด

ประการที่หก นายกนก วงษ์ตระหง่าน อ้างว่า ต่อให้ พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ผ่านความเห็นชอบจากสภาไปก็ยังใช้ไม่ได้อยู่ดีเพราะยังไม่มีรายละเอียด

ข้อกล่าวอ้างนี้ฟังไม่ขึ้น เพราะทุกพระราชบัญญัติจะมีการกล่าวรายละเอียดในระดับกฎกระทรวงหลังจากนั้น การเร่ง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ก็จะทำให้สามารถเร่งรัดกฎกระทรวงให้มาบังคับใช้ให้ได้โดยเร็วขึ้นต่อไป

และถึงอย่างไรการตราพระราชบัญญัตินั้นไม่ได้หมายความว่าจะต้องรอเวลาควบคุมอีกนาน เพราะในปัจจุบันแม้ไม่มีกฎหมายกัญชา กัญชง แต่กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงอื่นๆได้ออกประกาศมาตรการควบคุมและประยุกต์ใช้กฎหมายอื่นๆ ไปแล้วไม่ต่ำกว่า ๑๒ ฉบับ [6]-[18] เพียงแต่การมีพระราชบัญญัติจะทำให้การใช้ประโยชน์และการควบคุมเป็นระบบอยู่ในพระราชบัญญัติเดียวและมีบทลงโทษที่รุนแรงขึ้นและสามารถบังคับใช้ได้ในทันที จึงจำเป็นต้องมีกฎหมายในระดับพระราชบัญญัติอย่างเร่งด่วน

บัดนี้ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ได้ถูกบรรจุในวาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ ๒ แล้ว ตามกลไกและระบบของสภาผู้แทนราษฎร ทุกพรรคการเมืองที่ได้สงวนคำแปรญัตติสามารถอภิปรายเพื่อให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติเสียงข้างมากที่จะ “เห็นด้วย” หรือ “แก้ไข” ทุกมาตราได้อยู่แล้ว จึงขอเรียกร้องต่อทุกพรรคการเมืองเพื่อพิจารณาดังต่อไปนี้

ข้อเรียกร้องที่ ๑ หากท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ห่วงใยต่อสังคมจริง ขอเรียกร้องท่านลงมติเห็นชอบให้เลื่อนวาระร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ.. ของคณะกรรมาธิการฯที่พิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว เป็นวาระเร่งด่วน เป็นวาระถัดไปเพื่อให้ได้มีกฎหมายในการใช้ประโยชน์และควบคุมกัญชาให้ได้อย่างเหมาะสมแก่ประชาชนต่อไปโดยเร็ว

ข้อเรียกร้องที่ ๒ ขอให้ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่าได้คว่ำกฎหมาย แต่ให้ลงมติเห็นด้วยหรือจะแก้ไขรายมาตราตามที่ได้มีผู้สงวนคำแปรญัตติเอาไว้แล้วตามครรลองของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ประเทศและประชาชนจะได้มีกฎหมายกัญชามาเพื่อใช้ประโยชน์และควบคุมกัญชาอย่างเป็นระบบต่อไป

ด้วยความปรารถนาดี
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
โฆษกและกรรมาธิการคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ… สภาผู้แทนราษฎร




กำลังโหลดความคิดเห็น