xs
xsm
sm
md
lg

พท.ข้ามไม่พ้น “ตู้ห่าว” บดบังวิสัยทัศน์ “อุ๊งอิ๊ง”!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมืองไทย 360 องศา

เอาเป็นว่าตามนั้น หรือ “เอาที่สบายใจ” ก็แล้วกัน กับการชี้แจงของ นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ที่ระบุว่า พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร “หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย” ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ “ตู้ห่าว” หรือในชื่อไทย คือ นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ ตัวละครเอกใน “กลุ่มทุนจีนสีเทา” เวลานี้ และยังแก้ตัวแทนอีกว่า “อุ๊งอิ๊ง” เป็นแค่ผู้ถือหุ้น (ใหญ่) ของบริษัท เอสซี เอสเสท ไม่ใช่กรรมการบริษัท ดังนั้น การซื้อขายบ้านจัดสรรในโครงการย่อมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็น หรืออีกความหมายหนึ่งที่พยายามอธิบาย ก็คือ การขายก็เป็นการขายให้คนไทย หรือขายให้นิติบุคคลไทย ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้ขายให้ต่างด้าวอะไรประมาณนั้น สรุปก็คือ “ไม่เกี่ยว”

“ขอย้ำว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีความเกี่ยวข้องกับนายตู้ห่าว นายตู้ห่าวไม่เคยบริจาคเงินให้พรรคเพื่อไทย ข้อกล่าวหาที่มีต่อผู้ต้องหาก็เกี่ยวเนื่องกับการทำธุรกิจในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นรัฐบาล ซึ่งเป็นเวลาเกือบ 8 ปีแล้ว ดังนั้น หากจะมีการกระทำที่ผิดกฎหมายในช่วงเวลานี้ในประเทศไทย ก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะบังคับใช้กฎหมาย และรัฐบาลสามารถไปตรวจสอบว่ามีการประกอบธุรกิจผิดกฎหมายทำนองเดียวกันนี้มากน้อยเพียงใด ซึ่งไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใดทั้งสิ้น ดังนั้น อย่าเบี่ยงเบนประเด็น”

กรณีที่พยายามโยงว่า ชาวต่างชาติกว้านซื้อบ้านในโครงการของ บริษัท เอสซี แอสเสท และพาดพิง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ผู้ถือหุ้นในบริษัทในบางสื่อนั้น ตนเห็นว่า การพาดพิงและกระจายข่าวต่างๆ มีวัตถุประสงค์ทางการเมืองอย่างชัดเจน ขอเรียนว่า น.ส.แพทองธาร ไม่ได้รู้จักกับนายตู้ห่าว และเป็นเพียงผู้ถือหุ้น ไม่ได้เป็นกรรมการบริษัท ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายบ้านให้บุคคลใดๆ

นอกจากนั้น บริษัท เอสซี แอสเสท ได้แถลงไปแล้วว่า บริษัทประกอบธุรกิจด้วยความโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล โดยยึดหลักไม่กระทำผิดกฎหมาย บ้านทุกหลังขายให้คนไทย และนิติบุคคลไทยเท่านั้น และในการชำระค่าบ้านผู้ซื้อต้องชำระเงินผ่านธนาคาร ขอตั้งเป็นข้อสังเกตว่า ทรัพย์สินที่ถูกอายัดของบุคคลกลุ่มนี้ มีบ้าน รถยนต์ และทรัพย์สินที่ซื้อจากหลายโครงการ หลายบริษัท กระจายไป ไม่ใช่ซื้อจาก บริษัท เอสซี แอสเสท อย่างเดียว

ช่วงเวลานี้ ประเทศกำลังเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ประชาชนคาดหวังที่จะเห็นพรรคต่างๆ นำเสนอนโยบายเพื่อแก้ปัญหาของประชาชน โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทยขอเชิญชวนให้ช่วยกันนำเสนอนโยบายและหาทางออกให้ประเทศ และโปรดยุติการปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารหรือไอโอ ที่เป็นการบิดเบือนใส่ร้ายฝ่ายอื่นด้วยความเท็จ ซึ่งประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร

นั่นเป็นคำชี้แจงของ นายนพดล ปัทมะ ที่เป็นลักษณะเรียกว่า “ชี้แจงแทนนาย” แทน “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่เป็นหลายบทบาท ทั้งหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และทำธุรกิจในครอบครัวชินวัตรหลายอย่าง ซึ่งหนึ่งนั้นกำลังถูกตั้งคำถามแบบสงสัยจากสังคม ก็คือ มีการซื้อขายบ้านในโครงการแบบยกลอต จำนวน 50 หลัง มูลค่ากว่าสองพันห้าร้อยล้านบาท

นั่นเป็นการชี้แจง “แทนนาย” ของ นายนพดล ปัทมะ ซึ่งเขาได้ทำหน้าที่ไปแล้ว ส่วนสังคมจะเชื่อตามนั้นหรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง

ขณะเดียวกัน ยังมีคำถามนอกเหนือจากนั้น อีกก็คือ “ตู้ห่าว” ในวันนี้เติบโตมาในยุคสมัยใด ได้ “สัญชาติไทย” มาในยุคไหน ใครเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย เป็น “หลานเขย” ของใคร เป็น “บิ๊ก” ในรัฐบาลยุคไหน รวมไปถึงใครที่วิ่งเต้นล้มคดีในอดีต จนเชื่อมโยงมาถึง “บิ๊กลอต” ได้หรือไม่

ดังนั้น แม้ว่าคำพูดชี้แจงอย่างไรก็ได้ แต่บางครั้งความสงสัยในใจของสังคมมันลบเลือนยาก เหมือนกับหลายเรื่องที่ไม่สามารถเอาผิดได้ แต่คำถามมันไม่จบลงง่ายๆ

ขณะเดียวกัน การที่ นายนพดล ปัทมะ พยายามชี้ให้เห็นว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นการโยงเพื่อใส่ร้ายทางการเมือง อีกมุมหนึ่งมันไม่อาจปฏิเสธได้ และที่สำคัญ คนนั้นยังเป็น “ว่าที่แคนดิเดตนายกฯ” เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่สังคมมีความเข้าใจว่าเป็น “เจ้าของพรรค” นั่นแหละ โดนเข้าไปเต็มๆ

แน่นอนว่า กรณีของ “ทุนจีนสีเทา” และ “ตู้ห่าว” ดังกล่าว ย่อมส่งผลสะเทือนต่อ “ภาพลักษณ์” ของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เข้าอย่างจัง และดันมาเกิดเรื่องราวอื้อฉาวบานหลายเอาในช่วงจังหวะสำคัญเสียด้วย เนื่องจากในวันที่ 6 ธันวาคมนี้ พรรคเพื่อไทยมีกำหนดประชุมเพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เพิ่มเติม เพื่อทดแทนคนเก่าที่ลาออกไปหรือ ย้ายพรรคออกไป

และที่สำคัญที่สุด ก็คือ ในวันที่ 6 ธันวาคม ดังกล่าว มีการกำหนดเซตกันไว้ล่วงหน้าแล้วว่า จะมีการ “แสดงวิสัยทัศน์” ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ ต้องการให้สปอตไลต์ ฉายมาที่เธอเป็นจุดเดียว แต่เมื่อเกิดกรณี “ทุนสีเทาตู้ห่าว” ที่กำลังเบนทิศทางในภาพลบมาที่เธอและครอบครัวชินวัตรอีกครั้ง รวมไปถึงพรรคเพื่อไทย มันก็น่าจะทำให้ “แสง” ที่จ้องจับมานั้น มันคนละความหมาย

ดังนั้น นาทีนี้จากเดิมที่คาดกันว่า การประชุมพรรคเพื่อไทย เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคเพิ่มเติม โดยเฉพาะการกำหนดให้ “อุ๊งอิ๊ง” แสดงวิสัยทัศน์ก่อนเปิดตัวเป็น “แคนดิเดตนายกฯ” ในโอกาสต่อไปนั้น น่าจะกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง นั่นคือ หากไม่หลบเลี่ยง ก็ต้องเผชิญหน้ากับคำถามข้อสงสัยเรื่อง “ทุนสีเทา” ไปแทน ซึ่งคงจะบดบังเป้าหมายที่เคยวางเอาไว้อย่างแน่นอน !!


กำลังโหลดความคิดเห็น