รอง ผบ.ตร. ดอดขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า รายงานความคืบหน้าแก้ปัญหาค้ามนุษย์ ยึดทรัพย์ “ตู้ห่าว” แล้วกว่า 4,000 ล้าน ยังไม่พบนักการเมืองเอี่ยวกลุ่มทุนจีนสีเทา ลั่นกวาดล้างหนักหนีออกประเทศไปแล้ว ไม่มีมวยล้มต้มคนดู ย้ำ คดีไม่ยากทำง่าย เพราะไม่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง
วันนี้ (1 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เดินทางมาพบคณะทำงานของนายกรัฐมนตรีบนตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนเปิดเผยถึงความคืบหน้าการกวาดล้างกลุ่มทุนจีนสีเทา ว่า ล่าสุด ได้เข้าตรวจค้นกลุ่มทุนจีนของ นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว ซึ่งเข้าตรวจค้นไปแล้ว 4 จุด รวมมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท จากนั้นจะนำข้อมูลทางการเงินมาตรวจสอบหาความเชื่อมโยงเส้นทางการเงิน จากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งนี้ ทรัพย์สินที่ยึดได้ มีทั้งรถ 150 คัน ที่ดิน และเครื่องบิน โดยจากนี้ จะดำเนินการยึดโรงแรมต่อไป และที่สำคัญ ต้องตรวจสอบว่ามีเงินสดอยู่ตรงไหน ซึ่งฝ่ายสอบสวนกำลังดูอยู่ และจะเร่งทำให้เร็วที่สุด ส่วนเรื่องรายงานนายกฯ เรื่องนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)ได้รายงานอยู่แล้ว พบว่า เบื้องต้นยังไม่พบเชื่อมโยงกับนักการเมือง แต่วันนี้กำลังรวบรวมข้อมูลทั้งหมดและนำมาวิเคราะห์ เส้นทางการเงิน หลังจากวิเคราะห์จะสาวถึงใครคนไหน ก็ต้องมาว่ากันอีกที ถ้าไม่ถึงก็ว่าตามนั้น
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวยืนยันจะใช้เวลาไม่นานในการตรวจสอบ เพราะวันนี้ได้เร่งการทำงานไปแล้วคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ถึงร้อยละ 90 แล้ว เนื่องจากส่วนตัวพยายามเร่งทำงาน และอย่าลืมว่าตนเองก็รับผิดชอบคดีเยอะก็ต้องทุ่มเทเวลาคดีนี้ให้มาก เพื่อให้คดีจบเร็ว จะได้ทำอย่างอื่นต่อ อย่างไรก็ตาม จะทำอย่างรอบคอบ เพราะบุคคลเหล่านี้มีทนายความ มีนักกฎหมายที่เก่ง เนื่องจากมีเงินเยอะเอาไว้สู้กับคนที่มีฐานะทางการเงินที่สูง ดังนั้น ต้องทำอย่างรอบคอบและต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างรวดเร็วและเป็นธรรม
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ทุนจีนในประเทศไทยได้หนีไปเยอะแล้ว หลังจากที่ดำเนินการจับกุม และพบว่า กลุ่มที่หลบหนีจากจีนมาอยู่กัมพูชา เมื่อกัมพูชากวาดล้างหนัก ก็มาที่ประเทศไทย และไปประเทศลาว ตนจึงไปหารือกับ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติลาว เพื่อจับมือกัน ผลักดันกลุ่มคนเหล่านี้ ไม่ให้ได้สองสัญชาติ ดังนั้น วันนี้ถ้าบังคับใช้กฎหมายจริงจัง ก็จะกวาดล้างได้ ทั้งนี้ หากไปศึกษาและดูข้อมูล พบว่า กลุ่มคนจีนหนีไปกว่า 100 คนแล้ว ไม่ใช่แค่กลุ่มคนพวกนี้ โดยเฉพาะคนที่อยู่ผิดกฎหมาย พออยู่ไปแล้วไม่ทราบว่าจะโดนอะไรบ้าง ดังนั้น เมื่อกวาดล้างแล้วต่อไปต้องมาวางมาตรการเข้มงวดตั้งแต่ต้นทาง ว่า มีการออกวีซ่า ได้อย่างไร โดยเฉพาะตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) หากเจ้าหน้าที่เข้าไปทำผิด ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ทำผิดก็ต้องดำเนินคดี ซึ่ง ผบ.ตร.สั่งการแล้วว่าถ้าให้วีซ่าโดยผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินคดี เช่น วีซ่านักเรียนผิดกฎหมายต้องดำเนินคดี ไม่มีปล่อยไว้ เพราะเวลาเอาคนเข้ามา บุคคลเหล่านี้ไม่ได้เอาเงินเข้ามาลงทุน แต่มาก่ออาชญากรรม ก็ต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจในพื้นที่ต้องตามจับกุม
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวยืนยันอีกว่า คดีนี้ไม่มีมวยล้ม ถ้าตนทำคดีเอง เพราะยึดหลักการ คือ ไม่มีผลประโยชน์ จึงทำให้ตัดสินใจได้ง่าย และตนก็ทำงานง่าย เพราะเรื่องนี้ทำสบายใจมาก ทำงานอย่างตรงไปตรงมา แต่มันอาจจะเหนื่อย จะเครียดด้วยเอกสารเนื้อหาเยอะ ดังนั้น ต้องพิจารณารอบคอบ โดยคดีนี้ต้องใช้คนเยอะ กำลังเยอะ แต่เราเป็นตำรวจจะต้องทำ ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามเมื่อไม่มีผลประโยชน์ จะตัดสินใจง่าย รับรองเรื่องนี้ไม่มีมวยล้ม อย่างไรก็ตาม วันนี้ยังได้รายงานความคืบหน้าปัญหาการค้ามนุษย์ให้กับคณะทำงานนายกฯได้รับทราบ เนื่องจากทางสหรัฐอเมริกาได้ชื่นชมไทย และไทยถูกจัดอันดับ อยู่ที่เป็นเทียร์ 2 ก็จะพยายามเร่งรัดการปราบปราม บังคับใช้กฎหมาย อย่างเต็มที่ หลังจากตนที่ได้รับมอบหมายเรื่องนี้ ก็จะใช้กฎหมายเข้ามาดำเนินคดีอย่างจริงจัง
