นายกฯ ต่อสายผู้นำออสซี่ ชื่นชมสัมพันธ์ทวิภาคีหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ พร้อมต้อนรับประชุมเอเปกที่ไทย

“ประยุทธ์” โทร.คุยนายกฯเครือรัฐออสเตรเลีย ชื่นชมความสัมพันธ์ทวิภาคีภายใต้ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership) ระหว่างกัน ยืนยันพร้อมให้การต้อนรับนายกฯออสเตรเลีย ในการประชุมเอเปกที่ไทย

วันนี้ (8 พ.ย.) เวลา 14.00 น. ณ ห้องโดมทอง ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หารือทางโทรศัพท์กับ นายแอนโทนี แอลบาเนซี (The Honourable Anthony Albanese MP) นายกรัฐมนตรีเครือรัฐออสเตรเลีย ซึ่งเป็นการหารือครั้งแรกระหว่างนายกรัฐมนตรีไทย และเครือรัฐออสเตรเลีย ภายหลังออสเตรเลียจัดตั้งรัฐบาลใหม่เมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 โดยในการหารือครั้งนี้ ฝ่ายออสเตรเลียเป็นผู้ทาบทาม ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้

นายกรัฐมนตรียินดีกับการเข้ารับตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย เชื่อมั่นว่า นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียจะช่วยขับเคลื่อนความสัมพันธ์และความร่วมมือไทย-ออสเตรเลีย ให้เพิ่มพูนแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ชื่นชมความสัมพันธ์ไทย-ออสเตรเลีย ที่มีพลวัตสูง และหวังว่า ปีนี้ในโอกาสครบรอบ 70 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ทั้งสองประเทศจะเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันมากยิ่งขึ้น ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันความพร้อมการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก และให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ซึ่งจะเดินทางมาร่วมการประชุม ถือเป็นโอกาสสำคัญในการหารือร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนเอเปคท่ามกลางความท้าทายในโลก

นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ขอบคุณนายกรัฐมนตรี และเป็นเกียรติที่ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ชื่นชมความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-ออสเตรเลีย ที่จะครบรอบการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต 70 ปี ในปีนี้ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กล่าวถึงการต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ว่า เป็นความท้าทายที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลกทุกประเทศต้องร่วมมือกัน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย เฝ้ารอที่จะได้พบนายกรัฐมนตรีในการประชุมสุดยอดอาเซียนที่ราชอาณาจักรกัมพูชา และเดินทางเข้าร่วมการประชุมเอเปก 2022 ที่ประเทศไทย ซึ่งหวังว่า จะได้มีโอกาสพบปะหารือนายกรัฐมนตรี (Bilateral Meeting) อีกครั้ง

ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือทวิภาคีภายใต้ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership) และยินดีที่มีการลงนามร่วมในแผนปฏิบัติการร่วมว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ซึ่งแผนปฏิบัติการร่วมนี้ จะเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกันในทุกมิติ

ในด้านความมั่นคงรูปแบบใหม่ ยินดีที่ทั้งสองฝ่ายจะได้ร่วมกันจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อต่อสู้กับการค้ามนุษย์ร่วมกัน

ในด้านเศรษฐกิจ ยินดีกับความคืบหน้าของการจัดทำยุทธศาสตร์ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างกัน ซึ่งครอบคลุมทั้งเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว (BCG)

ด้านการลงทุน ยินดีที่ภาคเอกชนมีการลงทุนขนาดใหญ่ระหว่างกัน หวังให้มีการลงทุนระหว่างกันเพิ่ม เพื่อฟื้นฟู กระตุ้นเศรษฐกิจ

ในส่วนของความสัมพันธ์พหุภาคี นายกรัฐมนตรีทั้งสองตกลงร่วมกันที่จะกระชับความร่วมมือ โดยไทยพร้อมเสริมสร้างความร่วมมือกับออสเตรเลีย รวมทั้งสนับสนุนบทบาทของออสเตรเลียในภูมิภาค

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า การประชุมเอเปกจะเปิดโอกาสสำคัญให้ความร่วมมือในโลก ซึ่งนายกรัฐมนตรีขอบคุณออสเตรเลียที่สนับสนุนไทยในการเป็นเจ้าภาพ หัวข้อหลัก “เปิดกว้าง สร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” หรือ “Open. Connect. Balance.” ตลอดจนประเด็นที่ไทยให้ความสำคัญ ได้แก่ แนวคิด BCG ของไทย