โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ สั่งการทุกกระทรวงบูรณาการตามแผนเร่งด่วน ป้องกัน-ปราบปรามยาเสพติด 7 ด้าน หลังเป็นวาระเร่งด่วนรัฐบาล
วันนี้ (29 พ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม สั่งการในเรื่องการแก้ไขป้องกันปราบปรามยาเสพติด เนื่องจากนายกฯ ได้มีโอกาสได้ไปให้นโยบายตามที่กระทรวงยุติธรรมได้เสนอแผนงานเร่งด่วน โดยเน้นเรื่องการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด รวมถึงการรักษาฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด โดยขอให้ทุกกระทรวงบูรณาการการทำงานอย่างเข้มข้น ประกอบด้วย 7 ด้าน คือ 1. ด้านการป้องกันกระทรวงศึกษาที่การสร้างกลไกเฝ้าระวังยาเสพติดเพื่อให้สถานศึกษาเป็นพื้นที่สีขาวและกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์สร้างความเข้มแข็งให้กับ ครอบครัว 2. การสกัดกั้นโดยให้กระทรวงกลาโหมเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าและส่งออกยาเสพติดตามแนวชายแดน 3. เรื่องการปราบปรามให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ดำเนินการเชิงรุกในการปราบปรามจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ 4. การอายัดหรือการยึดทรัพย์สิน ให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมสรรพากรกระทรวงการคลังร่วมกันขยายผลไปยังคดีที่ผู้ค้ายาเสพติดนำเงินจากยาเสพติดไปฟอกเงิน
นายอนุชา กล่าวต่อว่า 5. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินงานร่วมมือระหว่างประเทศโดยใช้กลไกการดำเนินงานตามโครงการสกัดกั้นยาเสพติดทางท่าอากาศยานสากลต่างๆ 6. การบำบัดรักษาและการฟื้นฟูให้กระทรวงสาธารณสุข เร่งจัดทำกฎหมายลำดับรองสำหรับใช้ในการบำบัดรักษาและคัดกรองผู้ติดยาเสพติด เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการพร้อมทั้งให้กระทรวงแรงงานส่งเสริมให้ผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูมีทักษะความรู้ในสาขาวิชาชีพ และ 7. การสนับสนุนให้กระทรวงมหาดไทยสนับสนุนการปฏิบัติงานในทุกมิติ ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนให้ประเทศไทยมีความมั่นคงและปลอดภัยเป็นสังคมที่ปลอดยาเสพติดต่อไป อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหายาเสพติดถือเป็นวาระที่รัฐบาลให้ความสำคัญเร่งด่วน