นายกฯ เปิดปฏิบัติการป้องกัน ปราบปราม แก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายรัฐบาล เผย อายัดทรัพย์แล้วกว่า 1.1 หมื่นล้าน ลั่น 3 เดือน ต้องเป็นรูปธรรม เข้ม 5 ข้อ บูรณาการผลปราบยา ฮึ่ม จนท.- ขรก.มีเอี่ยว ฟันโทษหนักวินัย-อาญา
วันนี้ (23 พ.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ ห้องมัฆวานรังสรรค์ ชั้น 3 สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดปฏิบัติการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ระยะเร่งด่วน 3 เดือน โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นายเจเรมี ดักลาส ผู้แทนสำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก นายคาร์สเท่น แอนเดอร์เซ่น ผู้แทนหน่วยประสานงานยาเสพติดและอาชญากรรมต่างประเทศประจำประเทศไทย นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. แม่ทัพภาค 1-4 ผู้บัญชาการตำรวจภูธร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ตนรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่มาเป็นประธานและมอบนโยบายในการเปิดปฏิบัติการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ระยะเร่งด่วน 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 - 31 มกราคม 2566 ต้องเข้าใจว่านี่คือเรื่องด่วนและเราคงต้องทำต่อเนื่อง ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่มีความสลับซับซ้อน เรายิ่งปรับแก้วิธีการต่างๆในการดำเนินการต่างๆอีกฝ่ายก็ปรับเหมือนกัน ฉะนั้นเราต้องทำกันทั้งสองฝ่าย จะทำอย่างไรที่จะแก้ปัญหาความซับซ้อนให้ได้ เพราะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เราจะต้องแก้ไขปัญหาให้ลดลงหรือหมดสิ้นจากแผ่นดินไทย เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือความเข้าใจ การบูรณาการประสานงานกันของหน่วยงานต่างๆ ในระดับประเทศ ซึ่งมีหลายระดับหลายขั้นตอนด้วยกันจากบนลงสู่ชุมชน ซึ่งมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สิ่งสำคัญวันนี้เราต้องดูว่าเราจะแก้ปัญหาอย่างไรและมีอะไรเกี่ยวข้องบ้าง ป้องกัน ปราบปราม บำบัด รักษา และที่ทุกคนทราบ คือ ดีมาน ซัปพลาย และผู้เสพรายใหม่ แก้ไขผู้เสพรายเก่า แต่ปัญหามันไม่ได้จบสิ้นง่ายๆ เพราะการพัฒนาการของอีกฝ่ายหรือสังคมเปลี่ยนแปลงไปเยอะ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ เราจำเป็นต้องมีการบูรณาการอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดให้ยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ เป็นหนึ่งใน 1 ใน 12 นโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่ผ่านมา เราปฏิบัติและพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็เป็นทั้งเราและเขา แต่ที่เราทำวันนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในระดับนโยบาย สิ่งแรกเป็นการปรับปรุงกฎหมายกฎระเบียบต่างๆ ที่อาจเกี่ยวข้องในหลายกฎหมายด้วยกัน ส่งผลดีในทางปฏิบัติ สร้างประสิทธิภาพให้เจ้าหน้าที่ในการทำงานให้สูงขึ้นโดยเฉพาะด้านการปราบปราม การจับกุม ติดตามขยายผลสู่นายทุน และผู้เกี่ยวข้องได้จำนวนมาก และวันนี้สามารถอายัดทรัพย์สินได้มากถึง 11,000 ล้านบาท ถ้าทำไปเรื่อยๆ ยอดจะสูงขึ้น และวันนี้เรากลายเป็นเส้นทางผ่านจากแนวชายแดนส่งไปที่อื่น ซึ่งเราต้องแก้ปัญหาทั้งภายในประเทศและปัญหาระหว่างประเทศตามแนวชายแดนเพื่อไม่ให้แพร่กระจายไปที่อื่น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอเน้นย้ำให้ทุกคนทุกหน่วยงานปฏิบัติการตามแผนป้องกันและปราบปรามแก้ไขปัญหายาเสพติดระยะเร่งด่วน 3 เดือน ตามที่ ป.ป.ส.ได้กำหนดไว้ให้เป็นรูปธรรมสอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีที่อนุมัติไปแล้ว ด้านการป้องกันมีหลายส่วนทำอย่างไรคนจะไม่เสพใหม่ ทำอย่างไรคนจะไม่อยากเสพ คิดง่ายๆ ถ้าคนไม่อยากเสพก็ไม่มีการค้าการขาย ก็จะลดซัปพลายลงได้ ที่สำคัญคือ กระทรวงศึกษาธิการต้องสร้างภูมิคุ้มกันด้านความรู้อันตราย และสร้างหลักคิดที่ถูกต้องให้กับเยาวชน มีกลไกเฝ้าระวังยาเสพติด ให้สถานศึกษาเป็นพื้นที่สีขาว ปลอดภัยอยู่เสมอ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สร้างความเข้มแข็งครอบครัวสนับสนุนการรักษาในชุมชน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ด้านกองทัพจะต้องเพิ่มความเข้มข้นระมัดระวังการลักลอบนำเข้าส่งออกยาเสพติดตามแนวชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำทั้งหมด ซึ่งกองทัพมีส่วนสนับสนุน และเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการของ ป.ป.ส. ด้านการปราบปรามขอเน้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการเชิงรุก ปราบปรามจับกุมผู้ค้ายาส่งข้อมูลให้ ป.ป.ส.เพื่อไปทำลายเครือข่าย จับกุมนายทุนยึดทรัพย์หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกลงโทษด้านการยึดอายัดทรัพย์สิน ป.ป.ส.จะต้องทำงานใกล้ชิดกับ ปปง. กรมสรรพากร ถ้าทุกคนทำงานอย่างนี้ได้ตนว่าเดี๋ยวมันก็จบ แต่ไม่ใช่จบหายเงียบ แต่มันจะเบาบาง นั่นคือสิ่งที่เรามุ่งหวัง เพราะนั่นคืออนาคตลูกหลานของเรา การขยายผลยึดทรัพย์สินจากนักค้ายาเสพติดที่ฟอกเงิน ซึ่งเงินจำนวนนี้มหาศาลขอให้หน่วยงานศาลและอัยการดำเนินการตามกระบวนยุติธรรมให้ได้โดยเร็ว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อไปว่า ด้านความร่วมมือต่างประเทศใช้กลไกตามโครงการสกัดกั้นยาเสพติดการท่าอากาศยานสากล คงต้องประสานงานแลกเปลี่ยนข่าวสารกับประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่องและสร้างช่องทางการติดต่อสื่อสารที่เร่งด่วนให้มีประสิทธิภาพในทุกระดับ นอกจากการป้องกันปราบปรามก็ต้องมีเรื่องการบำบัดและฟื้นฟูซึ่งมีการพูดถึงผู้เสพรายใหม่และรายเก่า และยังมีการพูดถึงกรณีหนองบัวลำภูนั่นคือบทเรียน ไม่ใช่เราทำงานแบบวัวหายล้อมคอก มันไม่ใช่ เราต้องเอาบทเรียนทุกอันมาดำเนินการ มาคิดและวิเคราะห์หาทางแก้ไขปัญหา เพราะตอนนี้สถานการณ์ไม่ใช่แค่ผู้เสพ ผู้ซื้อ และผู้ขาย พฤติกรรมมนุษย์มันเปลี่ยนไปด้วย นั่นคือสิ่งสำคัญเราต้องให้ความสำคัญตรงนี้
นายกฯ กล่าวว่า ในเรื่องการบำบัดฟื้นฟูให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งรัดกฎหมาย สำหรับใช้ในการบำบัดดูแลรักษาคัดกรองผู้ป่วย ผู้เสพให้เข้าสู่กระบวนการอย่างเหมาะสม รวมถึงการปรับปรุงและเพิ่มสถานที่บำบัดรักษา ที่วันข้างหน้าอาจจะมีจากภาคเอกชนหรือธุรกิจหรือไม่ ซึ่งมีมาตรฐานเหมือนที่ต่างประเทศมี ทั้งนี้ เพื่อการแปลนโยบายไปสู่การปฏิบัติให้มีประสิทธิภาพและเกิดการบูรณาการในการทำงาน 1. ให้มีการบริการฐานข้อมูลยาเสพติดของ ป.ป.ส. ที่ให้เป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อทำการหน้าที่ประสานในทุกระดับ 2. ทุกหน่วยงานจะต้องจัดทำแผนของตนเองในทุกระดับให้ครอบคลุมทุกพื้นที่เป้าหมาย 3. ให้ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดบูรณาการแผนปฏิบัติต่างๆ ให้มีความสอดคล้อง และสร้างกลไกในกำกับดูแลให้มีความคืบหน้าทุกด้าน 4. ทุกหน่วยงานจะต้องตรวจสอบข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับขบวนการค้ายาเสพติดไม่ว่าจะเสพ ค้า หรือมีส่วนร่วมกับขบวนการจะต้องถูกลงโทษทั้งทางวินัยและอาญาซึ่งผู้บังคับบัญชาจะต้องโดนตรวจสอบและลงโทษด้วย 5. การแจ้งข้อมูลของประชาชนจะต้องทำให้เขาเชื่อมั่นว่ามีความปลอดภัยในการในการแจ้งเบาะแส
“ขอให้ทุกหน่วยงานสื่อสารและประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจให้ประชาชนทราบแนวทางผลการปฏิบัติเพื่อจะได้เกิดความเชื่อมั่นทุกอย่างประเทศจะเดินไปได้ด้วยความเชื่อมั่นในประเทศและต่างประเทศสิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราต้องร่วมมือทำไปด้วยกัน ไม่มีใครจะแก้ปัญหายาเสพติดได้เพียงประเทศเดียวหรือหน่วยงานเดียว ฉะนั้น จะต้องให้ความสำคัญกับหมู่บ้านและชุมชน” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวเน้นย้ำในเรื่องของการดูแลควบคุมสารตั้งต้น ที่ใช้ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด เพราะเป็นอันตรายและเป็นต้นตอ การนำไปสู่การผลิตยาเสพติด จึงขอให้มีติดตามดำเนินคดีในเรื่องนี้ ซึ่งตนรอผลงานตรงนี้ด้วย ทั้งนี้ อยากให้บ้านเมืองของเรามีความเจริญเติบโต อยากให้บ้านเมืองมีรายได้ที่ดีมีการค้าขายที่ดี ทุกคนมีความสุข สิ่งสำคัญที่สุดคือพื้นฐานด้านความมั่นคงทั้งสิ้น จึงอยากให้ทุกคนได้ทราบว่าความมั่นคงเป็นพื้นฐานของเศรษฐกิจ สังคมและทุกอย่าง ขณะนี้บ้านเมืองเราอยู่ในสถานการณ์สงบเรียบร้อย และในช่วงการประชุมเอเปกที่ผ่านมา ได้เห็นบ้านเมืองที่สวยงาม มีความสะอาด นี่คือประเทศไทย ทุกคนยิ้มแย้มมีความสุข ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่จะหาได้ง่ายๆ เพราะได้เห็นคนไทยมีรอยยิ้มเป็นเจ้าบ้านที่ดี ดังนั้น หลังการประชุมเอเปก ก็หวังว่าทุกอย่างจะสงบเรียบร้อยไปได้ด้วยดี เพื่อให้ทุกอย่างดีกว่าเดิมในทุกมิติ สิ่งไหนที่เป็นปัญหาก็แก้ไข หาดติดขัดก็ติดตามขับเคลื่อน อยู่ที่ทุกคนจะตั้งใจมากน้อยเพียงใด