“ประธานชวน” ไม่ตื่นเต้นถูกกล่าวหาทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง ระบุ ได้ยินมาตลอดเหมือนคนไม่พอใจท่องสูตรมา ลั่น ไม่เคยทำหน้าที่เฉไฉให้เสียประโยชน์ส่วนรวม วอน ฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้าน ร่วมมือกันทำงานสภาให้จบ แม้ขัดแย้ง เผย ต่อสายคุย “วิษณุ” หลายครั้ง จี้ ฝ่ายรัฐบาลรักษาองค์ประชุม เหตุเป็นเสียงข้างมาก
วันนี้ (24 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.17 น. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาในการตั้งคำถาม เพื่อลงมติในมาตรา 9/1 ของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเข้าชื่อเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (ฉบับที่…) พ.ศ. … ทำให้ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลลงมติผิดเนื่องจากความเข้าใจผิด ว่า ตนให้ฝ่ายกฎหมายดูถึง 3 ครั้ง ว่าจะถามอย่างไร แต่สมาชิกอาจจะไม่ได้จับประเด็นว่าถามอะไร จึงเกิดความเข้าใจผิด เรื่องที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่เรื่องคะแนนน้อยหรือมาก จึงดำเนินการลงมติใหม่ได้ ซึ่งก่อนการลงมติใหม่ ตนก็ได้ขอมติจากที่ประชุมว่าจะให้ลงมติใหม่หรือไม่ แต่ตอนจะลงมติองค์ประชุมหายไปแล้ว เมื่อไม่ครบองค์ประชุมตนก็ต้องปิดประชุม
เมื่อถามว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าประธานสภา ทำหน้าที่เป็นกลางหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในรอบ 4 ปี ตนคงไม่ไปเฉไฉให้เสียกระบวนการ เมื่อวาน (23 พ.ย.) คนของรัฐบาลก็ขอสงวนคำแปรญัตติขอเพิ่มมาตรา 9/1 ด้วย จึงไม่ใช่เรื่องความไม่เป็นกลาง แต่เมื่อเข้าใจผิดก็นับคะแนนใหม่ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้มีผลอะไรต่อบ้านเมืองส่วนรวม
ถามย้ำว่า มีการระบุว่าประธานสภา ทำหน้าที่เข้าข้างรัฐบาล นายชวน กล่าวว่า เรื่องแบบนี้ตนก็ได้ยินตลอด แต่สมาชิกส่วนใหญ่รู้ดีว่าตนตัดสินสิ่งต่างๆ ด้วยความเป็นกลาง ส่วนเมื่อตัดสินแล้วบางคนไม่พอใจก็บอกว่าตนไม่เป็นกลาง เหมือนเป็นสูตรที่ท่องมา อย่างไรก็ตาม สำหรับงานสภาคงต้องขอความร่วมมือทุกฝ่ายให้มาร่วมประชุม ซึ่งระบบนี้ฝ่ายที่เป็นรัฐบาลได้ คือ มีเสียงข้างมาก ดังนั้น ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษเรื่ององค์ประชุม ตนได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้ช่วยบอกรัฐบาลด้วยว่าสภามีเวลาไม่มากนัก ขอความร่วมมือทุกพรรคให้มาประชุม ส่วนพรรคการเมืองจะไม่พอใจอะไรกันก็เป็นเรื่องหนึ่ง ตนไม่มีโจทย์ไปแกล้งให้ไม่ครบองค์ประชุม เพราะในส่วนรวมไม่มีใครได้อะไร
เมื่อถามว่า เหตุการณ์องค์ประชุมล่มจะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ใช้อ้างเป็นเหตุผลเพื่อยุบสภาเร็วขึ้นหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ก็ไม่ทราบ เพราะอำนาจเรื่องนี้อยู่ที่รัฐบาล เราไม่ทราบว่าเขาคิดอย่างไร การเมืองผันแปรทุกวัน แต่ตอนนี้รัฐบาลมีเสียงข้างมากอยู่ ถ้ามีการเสนอญัตติหรือกฎหมายของรัฐบาลเข้ามา ตนก็มีคำถามว่าถ้าไม่มาเป็นองค์ประชุมจะผ่านได้อย่างไร ฉะนั้น ต้องย้ำเรื่องความรับผิดชอบ ประชาชนจับตาดูอยู่ ส่วนตัวเรียกร้องทุกคนให้มาร่วมทำงานของสภาให้จบ ที่ผ่านมาสภาทำหน้าที่ดีมาตลอด ขอให้รักษาสภาพที่ดีแบบนี้ตลอดไป ส่วนเรื่องไม่พอใจกันระหว่างฝ่ายค้านกับรัฐบาลก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่งานสภาขอให้ร่วมมือกัน
เมื่อถามว่า ต้องเรียกประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) มาพูดคุยหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า เข้าใจว่าวิป 2 ฝ่าย ไม่ค่อยลงกัน ไม่ค่อยหารือ ขัดแย้งกันตลอด เวลาจะวินิจฉัยอะไรประธานเลยตัดสินเอง ซึ่งปัจจุบันไม่เหมือนอดีต เวลาจะถามว่าใครดูแลเรื่ององค์ประชุมก็หาตัวยาก ถามรัฐบาลก็บอก นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนเคยบอกว่ารัฐบาลมอบท่านท่านต้องมาดูแลบ้าง แต่ก็เข้าใจว่ารัฐมนตรีก็มีงานประจำอยู่
เมื่อถามถึงความคืบหน้ากรณีตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ภายหลัง 14 ส.ส.เข้าชื่อเพื่อให้สอบกรณี “บิ๊กสภา” ใช้อำนาจล็อบบี้ข้าราชการจ่ายเงิน ส.ส. ประมูลห้องอาหารจัดเลี้ยง ส.ส. ประธานสภา กล่าวว่า บังเอิญตนไม่ได้ดูแลเรื่องพวกนี้ เป็นเรื่องของฝ่ายประจำที่จะพิจารณา ซึ่งตนจะสอบถามความคืบหน้าจากเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรให้
เมื่อถามถึงกรณีที่ ส.ส.ภาคใต้ และภาคอื่นๆ ของพรรคประชาธิปัตย์ ย้ายไปพรรคอื่นจำนวนมาก นายชวน กล่าวว่า รอให้ผู้บริหารพรรคชี้แจงดีกว่า ถามย้ำว่า ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ของพรรคเห็นอย่างไร นายชวน ตอบเพียงสั้นๆ ว่า “พอพ้นตำแหน่งก็มีคนใหญ่กว่าผู้ใหญ่”