xs
xsm
sm
md
lg

สภาคว่ำ กม.สุราก้าวหน้าตามคาด ก้าวไกลสู้สุดฤทธิ์งัดข้อบังคับนับคะแนนใหม่แพ้เฉียดฉิว 2 เสียง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตามคาด!!! สภาคว่ำ กม.สุราก้าวหน้า แบบเฉียดฉิว แม้ก้าวไกล ผนึกกำลังเชียร์เต็มที่ สู้สุดฤทธิ์ งัดข้อบังคับให้นับคะแนนใหม่ สุดท้ายพ่ายไปแค่ 2 เสียง

วันนี้ (2 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.20 น. ที่ประชุมสภา ที่มี นายชวน หลีกภัย ประธานสภา เป็นประธานการประชุมได้พิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่...) พ.ศ.... หรือ ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ฉบับของพรรคก้าวไกล ซึ่งกรรมาธิการวิสามัญ ที่มี นายอนุชา นาคาศัย เป็นประธานกรรมาธิการ พิจารณาแล้วเสร็จ ในวาระสอง

ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมีทั้งหมด 7 มาตรา โดย กมธ.แก้ไข 3 มาตรา เพิ่มขึ้นใหม่ 2 มาตรา และแก้ไขคำปรารภ ถึงเหตุผลของการแก้ไขกฎหมาย ว่า เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การประกอบอาชีพผลิตสุรา จากเดิมที่กำหนดเพื่อคุ้มครองบุคคลให้มีเสรีภาพในการประกอบอาชีพผลิตสุรา เกิดการพัฒนาทักษะการผลิต องค์ความรู้และสร้างนวัตกรรมสินค้าให้เกิดประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจ โดยผลการลงมติปรากฏว่า เสียงข้างมาก 145 เสียง ไม่เห็นด้วยที่กรรมาธิากรแก้ไข ต่อ 109 เสียง และมีผู้งดออกเสียง 19 เสียง

ส่วนการพิจารณามาตรา 3 แก้ไขมาตรา 153 ของกฎหมายภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ว่าด้วยเงื่อนไขขอผู้ผลิตสุราเพื่อการค้า ซึ่งเพิ่มเติมให้ต้องขออนุญาตต่ออธิบดี ในกรณีมีเครื่องกลั่นสำหรับผลิตสุราเพื่อการค้าไว้ในครอบครอง พร้อมกับกำหนดให้ออกกฎกระทรวงที่สอดคล้องกับร่างกฎหมายว่าด้วยขนาดกำลังผลิต กำลังแรงม้าเครื่องจักร ทุนจดทะเบียน โดยมีคำสำคัญที่ห้ามกฎกระทรวงกำหนดเงื่อนไขที่จะทำให้เกิดการกีดกันทางการค้าหรือก่อให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม เว้นแต่บุคคลที่ไม่ใช่สัญชาติไทย

โดยการอภิปรายส่วนใหญ่ได้แสดงความเห็นต่อร่างมาตรา 3 เปรียบเทียบกับกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. 2565 ซึ่งลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อ 1 พฤศจิกายน 2565 โดยสนับสนุนการแก้ไขของกรรมาธิการ แต่ไม่เห็นด้วยกับกฎกระทรวงดังกล่าว เพราะยังมีเนื้อหาที่กีดกันการแข่งขันการผลิตสุราที่เสรีเป็นธรรม พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลเร่งออกกฎกระทรวงดังกล่าวเพื่อให้เป็นข้ออ้างของการคว่ำร่างกฎหมายสุราก้าวหน้าของพรรคก้าวไกล

นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) อภิปรายว่า เท่าที่ตนรับรู้การผลิตสุราที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งบางครั้งมีการจำหน่ายด้วย มีการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน และผลิตที่บ้าน ใช้กรวยสังกะสีเป็นสนิม บางครั้งชาวบ้านใส่กรัมม็อกโซนเพื่อเร่งเกิดการปฏิกิริยา และส่งกลิ่นเหม็นให้พื้นที่ใกล้เคียง จึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง ตนจึงไม่ติดใจในการปฏิบัติตามกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. 2565 เพราะกฎหมายนี้ไม่ได้มีการควบคุมชาวบ้านไม่ให้ผลิตสุราเลย

นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะ กมธ. ชี้แจงว่า เรื่องคุณภาพ และสิ่งแวดล้อมไม่ได้ระบุในร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้านี้ก็จริง แต่ก็มีกฎหมายฉบับอื่นควบคุมอยู่แล้ว โดยกฎหมายฉบับนี้ คือ การให้อำนาจไปแก้ไขกฎกระทรวง ซึ่งมีการปลดล็อก แต่มีอีกล็อกขึ้นมา เช่น การเอากำลังการผลิตเบียร์ 10 ล้านลิตรออก และให้ไปทำ EIA หรือการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมแทน ทั้งที่จริงการทำ EIA อาจจะไม่สำคัญกับการทำโรงเบียร์ขนาดเล็กมาก ส่วนการทำสุราพิเศษ เช่น บรั่นดี และลิเคียวร์ ซึ่งกฎกระทรวงก็ยังไม่มีการแก้ไขในส่วนนี้ กฎหมายฉบับนี้ จึงไม่กำหนดกำลังแรงม้า และเครื่องจักร เพื่อให้เกิดการปลดล็อกการผลิตสุรา กฎหมายนี้จึงสำคัญอย่างยิ่ง เพราะออกโดยสภาฯ จึงอยากให้ช่วยกันปลดล็อกโซ่ตรวนนี้ไปให้ได้

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายในมาตรา 3 ว่า ศักยภาพของผู้ประกอบการไทย ไม่ว่าจะอยู่จังหวัดไหน ก็เป็นผู้ประกอบการระดับโลกทั้งนั้น ถ้าใช้กฎกระทรวงคุม ผู้ประกอบการไทยก็ไม่ได้รับการปลดล็อกเลย แต่มาตรา3 ที่ให้ยกเลิกความในมาตรา 153 พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต 2560 เพื่อที่จะไม่ให้มีการกีดกันการแข่งขันผ่านกำลังการผลิต กำลังแรงม้า ทุนจดทะเบียน และจำนวนพนักงาน ตรงนี้ต่างหากที่จะเป็นการปลดปล่อยศักยภาพของผู้ประกอบการไทยอย่างแท้จริงที่จะไปในระดับโลก ซึ่งนโยบายสุราก้าวหน้าไม่ใช่แค่ความเท่าเทียบทางการผลิต แต่เป็นนโยบายเศรษฐกิจ การเกษตรในการแปรูปสินค้าการเกษตร และเป็นนโยบายการท่องเที่ยวไปในตัวด้วย

“คนที่สนใจในอุตสาหกรรมอาหาร และสุราของประเทศจะทำให้เกิดการท่องเที่ยวมากขึ้น ผมจึงมีความจำเป็นที่จะต้องสนับสนุนร่างที่ กมธ. แก้ไขมาแล้วว่าสิ่งเหล่านี้ถ้าจะปลดปล่อยศักยภาพได้รัฐต้องเล็ก เรื่องแบบนี้รัฐจะใหญ่ไม่ได้ เพราะทำให้ศักยภาพไปต่อไม่ได้ เปลี่ยนแค่จากจดแจ้งของกมธ.ไปเป็นอนุญาต นี่ก็เรื่องใหญ่แล้ว เพราะการขออนุญาตจากราชการไทยที่รวมศูนย์ยากมาก และเป็นการเปิดดุลพินิจให้ข้าราชการเรียกไถจากประชาชน พี่น้องชาวสุราเรื่องใหญ่ ชอบไปหาโรงงานผลิตเหล้าตอน 3 ทุ่ม แล้วไปขอตรวจดูบัญชี ตรวจการดำเนินงาน ถ้าอยากให้เรื่องหายไป จ่ายมา 5 หมื่นบาท นี่คือ การมีกฎหมายที่หยุมหยิม กฎหมายที่พายเรืออยู่ในอ่าง ลดกำแพงอันหนึ่งแล้วสร้างขึ้นมาอีกอันหนึ่ง จึงเป็นดุลพินิจที่ทำให้ประชาชนไม่สามารถไปถึงศักยภาพระดับโลกของเขาได้ และโดนขูดรีดไถ ที่นายกฯและรัฐบาลบอกว่ากลัวเหล้าเถื่อน ผมว่าที่เถื่อนไม่ใช่เหล้าแต่เป็นกฎหมาย” นายพิธา กล่าว

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะ กมธ. เสียงข้างมาก อภิปรายว่า การแก้กฎกระทรวงเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา ทำอย่างเร่งด่วน มีการประกาศในราชกิจจาฯ ภายในวันเดียว ซึ่งไม่ค่อยปรากฏในกระบวนการที่จะออกกฎกระทรวง หรือออกกฎหมายใดๆ แสดงให้เห็นถึงความเร่งรีบ อาจจะเพื่อให้มีผลกระทบกับกระบวนการพิจารณาในสภา ก็เป็นได้ แต่กระบวนการในสภาไม่ควรเอาปัจจัยภายนอกเข้ามาเป็นปัจจัยในการพิจารณาตัวกฎหมาย ซึ่งศักดิ์สูงกว่ากฎกระทรวง เป็นการยืนยันเจตณารมณ์ของสภา ว่า ทิศทางการเปิดเสรีสุราเป็นสิ่งที่เราอยากให้เกิดการเสมอภาคกับประชาชนไม่ให้รายใหญ่ผูกขาดอีกต่อไป ถ้าเราหวังพึ่งว่ามีกฎกระทรวงมาแล้ว ซึ่งไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันให้เกิดความมั่นใจได้เลยว่า ในอนาคตทิศทางของตลาดสุราจะเป็นไปอย่างไร ถ้ากฎหมายฉบับนี้ไม่ผ่นความเห็นชอบจากสภาได้ แปลว่า กฎหมายที่เป็นแม่ของกฎกระทรวงไม่มีผลบังคับใช้ วันนี้มีกฎกระทรวงซึ่งออกเมื่อวาน มะรืนอาจจะมีกฎกระทรวงไปแก้ไขเปลี่ยนกลับก็ยังได้ ดังนั้น เราต้องยืนยันด้วยกฎหมาย

ขณะที่ นายชาดา ไทยเศรษฐ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่า ในฐานะที่ตนเป็นมุสลิม อย่างไรเสียก็ต้องลงมติงดออกเสียงร่างกฎหมายฉบับนี้แน่นอน ขอเรียนว่า เราไม่ควรนำกฎกระทรวงที่ออกเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา เกี่ยวกับเรื่องนี้มาเป็นตัวชี้วัดว่าจะรับหรือไม่รับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เพราะ พ.ร.บ.ที่กำลังจะออกอยู่ใหญ่กว่ากฎกระทรวง แต่สิ่งที่ตนกังวลคือ ปัญหาตัวเลขผู้เสียชีวิตช่วงเทศกาลต่างๆ ทั้งปีใหม่และสงกรานต์ คุณและโทษของสุรา รวมถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเยาวชน และจำนวนรายได้ของรัฐจะลดหรือเพิ่มขึ้นอย่างไร

นายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า มีกระแสข่าวว่า รัฐบาลจะทำให้ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวตก เพราะเป็นร่างกฎหมายของพรรคก้าวไกล ทั้งนี้ ตนสนับสนุนให้การผลิตสุราชุมชนเพื่อยกระดับราคาข้าว ปัจจุบันข้าวเปลือกกิโลกรัมละ 7 บาท หากให้ประชาชนทำสุราของตนเอง จะเพิ่มราคาข้าวเปลือกเป็นกิโลกรัมละ 20 บาท หากร่างกฎหมายนี้ตกตนเสียดาย และกรรมาธิการเสียเวลาทำกฎหมายอย่างยิ่ง

ส่วน นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า วันนี้เป็นการวัดใจ ส.ส.ว่าจะกดตามต้อยๆ ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งมาหรือไม่ ถ้ากฎหมายฉบับนี้ไม่ผ่าน แสดงว่า ยังมี ส.ส.เชื่อฟัง พล.อ.ประยุทธ์ อยู่

“เรื่องนี้เป็นการวัดใจว่าเราจะยืนข้างทุนผูกขาด หรือยืนข้างประชาชน จึงขอให้ประชาชนไปเช็กชื่อ ส.ส.ที่โหวตได้เลยได้เลย เรื่องนี้ไม่ต้องรอรัฐบาลหน้าแล้วค่อยทำ จึงอยากขอให้สมาชิกมายืนข้างประชาชน”

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีติเห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 3 ด้วยคะแนน 176 เสียง ต่อ 21 เสียง งด 159 เสียง ยังเห็นด้วยกับการแก้ไขของกรรมาธิการเสียงข้างมาก 178 เสียง ต่อ4 เสียง งดออกเสียง 175 เสียง

จากนั้นได้เข้าสู่การพิจารณามาตราที่กรรมาธิการเพิ่มขึ้นใหม่ ว่าด้วยการกำหนดให้ผู้จะผลิตสุราไม่ใช่เพื่อการค้า ให้จดแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องกลั่น ชนิดสุรา ขั้นตอนการผลิตและปริมาณ และ แก้ไขบทลงโทษหากฝ่าฝืน เป็นโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่ามติของที่ประชุมเห็นด้วยกับ กมธ. แต่พบว่ามีเสียงที่งดออกเสียงเป็นจำนวนมาก โดย มาตรา 3/1 มติที่ประชุมเห็นด้วย 106 เสียง ไม่เห็นด้วย 2 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง, มาตรา 3/2 มติที่ประชุมเห็นด้วย 164 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียงและงดออกเสียง 175 เสียง

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ใช้เวลาพิจารณาวาระ 2 เรียงลำดับรายมาตรา กว่า 3 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติไม่เห็นด้วย 177 เสียง ต่อ 174 เสียง และงดออกเสียง 11 เสียง ไม่ลงคะแนน 4 เสียง

แต่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล เสนอญัตติขอให้ลงมติใหม่ด้วยการขานชื่อ เนื่องจากข้อบังคับการประชุมสภาฯระบุว่าหากคะแนนเสียงต่างกันไม่เกิน 25 เสียง สามารถเสนอนับใหม่ได้ แต่ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายคัดค้าน เพราะจะทำให้เสียเวลาการประชุมและขอให้ยึดผลการลงคะแนนในวาระ 3 ที่ผ่านพ้นไป แต่ถูกคัดค้านจาก ส.ส.ฝ่ายค้าน ทำให้นายสุชาติสั่งให้นับคะแนนใหม่ด้วยการขานชื่อ ผลปรากฏว่า เสียงเห็นด้วย 194 เสียง ไม่เห็นด้วย 196 เสียง งดออกเสียง 15 ส่งผลให้ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ต้องตกไป


กำลังโหลดความคิดเห็น