xs
xsm
sm
md
lg

“เพจดัง” แฉเอกสาร “แอมเนสตี้” หนุน “ทุกม็อบ” ป่วน “เอเปก” แทรกแซง “กม.” ไทย “จรัล” ต้อนรับ “ธนาธร”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ กลุ่มเคลื่อนไหวม็อบ 3 นิ้ว ระดมพล “ป่วนเอเปก” หลังเอกสารแอมเนสตี้เผยแพร่ออกมาสนับสนุน ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก The METTAD
“เรื่องใหญ่แล้วนะวิ”! The METTAD แฉเอกสาร “แอมเนสตี้” วางไทยหนึ่งในเป้าเคลื่อนไหว พร้อมหนุนทุกม็อบป่วน “เอเปก” แก้ กม.ขวางสิทธิเสรีภาพ ยังไง? “จรัล” โพสต์ “ต้อนรับธนาธร” “อัษฎางค์” ซัด “อ.สามกีบ”

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (11 พ.ย. 65) เพจเฟซบุ๊ก The METTAD โพสต์ภาพและเอกสาร “แอมเนสตี้” พร้อมข้อความระบุว่า

“#เรื่องใหญ่แล้วนะวิ

สรุปพวกมรึงจะไม่ให้ประเทศสงบสุขบ้างเลยเลยใช่ไหม? ได้! งั้นเดี๋ยวจัดให้

หลังจากเก็บมือเก็บเท้า เจี๋ยมเจี๊ยมมาพักใหญ่ จนกระแสไล่แอมเนสตี้เริ่มซาลง นั่นล่ะฮะ คุณผู้ชม มันก็มากวนตีนเราอีกครั้ง

ล่าสุด แบบสดๆ ร้อนๆ มี เอกสารฉบับหนึ่ง ถูกเผยแพร่ออกมาโดยแอมเนสตี้เอง เอกสารนี้ชื่อว่า

“PROTECT THE PROTEST - FLAGSHIP CAMPAIGN ON THE RIGHT TO PROTEST AND PEOPLE’S MOVEMENTS, OPERATIONAL PLAN JUNE 2022-DECEMBER 2023”

เอกสารนี้เกี่ยวกับอะไรน่ะเหรอ

ข้อมูลชุดนี้คือ เอกสารที่แอมเนสตี้ได้กำหนดการแทรกแซงในหลายประเทศ โดยมีการกำหนดเป้าประสงค์ กำหนดวิธีการ และตั้งปฏิทินไทม์ไลน์ตั้งแต่กลางปี 2022 ไปจนถึงปลายปี 2023

และไทยก็เป็นหนึ่งในหลายประเทศที่ตกเป็นเป้าหมาย ในการปฏิบัติการเคลื่อนไหวสนับสนุนกลุ่มต่อต้านรัฐบาลไทยในทุกโอกาส โดยใช้ข้ออ้างเรื่อง “สิทธิเสรีภาพ”

และในเอกสารนี้ ก็บ่งชี้ชัดว่า แอมเนสตี้ ยังคงเคลื่อนไหวช่วยเหลือพวกม็อบ 3 นิ้วต่อไป เหมือนที่ทำมาตลอด ทั้งการออกมาปกป้องผู้ก่อเหตุจลาจล ปกป้องผู้กระทำความผิด ม.112 ปกป้องคนปล่อยเฟกนิวส์ในโลกออนไลน์ และปกป้องอาชญากรคดีอื่นๆ อีกมากมาย โดยอ้างเรื่อง “สิทธิเสรีภาพ” ซึ่งก็ดูเหมือนว่าไม่ได้มีเรื่องอะไรใหม่

ภาพ เอกสารเผยแพร่ของ “แอมเนสตี้” ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก The METTAD
แต่ในเอกสารชุดนี้ มีส่วนหนึ่งที่ระบุว่า

แอมเนสตี้เริ่มปรับเปลี่ยนวิธีการเคลื่อนไหว ด้วยการสร้างความสมัครสมานสามัคคีให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน หรือ “solidarity” ระหว่างเครือข่ายนักเคลื่อนไหวทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มนักเคลื่อนไหว “ฝ่าย ปชต.” (แต่พฤติกรรมไม่ ปชต.เบย), กลุ่มนักเรียนนักศึกษา, กลุ่มชาวบ้านเรียกร้องสิทธิที่ดินทำกิน และนักเคลื่อนไหวทุกๆ กลุ่ม เพื่อให้สามารถร่วมกันเคลื่อนไหวประท้วงต่อต้านรัฐบาลไทยต่อไปได้

และในเอกสารของแอมเนสตี้ ยังบอกอีกด้วยว่า มีเป้าประสงค์ในการเคลื่อนไหว #คัดค้านขัดขวางการประชุม APEC2022 และเคลื่อนไหวเพื่อ #หวังผลสำหรับการเลือกตั้ง ในปี 2023 แบบนี้ก็เห็นได้ชัดเจนว่า ไม่ว่า ม็อบนั้นๆ จะหัวรุนแรงหรือไม่ก็ตาม จะฝ่ายซ้ายฝ่ายขวาก็ไม่สำคัญ ขอให้ไล่รัฐบาลได้เป็นพอ

และหลังจากที่เอกสารชุดนี้หลุดออกมาไม่นาน สำนักข่าวสมพรนิวส์ ก็รายงานข่าวเมื่อคืน (10 พ.ย. 65 - 22:06 น.) ว่า

“เครือข่ายราษฎร” ประกาศเตรียมก่อม็อบประท้วงคู่ขนาน (ป่วน) การประชุม APEC วันที่ 16-18 พ.ย.

ส่วนเฟซบุ๊กเพจ “Amnesty International Thailand” ก็โพสต์รูปภาพและข้อความ (10 พ.ย. 65 - 9.32 น.) ระบุว่า “แถลงการณ์ร่วม เจ้าหน้าที่รัฐไทยต้องยุติการดำเนินคดี” โดยในภาพแถลงการณ์ร่วม ก็มีโลโก้ NGOs ที่เป็นเครือพันธมิตรเดียวกันทั้งหมด

ฮั่นแน่ ...... พวกหล่อนทำตัวมีพิรุธอีกแล้วนะ
นี่ พวกหล่อนเคลื่อนไหวตามตำราของแอมเนสตี้เป๊ะๆ เลยนี่หว่า
เอกสารมาปุ๊บ แถลงข่าวจัดม็อบปั๊บ 🤣

ภาพ บางส่วนของเอกสาร “แอมเนสตี้” ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก The METTAD
นั่นหมายความว่า ทุกกลุ่มทุกก๊วนที่ออกมารวมตัวประท้วงช่วง APEC ก็อาจจะมีองค์กรอีแอบ หรือ แอมเนสตี้ ที่ช่วยสนับสนุนการเคลื่อนไหว เพราะตัวแอมเนสตี้ ร่างเป้าประสงค์ออกมาเองเลยว่า ต้องเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มเล็กกลุ่มใหญ่ทุกกลุ่มในการประท้วง แล้วพวก “เครือข่ายราษฎร” และ “Amnesty International Thailand” ก็ทำตามตำราของมันจริงๆ ด้วย

ฉะนั้น เครือข่ายคนรุ่นใหม่ กลุ่มทะลุแก๊ส ทะลุฟ้า ทะลุแก๊ซ เครือข่ายพีมงพีมู๊ฟ หรือราษฎรหยุด APEC 2022 ไม่ว่ามรึงจะใช้ชื่อบ้าบออะไรก็ตาม มาก่อม็อบป่วนการประชุม APEC ก็เชื่อได้ว่า มาจากการสนับสนุน จากองค์กรต่างชาติเหล่านี้แน่นวลจ้ะพี่จ๋า

นอกจากนั้นแล้ว เอกสารชุดนี้ยังระบุอีกด้วยว่า แอมเนสตี้มีเป้าประสงค์ในการปฏิรูปเปลี่ยนแปลง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และกฎหมายต่างๆ ที่ขัดขวาง “สิทธิเสรีภาพในการชุมนุม” และเมื่อแอมเนสตี้ ที่อยู่ในฐานะองค์กร NGO ต่างชาติ แล้วต้องการเปลี่ยนแปลงกฎหมายของไทย นั่นหมายความว่า องค์กรต่างชาติรายนี้ พยายามแทรกแซงกฎหมายของไทย และเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้เด็ดขาด

สิ่งสุดท้ายที่น่าสนใจ ก็คือ การที่แอมเนสตี้ปรับเปลี่ยนวิธีเคลื่อนไหว ด้วยการเชื่อมกับเครือข่ายม็อบกลุ่มน้อยใหญ่ทั้งหลาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นพวก NGOs แล้วมันก็ดูคล้ายกับว่า พวกเขากำลังกลัว “ #กฎหมายควบคุมNGOs” ที่รัฐบาลนี้กำลังผลักดัน จึงต้องรวมตัวกับ NGOs องค์กรอื่นๆ ให้แน่นแฟ้นเข้าไว้ เพราะในอนาคตอันใกล้นี้ พวกเขาจะต้องร่วมกันเคลื่อนไหวต่อต้าน “กฎหมายNGOs” ไม่งั้น ทุกกลุ่มจะโดนตรวจสอบท่อน้ำเลี้ยง ว่ารับเงินมาจากไหน เอามาทำอะไร เอาเงินไปใช้ทำตามเป้าประสงค์จริงหรือเปล่า หรือแอบเอาไปซื้อแก๊ดเจ็ต และถ้าการตรวจสอบมันเข้มข้นมาก ลุงแก่ใจดีสปอร์ตอาจจะตัดท่อน้ำเลี้ยงก็เป็นได้ มุแง้

ดังนั้น เราจึงต้องสนับสนุน “กฎหมายควบคุม NGOs” ให้สุดซอย และ พวก NGOs ระยำที่รับเงินต่างชาติมาแทรกแซงไทย ก็ไม่ควรจะให้อยู่ในประเทศไทยอีกต่อไป 😂😂😂😂😂”

ภาพ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย โพสต์ต้องรับ “ธนาธร” ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากไทยโพสต์
ขณะเดียวกัน นายจรัล ดิษฐาภิชัย อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประธานสมาคมนักประชาธิปไตยชาวไทยไร้พรมแดน ลี้ภัยในประเทศฝรั่งเศส โพสต์ภาพคู่กับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในเฟซบุ๊กส่วนตัว Jaran Ditapichai พร้อมเขียนข้อความสั้นๆ บนเฟซบุ๊กว่า “ต้อนรับเอก ธนาธร”

มีรายงานว่า ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีผู้ต้องหาคดี 112 หลายคน ทยอยหลบหนีไปต่างประเทศ หลังจากได้รับการประกันตัวจากศาล ได้แก่ น.ส.เบญจมาภรณ์ นิวาส หรือ พลอย และ น.ส.สุพิชฌาย์ ชัยลอม หรือ เมนู นักเคลื่อนไหวในนามกลุ่มทะลุวัง เดินทางไปที่ประเทศแคนาดา

ส่วนที่ประเทศฝรั่งเศส มี น.ส.กัลยมน สุนันท์รัตน์ หรือ มิ้นท์ หรือ เจ๊เขียว กลุ่มนาดสินปฏิวัติ และ เรเน่ พุทธพงศ์ หญิงข้ามเพศ ผู้ต้องหาคดี 112 รายล่าสุดที่หลบหนีออกต่างประเทศ และเข้าสู่กระบวนการลี้ภัย

ภาพ โพสต์ที่ทำให้ อัษฎางค์ ยมนาค ต้องโพสต์โต้ ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพจเฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค ของ นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ภาพ นักวิชาการ “สามกีบ” ให้คำจำกัดความ “เผ่าพันธุ์สลิ่ม” ระบุว่า

“สามกีบคือเผ่าพันธุ์ที่ …
เกลียดเมืองไทยแต่ยังอยู่เมืองไทย
รักอเมริกา เกลียดจีน แต่ยังหากินอยู่กับจีน
เกลียดทหารและเรียกร้องให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร แต่สมัครไปเป็นทหารยูเครน

ต่อต้าน 112 ซึ่งเป็นกฎหมายห้ามดูหมิ่นเหยียดหยามแต่ยังฟ้องคดีผู้อื่นที่ดูหมิ่นเหยียดหยามตัวเอง

คนไทยยิ้มเพราะไม่มีจุดยืนอะไรเลย แต่ตัวเองก็ยังยิ้ม

ไม่เชื่อว่า การกราบไว้บูชาจะนำมาสู่ความสำเร็จ แต่ตัวเองยังคงกราบไว้บูชา

มีอะไรอีก ช่วยกันเติมลงในคอมเมนต์ให้จานข้าวหมาหน่อยจ้า”

แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ กรณีองค์กร “เอ็นจีโอ” ต่างประเทศ ด้านสิทธิมนุษยชน อย่าง “แอมเนสตี้” มีความพยายามแทรกแซงกิจการภายในของไทย ผ่านเครือข่ายม็อบ 3 นิ้วทั้งหลาย ทั้งยังวางเป้าหมายปีนี้และปีหน้าที่จะเคลื่อนไหวอย่างเข้มข้นในประเทศไทย โดยเฉพาะการแก้ไข พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และกฎหมายทั้งหมดที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน

ยิ่งกว่านั้น ยังประกาศหนุนทุกม็อบในการเคลื่อนไหวช่วงมีการประชุมสุดยอมผู้นำ “เอเปก” ในไทย ที่ใกล้จะมาถึง

และ โดยพลันที่มีการเผยแพร่เอกสาร “แอมเนสตี้” ออกมา ปรากฏว่า ม็อบเครือข่าย 3 นิ้ว ขานรับทันควัน

ทั้งที่ช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปก ถือเป็นหน้าตาของประเทศไทย เป็นโอกาสที่ไทยจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างประเทศทุกด้าน และจะทำให้เงินสะพัดในประเทศไทยอย่างมหาศาล จนกล่าวกันว่า นี่คือ “โอกาสทอง” ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจก็ว่าได้ แต่คนไทยจำนวนหนึ่ง กำลังทำตัวเป็น “สมุนบริวาร” ต่างชาติ ที่มุ่งทำลายประเทศชาติของตัวเอง โดยไม่สนใจ ผลกระทบอย่างใหญ่หลวงที่จะตามมากับคนไทย ประเทศไทย

เพียงเพราะต้องการต่อต้าน “รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์” ก็สามารถทำได้ทุกอย่าง ไม่เลือกวิธี ไม่เลือกกาลเทศะ หรือ ผลประโยชน์ประเทศ และประชาชน จะได้รับ นี่คือ เครื่องพิสูจน์อย่างแจ้งชัดว่า ทำเพื่อ “ผลประโยชน์ส่วนตัว”

จึงนับว่าน่าจับตามอง ถ้าเป็นจริงอย่างเอกสารที่ถูกนำมาแฉ ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับ “ขบวนการ” ที่ทำตัวเป็นลูกน้อง สมุนบริวารต่างชาติ จะต้องรับผิดชอบ และหมดข้ออ้างในการต่อสู้เพื่อประชาชนคนไทยไปเรียบร้อย


กำลังโหลดความคิดเห็น