ปลัด สธ.เผยใช้ LAAB รักษาโควิด กลุ่มเล็กน้อยถึงปานกลาง ลดรุนแรงและเสียชีวิต 50-67% และสูงถึง 88% ถ้าได้เร็วใน 3 วัน ผู้เชี่ยวชาญเตรียมสรุปข้อบ่งใช้ลงไกด์ไลน์ฉบับใหม่ พร้อมวางแนวทางเบิกจัดส่งวัคซีนโควิดและ LAAB หลังยกเลิกฉุกเฉิน
เมื่อวันที่ 9 พ.ย. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการใช้ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (Long Acting Antibody : LAAB) ว่า ที่ผ่านมา สธ.นำ LAAB หรือชื่อการค้า Evusheld มาฉีดเพื่อป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อในกลุ่มผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำและร่างกายไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ด้วยวัคซีนจำนวนกว่า 6,300 ราย พบว่ามีความปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง ส่วนการใช้เพื่อการรักษานั้น เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา อย.อนุมัติขยายข้อบ่งใช้เพื่อรักษาโควิด สำหรับผู้ที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง ในกลุ่มผู้ใหญ่และวัยรุ่นอายุ 12 ปีขึ้นไป มีน้ำหนักตัวอย่างน้อย 40 กิโลกรัม ใช้ขนาด 600 มิลลิกรัม ส่วนการประชุมคณะผู้เชี่ยวชาญ เมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาปรับปรุงแนวทางการใช้ LAAB จะกำหนดไว้ในแนวทางเวชปฏิบัติการดูแลรักษาโรคโควิด 19 ฉบับใหม่ต่อไป
“ผลการศึกษาวิจัยการใช้ LAAB ขนาด 600 มิลลิกรัม ฉีดเข้ากล้ามเนื้อผู้ป่วยโรคโควิด 19 ที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลางที่เข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยนอก และมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต พบว่า การให้เพื่อการรักษาภายใน 5-7 วันหลังมีอาการ สามารถลดการเกิดโรครุนแรงหรือเสียชีวิตได้ 50-67% และสูงถึง 88% ถ้าได้เร็วรับภายใน 3 วันหลังเริ่มมีอาการ จึงเป็นข้อสนับสนุนในการนำมาใช้รักษาอีกทางหนึ่ง” นพ.โอภาสกล่าว
นพ.โอภาสกล่าวว่า ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข กรมควบคุมโรค ได้หารือถึงการบริหารจัดการวัคซีนโควิด 19 และ LAAB หลังปรับลดเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง มีแนวทางเบิกและจัดส่ง ดังนี้ 1.กรมควบคุมโรคสำรวจความต้องการวัคซีนและ LAAB (รอบปกติ) เดือนละ 1 ครั้ง ทุกวันที่ 20 ของเดือน เป็นการเบิกล่วงหน้า 2 เดือน จังหวัดรายงานความต้องการผ่านกองตรวจราชการ สำนักงานปลัด สธ. 2.กรมควบคุมโรคจัดส่งวัคซีนและ LAAB รอบปกติ ภายในวันสุดท้ายของเดือนถัดไป
3.จังหวัดสำรองวัคซีนและ LAAB ที่มีอายุยาวอย่างน้อย 2 เดือนขึ้นไป เพื่อป้องกันการหมดอายุ เนื่องจากหลังยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต้องจัดจ้างส่งวัคซีนตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้าง พ.ศ.2560 ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาจัดส่งเพิ่มขึ้น และ 4.การขอรับสนับสนุนวัคซีนและ LAAB เพิ่มเติม (นอกรอบปกติ) กรณีเร่งด่วน ให้ สสจ.ทำหนังสือถึงกรมควบคุมโรค ระบุชนิดและจำนวน รวมถึงวันเวลาที่ต้องการรับ และมารับที่คลังวัคซีนกรมควบคุมโรคโดยตรง กรณีมีวัคซีนสำรองอยู่ในจังหวัดหรือเขตสุขภาพ สามารถเกลี่ยวัคซีนที่มีอยู่ได้ตามความเหมาะสม ซึ่งหากเป็น LAAB จะใช้เวลาเตรียมการจัดส่งประมาณ 5 วัน